ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ แฉเรื่องราวความไม่ชอบมาพากลมากมาย เกี่ยวกับกรณีบุกรุกและการถือครองเอกสารสิทธิ์ที่ดินโดยมิชอบในไทย เหน็บวีรบุรุษแก๊งนกหวีดหายไปไหน ?
วันที่ 22 เมษายน 2558 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย โพสต์เฟซบุ๊ก ชูวิทย์ I'm No.5 แฉความไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับการถือเอกสารสิทธิ์ในการครอบครองที่ดินในประเทศไทย ว่ามีมาตั้งแต่อดีตซึ่งปัจจุบันก็ยังมีอยู่ให้เห็น ชี้หากเจ้าหน้าที่รัฐจริงจังในการตรวจสอบ มั่นใจเรื่องนี้ตรวจเมื่อไหร่ก็เจอเมื่อนั้น มีเนื้อหาดังนี้
"บานปลาย"
มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะ "ซุกขยะไว้ใต้พรม" อีกต่อไป เรื่องราวไม่ชอบมาพากลของประเทศไทยยังมีอีกมากที่จะให้ผมเปิดเผย
แต่นี่แหละครับ "ประเทศไทย" หากไม่ถึงคราวซวยก็ร่ำรวยกันไป เมื่อออกตัวว่าเป็น "คนดี" แล้วไปยุ่งเกี่ยวกับการเมือง ก็ต้องแน่ใจว่าบริสุทธิ์จริง เพราะสปอทไลท์มันแรง แต่หากไม่แน่จริง ผมแนะนำว่ากลับไปทำมาหากินเงียบ ๆ เสียเถอะ
เรื่องราวของที่ดิน "เขาใหญ่" หรือ สารพัดเขาไหน ๆ ทั่วประเทศไทย รวมถึงชายทะเลในบริเวณที่มีความต้องการซื้อขายสูง ไม่ว่าเชียงใหม่ เชียงราย เพชรบูรณ์ เลย ภูเก็ต สมุย กำลังตกอยู่ในมือนายทุน ชาวบ้านตาสีตาสาอย่าริมาอาจเอื้อม เพราะต้องเป็นระดับมหาเศรษธีเท่านั้นที่บุกรุกกว้านซื้อด้วยวิธีพิสดารได้ ทั้ง ๆ ที่กฎหมายกำหนดไว้อย่างชัดเจนเรื่องคุณสมบัติและวัตถุประสงค์ของที่ดิน
แต่เพราะ "ความโลภ" ไม่เคยปรานีใคร บรรดานายทุนจึงไปกว้านซื้อทำรีสอร์ทบ้าง สนามกอล์ฟบ้าง โรงแรมหรูบ้าง แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าที่ดินมีที่มาไม่ถูกต้อง
นิสัยนายทุนมันก็เหมือนกันหมด หน้าด้านหน้าทน ส่วนคนจนนั้นดันหน้าบาง
จากข้อมูลของผม มีการร้องเรียนเกิดขึ้นทั่วประเทศ ที่หนักสุดคือ เขาใหญ่ เขาค้อ เกาะสมุย ภูเก็ต เป็นสี่จุดใหญ่ที่เจ้าหน้าที่ของรัฐจะต้องรีบปูพรมตรวจสอบ อย่าอ้างว่ามีเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ เพราะเรื่องนี้ตรวจเมื่อไหร่ก็เจอเมื่อนั้น
ที่ดินของ "คีรีมายา" ในอดีตมีส่วนเกี่ยวข้องกับ "ธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การ" (BBC) ซึ่งล้มละลายหายสาบสูญไปแล้ว กรรมการของธนาคารสองคน คือ นายเกริกเกียรติ ชาลีจันทร์ ที่เสียชีวิตไปแล้วในขณะดำเนินคดี และ นายราเกซ สักเสนา ที่หนีไปอยู่แคนาดาเกือบสิบปี กว่าจะตามตัวส่งเป็นผู้ร้ายข้ามแดนมาได้ ปัจจุบันอยู่ในคุกบางขวาง ทั้งสองร่วมกันเอาที่ดินที่ไม่มีคุณภาพ ที่ดินตาบอด ที่ดินในเขตป่าสงวน มาจำนองและรู้กันกับกรรมการแบงค์ แอบอนุมัติให้วงเงินสูง ๆ ที่ดินบางแปลงมูลค่าไม่ถึงไร่ละสองหมื่น แต่ไปจำนองได้ไร่ละสองล้าน
คีรีมายาอ้างว่าได้ที่ดินมาจากกรมบังคับคดี ซึ่งยึดมาจาก BBC มาไล่ขายทอดตลาด แต่ปัญหาก็คือ ที่ดินมีความเป็นมาไม่ถูกต้อง
แถมที่ดินดังกล่าว ยังมีการรุกล้ำลำรางสาธารณะ ปิดกั้นฝายน้ำ เพราะเมื่อเป็นสนามกอล์ฟก็ต้องลงทุนตกแต่งทำเนิน ขุดบ่อทรายตามที่ออกแบบไว้ ท้ายสุดก็รุกล้ำปิดกั้นลำรางจนไม่เหลือเค้าโครงเดิม อีกทั้งอยู่ติดกับอุทยานแห่งชาติเสียขนาดนั้น วัตถุประสงค์ของกฎหมายย่อมไม่เปิดช่องให้เอาไปทำสนามกอล์ฟ แต่เขาเปิดช่องให้เกษตรกรเอาไปทำมาหากิน
ถึงจะอ้างว่าจ่ายเงินซื้อมาอย่างถูกต้อง แต่เมื่อที่มามันผิดมาตั้งแต่อดีต คุณก็ต้องรับผิดชอบ
ทุ่มเงินซื้อที่ดินเป็นพันไร่ จะบอกว่าไม่ได้ตรวจสอบที่มาอย่างงั้นหรือ ? แถมยังยืนกรานกระต่ายขาเดียวว่าตัวเองถูกต้องนักหนา หาว่าผมเป็นคู่กรณี ทั้งๆที่ผมพูดเพื่อเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ปกป้องป่าสงวนให้ลูกหลาน
ก็ไม่ใช่ไอ้ โมฆะบุรุษ" อย่างผมเหรอครับ ที่ออกมาพูดปาว ๆ อยู่คนเดียว ส่วน "วีรบุรุษ" คนดีอย่างแก๊งนกหวีดล่ะครับ ทำบ้านเมืองฉิบหายไปเท่าไร นกหวีดหายไปไหนหมดแล้ว ?"
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ชูวิทย์ I'm No.5