แฟ้มภาพ
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แจงปม BBC ตีข่าวแฉตำรวจทำหลักฐานคดีฆ่านักท่องเที่ยวเกาะเต่าหาย ระบุต่างชาติตีความหมายผิด ยันชัดไม่เคยมีหลักฐานหาย
จากกรณีเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2558 เว็บไซต์บีบีซี รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำคดีเกี่ยวกับคดีฆ่านักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า หลักฐานสำคัญเกี่ยวกับดีเอ็นเอฆาตกรในคดีนี้ได้หายไป และไม่สามารถตรวจซ้ำได้ เพราะมันผ่านมานานแล้วนั้น
ล่าสุด (10 กรกฎาคม 2558) พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าวตนได้รับรายงานจากผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 แล้วว่าหลักฐานและสำนวนต่าง ๆ ของคดีฆาตกรรม นางสาวฮันนาห์ วิเทอริดจ์ และนายเดวิด มิลเลอร์ นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่เกาะเต่า ไม่ได้หายไปแต่อย่างใด การที่สื่อต่างประเทศรายงานออกไปเช่นนี้อาจเกิดจากการแปลความหมายของภาษาไทยที่เจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลผิดไป จึงอาจทำให้การสื่อสารผิดพลาด
ส่วนเรื่อง DNA การที่พนักงานสอบสวนบอกว่าไม่มีการเก็บไว้ที่พนักงานสอบสวนนั้น เป็นการทำตามกระบวนการทำงานตามขั้นตอน ที่หลังจากสืบสวนเสร็จก็จะส่งหลักฐานต่าง ๆ ให้กับสถาบันนิติเวชวิทยาตรวจสอบว่าตรงกับผู้ต้องหาหรือไม่ หลักฐานต่าง ๆ เมื่อทนายของผู้ต้องหาร้องขอให้ส่งมอบชิ้นส่วน DNA ให้ ฝ่ายสอบสวนจึงบอกว่าไม่มี เนื่องจากได้ส่งต่อไปแล้ว ทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าหลักฐานไม่มีแล้วหรือหายไป
ทั้งนี้ หากทนายของผู้ต้องหาร้องขอกับศาลให้มีการตรวจสอบ DNA ใหม่อีกครั้งก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาลว่าจะมีความเห็นว่าอย่างไร แต่อย่างไรก็ตามเนื่องจากคดีดังกล่าวผ่านมานานกว่า 1 ปี หลักฐานทาง DNA ต่าง ๆ ที่ถูกเก็บเอาไว้อาจมีการเสื่อมสภาพจนอาจทำให้ไม่สามารถทำตามคำร้องขอของทนายฝ่ายจำเลยได้
สำหรับคดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเดือนกันยายน 2557 นางสาวฮันนาห์ วิเทอริดจ์ และนายเดวิด มิลเลอร์ นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ถูกฆาตกรรมเสียชีวิตอย่างเหี้ยมโหด ต่อมามีการจับกุมผู้ต้องหาคือ นายซอ ลิน และนายวิน ซอ ตัน แรงงานชาวพม่า ซึ่งคนทั้งสองก็ให้การสารภาพ แต่หลังจากนั้นก็มีการกลับคำให้การ เพราะอ้างว่าถูกทำร้ายให้ยอมรับสารภาพ และเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมา ศาลจังหวัดเกาะสมุยก็ได้เริ่มพิจารณาคดีนี้แล้ว คาดว่าศาลจะพิพากษาคดีนี้ได้ในเดือนตุลาคมนี้






