เกิดเหตุแผ่นดินไหว 2 ครั้งซ้อน ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน เป็นเหตุให้บ้านเรือนพังเสียหายไปถึง 20 หลัง รวมไปถึงมีผู้ได้บาดเจ็บ และเสียชีวิต อย่างละ 1 ราย ชาวบ้านต่างหนีตายกันอย่างอลหม่าน
วันนี้ (16 เมษายน 2558) สำนักข่าวจีน รายงานว่า เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 15 เมษายน ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหวขึ้น ในพื้นที่เขตหลินเตา มณฑลกานซู ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน โดยวัดแรงสั่นสะเทือนได้ถึง 4.5 แมกนิจูด จนหลายพื้นที่ของมณฑลกานซู ต่างรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนดังกล่าว ทำให้ประชาชนพากันหนีออกจากอาคารสูง มาอยู่กันบนที่โล่งแจ้งกันอย่างอลหม่าน อีกทั้งระบบขนส่งมวลชน อย่างเช่น รถไฟ ต้องหยุดให้บริการชั่วคราวในช่วงที่เกิดแผ่นดินไหว หลังจากเหตุการณ์สงบลง พบบ้านเรือนได้รับความเสียหายไปถึง 20 หลัง รวมไปถึงมีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต อย่างละ 1 ราย
หลังจากนั้นอีก 30 นาที ก็ได้เกิดแผ่นดินไหวระลอกที่ 2 ประมาณ 5.8 แมกนิจูด โดยจุดศูนย์กลางการเกิดแผ่นดินไหวรอบสอง โยกไปอยู่ที่เขตทะเลทรายโกบี บริเวณรอยต่อชายแดนระหว่าง มองโกเลีย กับ จีน ซึ่งห่างจากเมืองอู๋ไห่ ไปทางทิศตะวันตก 38 กิโลเมตร แต่ไม่มีรายงานว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตใด ๆ
โดยเหตุการณ์เช่นนี้ เคยเกิดขึ้นมาแล้วในช่วงเดือนกรกฎาคม ปี 2556 ซึ่งจุดศูนย์กลางอยู่ที่เมืองติ๋งซี ของมณฑลกานซู วัดแรงสั่นสะเทือนสูงสุดได้ถึง 6.6 แมกนิจูด เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสูงถึง 2,395 ราย และมีผู้เสียชีวิตจากโศกนาฏกรรมนี้ ถึง 95 ราย ด้วยกัน






