กู้ภัยช่วยคนเมาบาดเจ็บ แต่กลับถูกทำร้าย ตัดพ้อแทบหมดกำลังใจ



กู้ภัยช่วยคนเมาบาดเจ็บ แต่กลับถูกทำร้าย ตัดพ้อแทบหมดกำลังใจ

             หนุ่มกู้ภัยช่วยชายเมาบาดเจ็บ แต่กลับถูกทำร้ายร่างกาย ถามทำไมเจ้าหน้าที่ร้องเรียนคนไข้ไม่ได้ ตัดพ้อชีวิตแขวนบนเส้นด้าย ไม่มีใครให้ความสำคัญ

             การปฏิบัติหน้าที่เจ้าหน้าที่กู้ชีพนั้นถือเป็นงานที่ต้องรับผิดชอบด้วยใจอาสา ซึ่งหลายกรณีเจ้าหน้าที่กู้ชีพต้องประสบพบเจอกับเหตุการณ์ที่แตกต่างกันไป ล่าสุด (11 มิถุนายน 2558) เว็บไซต์ EMO1.com   ซึ่งถือเป็นเว็บไซต์สำหรับผู้ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์ ได้บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าหน้าที่กู้ชีพรายหนึ่งที่ถูกคนที่เขาไปช่วยเหลือทำร้ายร่างกายเสียอย่างนั้น

             ทั้งนี้เรื่องราวมีอยู่ว่า... เจ้าหน้าที่กู้ชีพโรงพยาบาลกุดจับ จ.อุดรธานี ได้รับคำสั่งให้ออกปฏิบัติการฉุกเฉินเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2558 เวลาประมาณ 22.00 น. โดยเข้าช่วยเหลือชายรายหนึ่งที่มีอาการเมาสุรา และได้รับบาดเจ็บ แต่กลับถูกชายคนดังกล่าวทำร้ายร่างกาย จนเจ้าตัวรู้สึกเสียขวัญกำลังใจ เพราะออกไปช่วยตามที่รับแจ้ง แต่กลับถูกทำร้ายร่างกาย อีกทั้งยังร้องเรียนอะไรไม่ได้ เพราะที่ผ่านมามีแต่คนไข้ร้องเรียนเจ้าหน้าที่ แต่เจ้าหน้าที่ร้องเรียนคนไข้ไม่ได้ กระทั่งเมื่อไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ และทางญาติของอีกฝ่ายมาจ่ายค่าปรับ เรื่องราวทั้งหมดก็จบลงอย่างง่ายดาย

             เจ้าหน้าที่กู้ชีพรายดังกล่าวได้ระบุอีกว่า หากชายคนดังกล่าวมีอาวุธ หรือทำร้ายตนมากกว่านี้จะมีใครให้ความสำคัญหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาวิชาชีพนี้ไม่มีระบบ หรือมาตรการใด ๆ มารองรับเวลาเจ้าหน้าที่เกิดเหตุร้าย

             สำหรับเรื่องราวทั้งหมดมีดังนี้

             "เวลา 22.00 น. ของวันที่ 5 มิ.ย. 2558 หน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลกุดจับ ได้รับสั่งการให้ออกปฏิบัติการฉุกเฉิน รับแจ้งว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บเดินหกล้ม มีแผลฉีกขาดที่ศีรษะ  ชุดปฏิบัติการฉุกเฉินจึงรุดตรวจสอบ

             ที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บนอนกลิ้งอยู่กับพื้นดินที่หน้าบ้าน ใกล้กันพบชายอีกคน สภาพคล้ายเมาสุรา จากนั้นจึงนำตัวคนเจ็บขึ้นรถกู้ชีพ

             ต่อมาเจ้าหน้าที่กู้ชีพเล่าให้ฟังว่า "ระหว่างนำส่งผู้บาดเจ็บเกิดเอะอะโวยวาย และลุกขึ้นจากเตียง พร้อมกับชี้หน้า เข้ามาใช้มือทุบตนที่นั่งอยู่ข้างเตียง ผมก็พยาบาลปัดป้องและพยาบาลบอกให้เขาหยุด แต่ไม่เป็นผล จากนั้นเขาจับรองเท้าฟาดลงที่ต้นคอเต็มแรง จนเสื้อเปื้อนไปหมด ขณะนั้นตนเห็นท่าไม่ดี จึงตะโกนพร้อมเปิดกระจกกั้นห้องปฏิบัติการกับห้องคนขับรถ บอกว่า คนไข้ตีผมรีบ ๆ หน่อย"

             ตอนนั้นรถใกล้ถึงโรงพยาบาลเเล้ว อีกประมาณ 400 เมตรได้ จากนั้นเขาคว้าได้หมอน ก็ใช้หมอนทุบใส่เราอีกไม่ยั้ง พี่คนขับรีบตะโกนออกมาว่า "มึงจะทำอะไรน้องกู...แต่เขาก็ไม่ฟัง แถมยังท้าทายส่องหน้าไปหาคนขับรถอีก และเขาพยายามทำร้ายเราตลอดจนถึงโรงพยาบาล"

             "ชีวิตโคตรเสี่ยง....ผมกลัวมาก กลัวเขาจะมีอาวุธ ถ้าเราตอบโต้หรือทำอะไรลงไปมันคงจะไม่ดีแน่ มันคงจะเป็นเรื่องร้องเรียนหรือฟ้องร้องตามมาเลยไม่คิดตอบโต้ และหากทำไปเขาคงได้รับบาดเจ็บไม่น้อยแน่ ๆ และด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าทั้ง ๆ ที่เราออกไปช่วยเขาถึงที่บ้านตามที่เขาแจ้งให้ไปช่วย "ลงเวรตีหนึ่ง กลับห้องพักยังผวา... "นอนไม่หลับ เสียขวัญ" ต่อมาผู้เสียหายเข้าแจ้งความที่โรงพัก และญาติอีกฝ่ายมาจ่ายค่าปรับ เรื่องจึงจบลง
 
             "ตอนนี้ตนไม่อยากทำงานมาก เสียขวัญกำลังใจมาก หากมันทำอะไรที่มากกว่านี้ หรือเราเสียชีวิต ใครจะรับผิดชอบ ใครจะสนใจชีวิตเรา อนาคตเรา ครอบครัวเรา"

             "ที่ผ่านมามีแต่คนไข้ร้องเรียนเจ้าหน้าที่.... เจ้าหน้าที่ร้องเรียนคนไข้ไม่ได้" "ไม่มีระบบช่วยเหลือ ดูแล ไม่มีใครสนใจชีวิตเรา การทำงานของเรา เขาไม่ให้ความสำคัญ ต่อให้ตายฟรีก็ยังไม่มีความหมาย"

             "อยากให้เพื่อน ๆ วิชาชีพเราระมัดระวังตัวให้มากขึ้น โดยเฉพาะผู้หญิง ยิ่งเวลากลางคืนยิ่งอันตราย ทุกที่ที่เราออกปฏิบัติการฉุกเฉินนอกโรงพยาบาลล้วนอันตราย อะไร ๆ ก็เกิดขึ้นได้ อย่าประมาท ขนาดเราเองตั้งใจช่วยเหลือผู้อื่นมาโดยตลอด เหตุการณ์ไม่คาดคิดแบบนี้ก็เกิดขึ้นกับเราได้"

             "ตอนนี้เสียขวัญ เสียกำลังใจที่จะทำงานมาก... หวังว่าเหตุการณ์แบบนี้จะไม่เกิดขึ้นกับเรา และเจ้าหน้าที่คนอื่นอีก ไม่อยากเจอไม่อยากได้ยินเรื่องราวแบบนี้อีก"

             จากเหตุการณ์นี้ เห็นได้ว่าชีวิตของพวกเราชาวกู้ชีพ ล้วนแขวนไว้บนเส้นด้ายของความเสี่ยง เสี่ยงเป็น เสี่ยงตาย เสี่ยงติดคุก ไม่มีใครให้ความสำคัญต่อพวกเรา

             สุดท้ายหวังว่าผู้บริหาร ผู้บังคับบัญชา ผู้ดูแลระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน จ.อุดรธานี จะให้ความสนใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเจ้าหน้าที่กู้ชีพท่านนี้ อันจะเป็นแนวทางในการหามาตรการ แนวทางในการธำรงรักษาเจ้าหน้าที่ และลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับผู้ปฏิบัติการฉุกเฉินคนอื่น ๆ เพื่อให้พวกเรามีแรงใจที่จะช่วยชีวิตประชาชนคนไทยต่อไป"


ขอขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก EMO1




เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
กู้ภัยช่วยคนเมาบาดเจ็บ แต่กลับถูกทำร้าย ตัดพ้อแทบหมดกำลังใจ อัปเดตล่าสุด 12 มิถุนายน 2558 เวลา 13:49:26 14,416 อ่าน
TOP
x close