DSI ตามรอยเช็คสหกรณ์คลองจั่นฯ พบวัดพระธรรมกายซุกเงินอีกเท่าตัว เตรียมเรียกเจ้าหน้าที่มีเอี่ยวช่วย ศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์คลองจั่นฯ ตกแต่งบัญชีเท็จ เข้ารับทราบข้อหา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2558 นางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีดีเอสไอ พร้อมด้วย พ.ต.ท. สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ 3 และ พ.ต.ท. ปกรณ์ สุชีวกุล ผู้บัญชาการสำนักคดีการเงินการธนาคาร ได้ร่วมกันแถลงผลการเข้าตรวจค้นบ้านพักของเจ้าหน้าที่และอดีตเจ้าหน้าที่ของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด ที่มีส่วนร่วมสนับสนุนการกระทำผิดกับนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานกรรมการบริหารสหกรณ์เครดิตคลองจั่น จำนวน 7 แห่ง ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ประกอบด้วย
1. บ้านพักของ นายอารีย์ แย้มบุญยิ่ง ผู้จัดการสหกรณ์คลองจั่นฯ
2. บ้านพักของ นายลภัส โสมคำ อดีตเลขานุการของ นายศุภชัย ศรีศุภอักษร
3. บ้านพักของ นางสรันยา มานหมัด อดีตรองผู้จัดการสหกรณ์คลองจั่นฯ
4. บ้านพักของ นางกฤษา มีบุญมาก อดีตเจ้าหน้าที่ฝ่ายสินเชื่อ สหกรณ์คลองจั่นฯ
5. บ้านพักของ น.ส.สิรภัทร โพธิ์พรม อดีตเจ้าหน้าที่ฝ่ายสินเชื่อ สหกรณ์คลองจั่นฯ
6. บ้านพักของ น.ส.จันทร์ฉาย ขันธะหัตถ์ รองผู้จัดการสหกรณ์คลองจั่นฯ
7. บ้านพักของ นางวันเพ็ญ ยอดดี เจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน สหกรณ์คลองจั่นฯ
นางสุวณา กล่าวว่า ดีเอสไอเตรียมเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับพระจำนวน 3 รูป ประกอบด้วย เจ้าอาวาสวัดกิ่วลม เจ้าอาวาสวัดแม่สะนาม และเจ้าอาวาสวัดบ้านขุน ซึ่งทั้งหมดอยู่ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ หลังพบพระทั้ง 3 รูปได้รับเช็คจากสหกรณ์คลองจั่นฯ วัดละประมาณ 10 ล้านบาท แต่ไม่ติดต่อเข้าให้ปากคำตามหมายเรียกทั้ง 2 ครั้ง
ทั้งนี้ พ.ต.ท. สมบูรณ์ กล่าวว่า ผลการตรวจค้นครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจพบเอกสารการทำสัญญา รวมถึงสำเนาเช็คสั่งจ่ายเงินให้กับพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย มูลนิธิรัตนคีรี สำเนาหนังสือซื้อขายที่ดิน ใบรับฝากเช็ค และหลักฐานเกี่ยวกับการจ่ายเงินทดรองจ่ายให้กับนายศุภชัย
หลังจากนี้ ทางดีเอสไอจะออกหมายเรียกผู้เกี่ยวข้องประมาณ 10-13 ราย มารับทราบข้อกล่าวหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนระหว่างวันที่ 3-5 กันยายนนี้ เนื่องจากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการตกแต่งบัญชีอันเป็นเท็จตั้งแต่ปี 2551-2555 ซึ่งในช่วงดังกล่าวสหกรณ์คลองจั่นฯ มีผลประกอบการขาดทุนต่อเนื่อง แต่กลับยังจ่ายเงินปันผล 10% เป็นเหตุให้สมาชิกสำคัญผิดในสถานภาพของสหกรณ์คลองจั่นฯ โดยผู้ที่จะถูกแจ้งข้อกล่าวหาเป็นเจ้าหน้าที่สหกรณ์คลองจั่นฯ ซึ่งทำหน้าที่บันทึกข้อมูลเข้าระบบ และเจ้าหน้าที่ที่ทำสัญญาเงินกู้ปลอม ทำรายงานประจำปีอันเป็นเท็จ ทำให้นายศุภชัยสามารถดึงเงินออกจากสหกรณ์คลองจั่นฯ ผ่านบัญชีเพื่อความมั่นคง ซึ่งเป็นบัญชีกระแสรายวัน ที่นายศุภชัยสามารถดึงเงินออกจากสหกรณ์คลองจั่นฯ ได้โดยอัตโนมัติ
ขณะที่ พ.ต.ท. ปกรณ์ กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบเช็คสั่งจ่ายของสหกรณ์คลองจั่นฯ ว่า ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับวัดพระธรรมกาย ทางดีเอสไอได้ดำเนินการตรวจพบว่า มียอดการรับเช็คเพิ่มเติมจากเดิมที่พบว่า มีกว่า 600 ล้านบาท แต่การตรวจสอบล่าสุดพบยอดรับเช็ครวมเพิ่มเติม คือ กว่า 1,216 ล้านบาท โดยแบ่งได้ดังนี้
- เช็คสั่งจ่ายให้พระธัมมชโย จำนวน 8 ฉบับ เป็นเงิน 431.38 ล้านบาท
- เช็คสั่งจ่ายวัดพระธรรมกาย 10 ฉบับ จำนวน 642 ล้านบาท
- เช็คสั่งจ่ายมูลนิธิมหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง 5 ฉบับ จำนวน 142.78 ล้านบาท
โดยดีเอสไอจะเรียกผู้เกี่ยวข้องมาชี้แจงเพิ่มเติม เนื่องจากที่ผ่านมาวัดพระธรรมกายไม่เคยให้ข้อมูลในส่วนนี้ มีแต่เพียงการแจ้งว่า หากมียอดเงินเกินกว่า 600 ล้านบาท จะขอไปตกลงกับสหกรณ์คลองจั่นฯ เอง
สำหรับสหกรณ์ 9 แห่งที่รับเช็คจากสหกรณ์คลองจั่นฯ นั้น ทางดีเอสไอ ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นการทำธุรกรรมปกติ และมีมูลหนี้กันจริง นอกจากนี้ยังพบว่ามีการนำเงินจากสหกรณ์คลองจั่นฯ ไปซื้อที่ดินในชื่อของพระวิรัตน์ จำนวน 6 แปลง เนื้อที่ 20 ไร่ ใน จ.พิจิตร และที่ดินของพระประยูร จำนวน 2 แปลง เนื้อที่ 27 ไร่ ใน จ.ชุมพร ซึ่งดีเอสไอจะอายัดที่ดินตามกฎหมายต่อไป
ภาพจาก alittlebuddha.com
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก