
ไม่บ่อยนักที่จะเกิดปรากฏการณ์พระอาทิตย์ 3 ดวงบนท้องฟ้า แต่ปรากฏการณ์ที่เรานำมาฝากกันวันนี้ขอบอกเลยว่าเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นน้อยครั้งยิ่งกว่า เพราะไม่ใช่แค่พระอาทิตย์ 3 ดวงเท่านั้น แต่คราวนี้เกิดปรากฏการณ์พระอาทิตย์ 5 ดวงเลยทีเดียวละ
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเมืองพระตะบอง ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา ประชาชนชาวกัมพูชาต่างแห่ออกมาดูปรากฏการณ์สุดแปลก เมื่อมีแสงอาทิตย์ปรากฏขึ้นถึง 5 ดวงบนท้องฟ้า ตื่นตาตื่นใจกันสุด ๆ เลยทีเดียว
สำหรับเหตุการณ์พระอาทิตย์ 5 ดวงที่เกิดขึ้นนี้ อาจารย์เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้อธิบายว่า นี่ไม่ใช่เหตุการณ์พระอาทิตย์ 5 ดวง แต่พระอาทิตย์ยังมีดวงเดียวเหมือนเดิม เพียงแต่มีสุนัข (Sun Dogs) เพิ่มมาอีก 4 ตัวเท่านั้น
อาจารย์เจษฎา ได้เปิดเผยว่า "ปรากฏการณ์ดวงอาทิตย์เทียม หรือ ซันด๊อก มีชื่อเรียกเป็นทางการว่า พาร์ฮีเลีย (parhelia) เป็นคู่ของดวงแสงสว่าง อยู่ 2 ข้างของดวงอาทิตย์ จะเกิดในวันที่ท้องฟ้ามีเมฆซีร์โรสเตรตัส (Cirrostratus) ซึ่งมีผลึกน้ำแข็งขนาดใหญ่กว่า 30 ไมโครเมตร รูป 6 เหลี่ยมอยู่มาก
ซันด๊อก มักจะเกิดเมื่อดวงอาทิตย์อยู่ใกล้กับเส้นขอบฟ้า (horizon) ทำให้แสงจากดวงอาทิตย์เมื่อผ่านผลึกน้ำแข็งแล้ว มันจะหักเหไป 22 องศาก่อนจะมาถึงตาของเรา เกิดเป็น "ดวงอาทิตย์เทียม" หรือ Sun Dogs ขึ้น 2 ด้านของดวงอาทิตย์ ...
ส่วน Sun Dogs อีกคู่หนึ่งนั้น เรียกว่า พาฮีเลีย 120 องศา (120° parhelia) จะเกิดยากกว่า Sun Dogs ธรรมดามาก โดยจะเกิดที่ตำแหน่ง 120 องศาจากดวงอาทิตย์ทั้งซ้ายและขวา
สำหรับรุ้งกลับหัวนั้นเรียกว่า โค้ง เซอคัมซีนิทธัล (Circumzenithal Arc) วงแหวนสว่างในแนวระนาบจากดวงอาทิตย์เรียกว่า วง พาเฮลิค (Parhelic Circle)
จริง ๆ หลักการนี้ก็คล้ายกับเวลาเกิด "พระอาทิตย์ทรงกลด" (ไม่ได้เกิดจากปาฏิหาริย์ใด ๆ แค่เมฆมีน้ำแข็งมากเหมือนกัน) เพียงแต่ว่าผลึกน้ำแข็งในกรณีของทรงกรดนั้น จะอยู่ในทิศทางที่กระจัดกระจาย ขณะที่ผลึกน้ำแข็งในกรณีของ Sun Dogs นี้จะต้องอยู่ในแนวที่ด้านแบบของมัน นั้นอยู่ในแนวเส้นขอบฟ้าด้วย ถึงจะเกิด"
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Jessada Denduangboripant






