
ของดีในอดีตยังคงเจ๋งและน่าจดจำอยู่เสมอ เหมือน 10 สิ่งต่อไปนี้ที่มาจากยุค 80s ลองเช็กอายุกันซิว่าคุณทันได้เจอสิ่งเหล่านี้สักกี่อย่างกัน
ทุกวันนี้เราอยู่ในยุคที่เทคโนโลยีเข้าถึงแทบทุกซอกทุกมุม ฉะนั้นจะบอกว่าความเจริญก้าวหน้าและความสบายไปไกลเกือบทุกหย่อมหญ้าก็ไม่ผิดนัก และในขณะที่บางคนกระหยิ่มยิ้มย่องว่าชีวิตดี๊ดี อยากให้ลองย้อนอดีตไปยังยุค 80s ที่ iDiva พาเราข้ามเวลาไปดู โดยเฉพาะ 10 สิ่งสุดเจ๋งในยุคนี้ ซึ่งทำให้รู้เลยว่า เฮ้ย ! คนยุคนั้นเขาเก๋ากันจริงจัง
1. ดื่มด่ำกลิ่นกระดาษจากหนังสือเล่มโปรด
หนังสือเล่มโปรดที่ยิ่งเก็บไว้นาน ยิ่งเก่า กระดาษยิ่งเหลือง รู้ไหมว่ากลิ่นกระดาษของแต่ละหน้าหนังสือมันหอมหวลและแสนจะฟินแค่ไหน โดยเฉพาะถ้าได้กลิ่นโชยอ่อน ๆ ตอนจิบกาแฟกับของว่างจานโปรดด้วยแล้ว ไม่อยากจะบอกเลยว่าต่อให้ยุคนั้นมีแท็บเล็ตก็เขวี้ยงทิ้งได้ง่าย ๆ
2. โทรศัพท์ 2G
คนในยุค 80s ไม่น่าจะเสียใจหากชีวิตเขาจะพลาดการใช้สมาร์ทโฟน เพราะชีวิตที่มีแค่มือถือเล่นได้แต่เกมงูมันสงบสุขจะตายไป ไม่ต้องคอยจิ้มหน้าจอให้เจอแต่ข่าวคราวเครียด ๆ ไม่ต้องถูกไลน์ตามงานหรือต้องรำคาญกับห้องแชทไลน์กลุ่มที่ไม่รู้จะคุยอะไรไร้สาระกันนักหนา โอ้ว ชีวิตนี้เป็นของฉันแค่คนเดียว
3. มิกซ์เทปของจริง
ม้วนเทปเปล่า ๆ อัดเพลงที่ชอบใส่ลงไป หรือจะอัดเสียงพูดความในใจ ตบด้วยเพลงจีบสาวแล้วส่งเป็นของขวัญวันวาเลนไทน์ โอ๊ย ! คลาสสิกอย่าบอกใครเชียว
4. นอนตากลมเย็น ๆ รับโอโซนจากธรรมชาติ
สมัยก่อนนู้นไม่มีหรอกแอร์ มีก็แต่ลมเย็น ๆ จากธรรมชาติล้วน ๆ และดีตรงที่โลกในยุคนั้นยังสะอาดและปลอดภัย การนอนตากลมชมดาวในช่วงกลางคืนจึงให้แต่ความรู้สึกชิลสบาย เผชิญหน้าสู้ท้องฟ้าดำสนิทและนอนนับดาวกับคนรักก็โรแมนติกอย่างที่คนยุคนี้ไม่มีวันเข้าใจ
5. จดหมายมีกิมมิกฉบับเดียวในโลก !
คนในยุคที่อีเมลเข้าถึงแล้วคงไม่รู้หรอกว่า ความตื่นเต้นตอนบุรุษไปรษณีย์มายืนอยู่หน้าบ้านนั้นเป็นความรู้สึกที่วิเศษขนาดไหน และการส่งจดหมายในยุคนั้นก็มีสไตล์นะจ๊ะ โดยนอกจากจะเขียนข้อความที่อยากส่งมาแล้ว จดหมายแทบทุกฉบับยังมีตราประทับในแบบที่เรียกได้ว่า แล้วแต่ฉันอย่างจริงจัง ทั้งอัดกลีบดอกไม้เพิ่มความหอม วาดสัญลักษณ์สื่อความรักความห่วงใย หรือมีกิมมิกเล็ก ๆ พอให้ทั้งคนรับและคนในครอบครัวได้กรี๊ดกันแบา ๆ
6. เกมกระดาน
ไม่ต้องอาศัยสื่อวิดีโอหรือคอมพิวเตอร์ใด ๆ คนยุค 80s เขาเล่นเกมกระดานหรือเกมกระดาษแค่นี้ชีวิตก็ดี๊ดีแล้ว อย่างหมากรุก เกมเศรษฐีแบบกระดาษก๊องแก๊ง หรือจะเป็นน้ำเต้าปูปลาก็เฮฮากันลั่นซอยได้
7. ห้องสมุดแห่งความทรงจำ
ความรู้และตำราเรียนในสมัยนั้นหาได้จากห้องเรียนและห้องสมุดรวมแค่นั้น ไม่มีหรอกชีวิตง่าย ๆ ที่แค่ปลายนิ้วคลิกข้อมูลที่ต้องการก็เรียงพรืดเต็มหน้าจอ แต่ก็เชื่อค่ะว่า ต่อให้เลือกได้คนในยุคนั้นก็คงสมัครใจเดินหาหนังสือที่ห้องสมุดกันมากกว่า ก็มันได้ทั้งฟีลเด็กเรียน แถมยังมีโมเม้นท์กุ๊กกิ๊กหัวใจยามได้สบตากับเพศตรงข้ามผ่านชั้นหนังสืออีก โอ๊ย.. ชีวิตหวานเว่อร์ยิ่งกว่าซีรีส์เกาหลีอีก พูดเลย !
8. ปีนต้นไม้เล่นซ่อนหากัน
สมัยนี้การปีนต้นไม้เล่นกันของเด็ก ๆ ยังคงมีให้เห็นอยู่บ้าง แต่ก็ตามชนบทหรือต่างจังหวัดเท่านั้น ส่วนเด็กในเมืองใหญ่ ๆ ที่สิ่งก่อสร้างผุดขึ้นแทนดอกเห็ดและป่าเขาหมดแล้ว แน่นอนว่าคงไม่มีโอกาสได้เผชิญประสบการณ์ดี ๆ จากการปีนป่ายต้นไม้เล่นกับเพื่อนบ่อยนัก
9. งานปาร์ตี้วันเกิดที่บ้าน
บรรยากาศวุ่น ๆ ทั้งการทำอาหาร จัดสถานที่ และการต้อนรับเพื่อน ๆ ที่พ่อแม่อุตส่าห์ไปรับ-ส่งให้มางานปาร์ตี้วันเกิดเราเป็นอะไรที่สนุกและน่าประทับใจที่สุด แถมงานนี้จะเละเทะและเสียงดังแค่ไหนก็ไม่มีดราม่าผ่านโซเชียลแน่นอน ก็นี่มันบ้านเรานี่เนอะ แต่เรื่องเก็บกวาดหลังงานปาร์ตี้ก็ให้เป็นเรื่องของวันรุ่งขึ้นแล้วกัน
เพราะไม่มีคอมพิวเตอร์และแท็บเล็ตให้ใช้ การสื่อสารส่วนใหญ่จึงทำกันผ่านกระดาษและโทรศัพท์มือถือ ดังนั้นจึงมีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรจากลายมือของใครของมัน อีกทั้งกระดาษที่มีลายมือของเรายังเก็บไว้ได้ยาวนาน ย้อนดูการเปลี่ยนแปลงของลายมือตัวเองผ่านช่วงเวลาและอายุได้เพลิน ๆ
อดีตที่ไม่จางหายไปตามกาลเวลายังคงหลงเหลือให้เราได้เก็บเกี่ยวความทรงจำอันน่าประทับใจอยู่บ้างนะคะ แม้ในอนาคตจะไม่มีใครคาดเดาได้ว่า เมื่อไรที่อดีตตรึงใจเหล่านี้จะถูกกลืนหายไป แต่อย่างน้อยครั้งหนึ่งเราก็เคยได้ผ่านและมีช่วงเวลาร่วมกับมันมาสักระยะ นั่นก็ถือว่าคุ้มแล้วล่ะเนอะ






