ศาลยกฟ้อง พิจิตต-ประเสริฐ คดีทุจริตซื้อที่ตาบอดทำที่จอดรถขยะ กทม.



ศาลยกฟ้อง พิจิตต-ประเสริฐ คดีทุจริตซื้อที่ตาบอดทำที่จอดรถขยะ กทม.

          ยกฟ้อง พิจิตต รัตตกุล-ประเสริฐ สมะลาภา คดีทุจริตซื้อที่ดินตาบอดทำที่จอดรถขยะ ปี 2540 ศาลชี้ราคาประเมินไม่สูงเกินจริง ด้านอดีตเลขาฯ ผู้ว่าฯ กทม. กับอดีตผอ.เขตบางซื่อ ไม่รอด สั่งจำคุก 8 และ 10 ปีตามลำดับ
 
          วันที่ 14 พฤษภาคม 2558 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นัดอ่านพิพากษาคดีที่ นายฐาปนา ใจกลม อัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 2 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายประเสริฐ สมะลาภา อดีตปลัดกรุงเทพมหานคร ,นายพิจิตต รัตตกุล อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กับพวกรวม 8 คน จำเลย ฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ จากกรณีเมื่อปี 2538-2540 ได้ทุจริตจัดซื้อที่ดินจอดรถขยะ รถน้ำ ของกรุงเทพมหานคร.โดยการจัดซื้อดังกล่าวเป็นการจัดซื้อในราคาสูงเกินจริง อีกทั้งยังเป็นที่ดินตาบอด ซึ่งรถของกรุงเทพมหานครไม่สามารถเข้าออกได้

          โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า การเสนอขายที่ดินให้กับกรุงเทพมหานครดังกล่าว ไม่ได้เป็นการเสนอขายในราคาที่ดินที่สูงกว่าราคาประเมินจริง เพราะหลังจากนายชวน พัฒนวรานนท์ อดีตผู้อำนวยการเขตบางซื่อ จำเลยที่ 8 ได้ประกาศซื้อที่ดินในเขตบางซื่อ ก็ได้สอบถามราคาประเมิน และราคาขายที่ดินทั้งจากสำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร และธนาคารพาณิชย์ ซึ่งปรากฎราคาใกล้เคียงกัน อีกทั้งลักษณะที่ดินที่จัดซื้อ เป็นที่ดินพร้อมใช้งานทันที จึงเป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการจัดซื้อไม่ขัดต่อระเบียบกรุงเทพมหานครในการใช้วิธีซื้อพิเศษ โดยไม่ประกวดราคา ดังนั้น นายพิจิตต นายประเสริฐ กับพวกซี่งเป็นจำเลยที่ 1 ,2 ,3 ,5 ,6 ,7 จึงไม่มีความผิด ศาลจึงมีคำพิพากษายกฟ้อง

          สำหรับนายสมคาด สืบตระกูล อดีตเลขานุการผู้ว่ากรุงเทพมหานคร จำเลยที่ 4 และ นายชวน พัฒนวรานนท์ อดีตผู้อำนวยการเขตบางซื่อ จำเลยที่ 8 พยานหลักฐานโจทก์ ที่ได้ความจากเจ้าของที่ดิน เจ้าหน้าที่กรมสรรพากร เบิกความสอดคล้องกันว่าหลังจาก นายชวน ได้จดทะเบียนรับโอนที่ดิน ในช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2540 เจ้าของที่ดินได้ออกเช็ค 18 ล้านบาท ผ่านนายหน้าขายที่ดิน แต่ปรากฎว่ามีการนำเช็คเข้าบัญชีเงินของนายสมคาดและนายชวน เชื่อว่าเป็นเงินที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายที่ดินของกรุงเทพมหานคร

          ขณะที่พยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบมาจึงฟังได้ว่านายสมคาด มีความผิด ฐานเรียกรับทรัพย์สินฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 149 ให้จำคุก 8 ปี ส่วนนายชวน จำเลยที่ 8 มีความผิด ฐานเรียกรับทรัพย์สินฯ และเป็นเจ้าพนักงานปฎิบัติหน้าที่มิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ให้จำคุก 10 ปี

          ทั้งนี้ทีมทนายความของจำเลยที่ 4 และ 8 ได้เตรียมยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดเพื่อขอปล่อยชั่วคราว เพิ่มจากทรัพย์เดิมที่จำเลยเคยได้รับการประกันไว้ระหว่างพิจารณาคดี คนละ 5 แสนบาท
 

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก


เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ศาลยกฟ้อง พิจิตต-ประเสริฐ คดีทุจริตซื้อที่ตาบอดทำที่จอดรถขยะ กทม. อัปเดตล่าสุด 14 พฤษภาคม 2558 เวลา 12:10:15 6,829 อ่าน
TOP
x close