
นายกรัฐมนตรีใช้อำนาจมาตรา 44 สั่งตั้งกรรมการพิเศษเร่งแก้ปัญหา กรณีจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ระงับเพิ่มเที่ยวบินเช่าเหมาลำจากไทย ขณะที่คมนาคมมั่นใจสามารถแก้ข้อสงสัยทั้ง 8 ประเด็นหลักของไอซีเอโอได้ใน 2-8 เดือน
วานนี้ (30 มีนาคม 2558) พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวแถลงถึงการแก้ปัญหา กรณีเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และจีน ประกาศห้ามเครื่องบินแบบเช่าเหมาลำของไทยเพิ่ม หรือเปลี่ยนแปลงเที่ยวบิน เนื่องจากไม่ผ่านมาตรฐานการบินขององค์การการบินระหว่างประเทศ โดยระบุว่าปัญหาดังกล่าวเป็นเรื่องที่สะสมมานาน ต้องเร่งแก้ปัญหาปัญหามาตรฐานกรมการบินพลเรือน (บพ.) ของประเทศไทย ซึ่งองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ไอซีเอโอ) เข้ามาตรวจนานแล้ว จากเดิมที่มี 3 แสนเที่ยวบินต่อปี ตอนนี้เพิ่มเป็น 6 แสนเที่ยวบินต่อปี แต่กรมการบินพลเรือน มีเจ้าหน้าที่ตรวจมาตรฐานความปลอดภัยด้านการบิน เพียง 13 คน
พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า รัฐบาลจะแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจัง โดยจะใช้อำนาจตามมาตรา 44 สั่งให้ตั้งคณะกรรมการพิเศษ 1 ชุดเพื่อแก้ปัญหาด้านกฎหมาย โดยเพิ่มบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญทั้งว่าจ้างจากต่างประเทศ แก้ข้อบกพร่องของกรมการบินพลเรือนให้เป็นไปตามที่ไอซีเอโอกำหนด แต่หากยังไม่เป็นที่พอใจของไอซีเอโอ ก็จะมีมาตรการเพิ่มอีก ก็ต้องเป็นไปตามกฎในเรื่องความปลอดภัย

ส่วนการได้พบกับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นและประธานาธิบดีเกาหลีใต้ก็มีการพูดคุยกัน ซึ่ง 2 ประเทศก็รับจะไปพิจารณา โดย นายชินโซ อะเบะ นายกรัฐมนตรีประเทศญี่ปุ่น ชี้ว่าสิ่งสำคัญคือหากบินไปแล้วเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา ประเทศไทยต้องรับผิดชอบทั้งหมด ดังนั้นอย่ามองเรื่องเศรษฐกิจอย่างเดียว เมื่อจำเป็นก็ต้องทำตามกติกาเพื่อให้เกิดการยอมรับว่า เราไม่ได้ฝืนกฎสากล
ด้าน พล.อ.อ. ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีคมนาคม กล่าวว่า ตนมั่นใจว่าจะแก้ปัญหาทั้ง 8 หัวข้อหลักที่ไอซีเอโอได้ตรวจพบ ทั้งข้อบกพร่องเรื่องการออกใบอนุญาต การขนส่งสินค้าอันตราย รวมทั้งการตรวจมาตรฐานความปลอดภัยต่าง ๆ โดยจะยกระดับความสำคัญขึ้นเป็นวาระแห่งชาติ มีการจัดตั้งคณะกรรมการ 2 ชุด คือคณะกรรมการอำนวยการ มีรัฐมนตรีคมนาคมเป็นประธาน พร้อมผู้บริหารระดับสูงและผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องกับมาตรฐานการบินตามที่ไอซีเอโอกำหนด และอีก 1 ชุดจะเป็นคณะกรรมการดำเนินการตามแนวทางของกรมการบินพลเรือน รายงานความคืบหน้าการแก้ปัญหาให้ไอซีเอโอทราบทุก 15 วัน และแก้ปัญหาได้ทุกด้านภายใน 2-8 เดือน ขณะที่ผลกระทบการระงับชาร์เตอร์ไฟลท์ และงดเพิ่มเที่ยวบินฤดูร้อนขณะนี้ มีผลกระทบครอบคลุม 3 ประเทศคือ ญี่ปุ่น เกาหลี จีน โดยกระทบเที่ยวบิน 300-400 เที่ยวบิน และทำให้พลาดเป้าผู้โดยสาร 150,000 คน
อย่างไรก็ตามการบินไทยยืนยันยังคงให้บริการเที่ยวบินประจำสู่ญี่ปุ่น ไม่กระทบผู้โดยสารทุกเที่ยวบิน ตามตารางบินปกติภาคฤดูร้อน 2558 ซึ่งได้รับอนุญาตให้ทำการบินได้ทุกประเทศแล้ว แต่มีผลกระทบต่อเที่ยวบินเช่าเหมาลำ 2 เที่ยวบิน ไปเมืองโคมัตสุ และเมืองฮิโรชิมาวันที่ 11 และ 15 เมษายนนี้เท่านั้น
ภาพจาก Twitter @TNAMCOT
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก







