
นักกฎหมายแจงผ่านเพจเฟซบุ๊ก ปมศาลฎีกายกคำร้อง สาวซีวิคชนรถตู้ 9 ศพ ชี้กรณีนี้ฝ่ายญาติผู้เสียชีวิตชนะคดี ไม่ใช่สาวซีวิค คดีอาญาควรจะจบให้เร็วที่สุด ไม่เช่นนั้นญาติผู้เสียชีวิตก็จะไม่ได้รับเงินเยียวยาต่อไป เพราะไม่สามารถฟ้องแพ่งได้
จากกรณีเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2558 ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางได้อ่านคำสั่งศาลฎีกา ในคดีหมายเลขดำ อ.1233/2554 ที่พนักงานอัยการ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องจำเลย คือ น.ส.แพรวา (นามสมมุติ) อายุ 21 ปี ในความผิดฐานขับรถยนต์โดยประมาท จนเป็นเหตุในผู้อื่นถึงแก่ความตาย และได้รับอันตรายต่อร่างกายบาดเจ็บสาหัส และทรัพย์สินเสียหาย ทั้งยังมีการใช้โทรศัพท์ขณะขับรถยนต์ ซึ่งจากเหตุการณ์ตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2553 โดยขณะนั้นจำเลยมีอายุ 17 ปี ได้ขับรถยนต์ฮอนด้า ซีวิค ทะเบียนกรุงเทพฯ โดยใช้เส้นทางยกระดับโทลเวย์ ก่อนเกิดเหตุพุ่งชนรถตู้โดยสาร ทะเบียน 13-7795 กรุงเทพฯ วิ่งระหว่างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต-หมอชิต จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตกระเด็นตกจากทางด่วนรวม 9 ศพ
ล่าสุด เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2558 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีสมาชิกเฟซบุ๊กชื่อ "Nithi Nikita Laieddee" ซึ่งเป็นนักกฎหมายได้แสดงความคิดเห็นถึงเรื่องดังกล่าว และข้อความดังกล่าวได้ถูกแชร์ผ่านแฟนเพจชื่อดัง Drama-addict โดยเป็นการชี้แจงข้อมูลที่มีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่อาจมีความเข้าใจว่าฝ่ายที่ยื่นฎีกาและศาลไม่รับฎีกาคือฝ่ายครอบครัวผู้เสียหาย แต่ความจริงคือ คดีนี้จำเลย หรือฝ่ายสาวซีวิค เป็นฝ่ายยื่นฎีกาต่อศาล ซึ่งก่อนหน้านี้จำเลยได้ยื่นฎีกาต่อศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์แล้ว แต่ศาลไม่รับฎีกา จำเลยจึงได้ยื่นคำร้องฎีกาต่อศาลฎีกาในครั้งอีกครั้ง
ดังรายละเอียดต่อไปนี้
ก่อนจะด่าศาลหรือกฎหมายไทย ผมอยากให้ทำความเข้าใจก่อนว่าคดีนี้
- ศาลชั้นต้น ตัดสินว่า แพรวามีความผิดฐานขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย จำคุก 3 ปี รอลงอาญา 3 ปี
- แพรวาอุทธรณ์ ขอให้ศาลลงโทษเบา ๆ หน่อย (คหสต. อาจคิดแค่ประวิงคดีแน่ ๆ) ทีมทนาย อ.ธรรมศาสตร์เลยอุทธรณ์บ้าง บอกว่าที่ท่านลงโทษจำเลยมันเบาไปนะ ขอให้ท่านลงโทษแพรวาให้หนักกว่านี้หน่อย
- ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษแพรวาอีกให้หนักขึ้น กลายเป็น รอลงอาญา 4 ปี ซึ่งก็แปลว่าศาลเห็นตามที่ทนายฝั่งญาติผู้เสียชีวิตเรียกร้อง ลงโทษแพรวาเพิ่ม
- ต่อมาแพรวายื่นฎีกาว่าศาลอุทธรณ์ลงโทษแรงเกินไป ขอให้ลดโทษลงหน่อย ศาลฎีกาไม่รับฎีกาของแพรวา
***แบบนี้หมายความว่าศาลเห็นด้วยกับฝ่ายผู้เสียชีวิตนะครับ ฝ่ายผู้เสียชีวิตชนะคดีนะครับ ไม่ใช่แพรวาชนะ*** คดีอาญาควรจะจบให้เร็วที่สุดเพราะถ้าศาลรับฎีกา (ซึ่งแพรวาน่าจะยื่นเพื่อประวิงคดีถ่วงเวลาให้นานออกไป ศาลฎีกาน่าจะใช้เวลาวินิจฉัยอีกเป็นปี) หมายความว่าคดีจะยืดยาวไปอีก เวลาที่ผู้เสียหายจะได้รับการเยียวยาก็จะช้าออกไปอีกเพราะทำให้คดีแพ่งที่ผู้เสียหายฟ้องแพ่งแพรวา+ครอบครัวยืดยาวต่อไป (คดีแพ่งศาลสั่งว่ารอผลคดีอาญาก่อนจึงจะวินิจฉัยได้) ซึ่งสุดท้ายผลคดีแพ่งผู้เสียหายน่าจะชนะ 100% อยู่แล้ว ถ้าแพรวาไม่จ่ายก็ยึดทรัพย์ (ดูน่าจะมีให้ยึดเยอะอยู่) เพื่อบังคับคดีมาชดใช้ผู้เสียหายต่อไป
อันนี้ คหสต. แบบโลกไม่สวยนะ ผมเคยดูแลคดีให้ทั้งคนจน คนรวย ทั้งฝ่ายชนเขา กับฝ่ายผู้เสียหาย ถ้าเลือกได้ผมขอให้ถูกคนรวยชนมากกว่า คนรวยมีตังค์จ่ายค่าเสียหายเยียวยาผู้เสียหายแลกกับการที่ตัวเองจะไม่ติดคุก (ถ้าศาลเห็นว่ามีการเยียวยา+ความผิดครั้งแรก ศาลมักจะรอลงอาญา) แต่คนจนที่ไปชนเขาตายมักจะบอกว่า กูยอมติดคุก อยากได้อะไรไปฟ้องเอาเอง กูไม่มีทรัพย์สินให้ยึด สุดท้ายญาติผู้เสียหายได้แค่กระดาษคำพิพากษาเปล่า ๆ ตายฟรีไป
คดีนี้ยังดีที่แพรวาเป็นเยาวชน ถ้าแพรวาบรรลุนิติภาวะแล้ว ผู้เสียหายเครียดยิ่งกว่านี้อีก เพราะฟ้องพ่อแม่แพรวาให้รับผิดด้วยไม่ได้
ตอนนี้ที่ทำได้คือให้กำลังใจญาติ ๆ ผู้เสียชีวิตกับทีมทนายธรรมศาสตร์ที่นำโดย อ.ณรงค์ ใจหาญ กับ อ.ปกป้อง ศรีสนิท ครับผม
***ย้ำอีกครั้ง ศาลไม่รับฎีกาของจำเลย = ผู้เสียชีวิตได้ประโยชน์เพราะคดีจบเร็ว แพรวาแพ้คดี !!!***

ข้อมูลจาก เพจ ดราม่า แอดดิก







