มูลนิธิกระจกเงา วอนอย่ารำคาญแชร์ภาพคนหาย ชี้พบตัวคน ดีกว่าเจอเป็นศพ




            ศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา เผยหลักดำเนินการตามหาคนหาย วอนสังคมอย่ารำคาญการแชร์ภาพคนหาย ชี้พบตัวคน ดีกว่าเจอเป็นศพ

            จากกรณีที่ในโลกออนไลน์ได้มีการช่วยกันแชร์ภาพตามหาหญิงสาววัย 25 ปี ที่หายตัวไปจาก จ.นนทบุรี จนกลายเป็นข่าวฮือฮา ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินทางกลับมาบ้านที่ จ.หนองคาย ในที่สุด โดยเผยว่าปลอดภัยดี แต่ไม่ขอพูดถึงสาเหตุที่หายตัวไป และขอให้เรื่องจบเพียงเท่านี้

            ล่าสุด (18 กุมภาพันธ์ 2558) ศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก อธิบายถึงหลักการดำเนินการตามหาคนหายของทางมูลนิธี พร้อมวอนคนในสังคมว่า อย่ารำคาญการแชร์ภาพคนหาย หรือชินว่าเห็นบ่อย เพราะความเป็นห่วงและช่วยแชร์ อาจจะช่วยให้มีคนพบเบาะแสหรือข้อมูล ไม่ว่าคนหายจะหายไปด้วยสาเหตุใดก็ตาม เมื่อเขากลับถึงบ้านอย่างปลอดภัยก็ควรร่วมยินดี และการพบตัวแบบเป็น ๆ ย่อมดีกว่าพบเป็นศพ

สำหรับข้อความจาก ศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา มีดังนี้

            "การตามหาคนหายของมูลนิธิกระจกเงา เรามีหลักในการพิจารณาเบื้องต้น คือ อายุและอาการของคนหาย ถ้าต่ำกว่า 18 ปี เรียกว่าเด็ก จะรับดำเนินการทุกกรณี ไม่ว่าจะหายไปด้วยสาเหตุใด, ถ้าเกิน 18 ปี แล้วมีอาการทางสมอง อาการทางสุขภาพจิต ก็รับดำเนินการทุกกรณี เช่นกัน

            แต่...ถ้าเกิน 18 ปี มีอาการปกติ ครบถ้วนสมบูรณ์ทุกประการ ก็ต้องดูข้อมูลแวดล้อมประกอบ พิจารณาข้อมูลส่วนบุคคลและครอบครัว เพราะคนอายุเกิน 18 ปี ถือเป็นผู้ใหญ่ ซึ่งเราถือสิทธิความสมัครใจต้องได้รับการคุ้มครอง หากเขาไม่อยากอยู่หรือไม่อยากพบใคร แต่ก็ต้องพิจารณาให้รอบคอบ เพราะผู้ใหญ่ก็อาจเกิดเหตุร้ายได้ ไม่เลือกว่าวัยไหน

            การติดตามหาคนหาย ขั้นแรกเราใช้การสืบสวนจากข้อมูลรอบตัวคนหายก่อน ใช้หลักว่า "หายจากสิ่งใดให้ตามจากสิ่งนั้น" หายจากคุยกับคนในโทรศัพท์ให้ตามจากโทรศัพท์ หายจากคุยกับคนในอินเทอร์เน็ตให้ตามจากคอมพิวเตอร์ของคนหาย หายจากการติดเพื่อนให้ตามที่เพื่อนสนิท ซึ่งครอบครัวจะทราบดีที่สุดว่าเขาน่าจะหายไปจากเรื่องใด หรือพอวิเคราะห์ได้ว่าอะไรเป็นปัจจัยในการหายตัวไป (ปัญหา คือ บางครอบครัวบอกข้อเท็จจริงไม่หมด)

            เราใช้การประชาสัมพันธ์ภาพถ่ายคนหาย เป็นวิธีการสุดท้ายในการติดตามคนหาย นั่นเพราะไม่มีเบาะแสในการสืบ การประชาสัมพันธ์จึงเกิดขึ้นเพื่อขอรับเบาะแส สิ่งสำคัญที่ต้องระลึกไว้เสมอคือ ภาพและข้อมูลในอินเทอร์เน็ตลบไม่ออก เพราะถูกโพสต์ซ้ำ มีต้นฉบับใหม่เกิดขึ้นจำนวนมาก ซึ่งอาจมีผลกระทบตามมาหลังจากคนหายกลับบ้านแล้ว (แน่นอนว่า ความเห็นนี้ย่อมถูกวิจารณ์ว่า ตอนคนในครอบครัวหาย ทุกคนก็พยายามทำทุกวิถีทางในการติดตามคนหาย)

            ผมพูดในฐานะคนทำงานเรื่องนี้และเข้าใจความรู้สึกครอบครัวคนหายดีไม่แพ้ใคร และเห็นผลกระทบมากับตา จึงอยากให้ย้อนกลับไปอ่านวรรคที่สามก่อน แล้วจงทำสิ่งนั้นเป็นอันดับแรก เพราะหากเป็นเหตุสมัครใจหาย คนในครอบครัวจะทราบ เพราะมันจะมีเหตุการณ์ก่อนหายตัวไปเสมอ

            ในขณะที่สังคมก็ต้องเรียนรู้ว่า การแชร์ภาพคนหาย เพราะความเป็นห่วง เอาใจช่วยอยากให้เจอ เพราะเกรงว่าจะเกิดร้าย อย่างน้อยการช่วยแชร์ อาจจะมีคนพบเบาะแสหรือข้อมูล อย่ารำคาญหรือชินว่าเห็นบ่อยจนกลายเป็นเรื่องปกติ และท้ายสุดไม่ว่าคนหายจะหายไปจากสาเหตุใดก็ตาม เราควรยินดีที่เขากลับบ้านอย่างปลอดภัย แม้ว่าจะเป็นการหายตัวไปด้วยสาเหตุส่วนตัวก็ตาม การพบตัวแบบเป็น ๆ ย่อมดีกว่าพบเป็นศพในเรื่องร้าย

            และอย่าถอดใจหรือตั้งกำแพงกั้น เวลาเจอภาพคนหาย ว่าไปเองเดี๋ยวก็คงกลับเอง เพราะทุกเคสไม่เหมือนกัน และไม่ได้โชคดีทุกราย คนหายอาจกำลังต้องการความช่วยเหลือจากเราอยู่"


ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก ศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา


เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
มูลนิธิกระจกเงา วอนอย่ารำคาญแชร์ภาพคนหาย ชี้พบตัวคน ดีกว่าเจอเป็นศพ โพสต์เมื่อ 19 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา 00:35:10 7,792 อ่าน
TOP
x close