ฎีกายืนจำคุก สนธิ ลิ้ม 6 เดือน ปรับ 5 หมื่นบาท ด่า "ชินวัตร ดามาพงศ์ โกงทั้งโคตร"

สนธิ ลิ้มทองกุล, สโรชา พรอุดมศักดิ์

              ฎีกา ยืนจำคุก สนธิ ลิ้มทองกุล, สโรชา พรอุดมศักดิ์ คนละ 6 เดือน ปรับ 5 หมื่นบาท รอลงอาญา 3 ปี ฐานหมิ่นประมาท ด่า "ชินวัตร ดามาพงศ์ โกงทั้งโคตร" กลางรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ เมื่อปี 2549

              วันที่ 24 กันยายน 2558 ที่ห้องพิจารณาคดี 703 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีหมายเลขดำ อ.550/2549 ที่ พล.ร.ท. เกียรติศักดิ์ ดามาพงศ์ อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพเรือ ญาติคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร อดีตภริยา นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นโจทก์ฟ้อง นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน, น.ส.สโรชา พรอุดมศักดิ์ ผู้ดำเนินรายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร, บริษัท แมเนเจอร์ มีเดียกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เจ้าของหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน, น.ส.เสาวลักษณ์ ธีรานุจรรยงค์ ผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการของ บ.แมเนเจอร์ฯ, นายขุนทอง ลอเสรีวานิช เจ้าของและผู้จัดทำเว็บไซต์ manager บริษัท ไทยเดย์ ด็อทคอม จำกัด ผู้ผลิตรายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร, นายศุภชัย วงศ์วรเศรษฐ์ (โจทก์ถอนฟ้องแล้ว), นายจิตตนาถ ลิ้มทองกุล, นายพชร สมุทวณิช ซึ่งเป็นกรรมการบริหาร บ.ไทยเดย์ฯ และนายปัญจภัทร์ อังคสุวรรณ ผู้ควบคุมดูแลเว็บไซต์ manager เป็นจำเลยที่ 1-10

              ในความผิดฐานร่วมกันดูหมิ่น และหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา กรณีร่วมกันจัดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจรบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า ถ่ายทอดออกอากาศผ่านสถานีโทรทัศน์ ASTV ช่องนิวส์ 1 และเผยแพร่ตีพิมพ์ทางหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน และเว็บไซต์ manager โดยกล่าววิจารณ์การขายหุ้น บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ด้วยถ้อยคำลักษณะใส่ร้ายตระกูลดามาพงศ์ และบุคคลในตระกูลดามาพงศ์ของโจทก์ให้ได้รับความเสียหาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 มกราคม-4 กุมภาพันธ์ 2549

              คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2550 ให้ยกฟ้อง จำเลยทั้ง 10 ต่อมาโจทก์ยื่นอุทธรณ์ ซึ่งศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2554 ว่า เมื่อพิจารณาจากข้อความตามฟ้องโจทก์ เช่น "ชินวัตร..ดามาพงศ์ โกงทั้งโคตร ขายชาติเลี่ยงภาษี" แม้ไม่มีชื่อโจทก์แต่การที่ลงชื่อตระกูลทำให้ผู้อ่านย่อมเข้าใจไปได้ว่าหมายถึงทั้งตระกูลโจทก์จึงเป็นผู้เสียหาย อีกทั้งข้อความดังกล่าวยังเป็นความหมายในทางลบทำให้ประชาชนทั่วไปรู้สึกว่าการกระทำของตระกูลโจทก์ กระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐที่จะดำเนินการไม่ใช่หน้าที่จำเลยมาตัดสิน ข้อความตามฟ้องของจำเลยที่ 1 จึงไม่ใช่การเสนอข้อเท็จจริงโดยสุจริต ส่วนจำเลยที่ 2, 3, 5, 6 และ 10 มีความผิดฐานเป็นตัวการร่วม ขณะที่จำเลยที่ 4 เป็นเพียงผู้บริหารแผนฯ ของจำเลยที่ 3 ย่อมไม่มีส่วนกระทำผิด ส่วนจำเลยที่ 8 และ 9 ซึ่งเป็นกรรมการผู้มีอำนาจของจำเลยที่ 5 โจทก์ไม่ได้นำสืบให้เห็นว่ามีส่วนร่วมกระทำผิดอย่างไร

              ศาลอุทธรณ์จึงพิพากษาแก้ว่า จำเลยที่ 1, 2, 3, 5, 6 และ 10 กระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ให้จำคุกจำเลยที่ 1, 2, 5 และ 10 คนละ 6 เดือน ปรับคนละ 5 หมื่นบาท โทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้ 3 ปี ให้ปรับจำเลยที่ 3 และ 6 ซึ่งเป็นนิติบุคคล คนละ 5 หมื่นบาท และให้ร่วมกันลงตีพิมพ์คำพิพากษาลงในหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน และเว็บไซต์ manager เป็นเวลา 7 วันต่อเนื่องกัน

              ต่อมาจำเลยที่ 1, 2, 3, 5, 6 และ 10 ยื่นฎีกาขอให้ยกฟ้อง ศาลฎีกาตรวจสำนวนปรึกษาหารือกันแล้ว คดีมีประเด็นต้องวินิจฉัยว่า จำเลยที่ 3 และที่ 5 กระทำผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยหรือไม่ เห็นว่า แม้ข้อความที่พาดหัวข่าวใน นสพ.ผู้จัดการรายวันและเว็บไซต์ manager จะกล่าวถึงตระกูลชินวัตรและดามาพงศ์ แต่เมื่อพิจารณาดูในเนื้อหาข่าวนั้นไม่ได้หมายถึงคนของตระกูลดังกล่าวทั้งหมด ยังถือไม่ได้ว่าการกระทำของจำเลยที่ 3 และที่ 5 จะทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายหรือเสื่อมเสียชื่อเสียง จึงไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท

              อย่างไรก็ตามคำปราศรัยของจำเลยที่ 1 เมื่อพิจารณาคำว่า "โกงทั้งโคตร" ย่อมหมายถึงทุกคนที่อยู่ในตระกูลดามาพงศ์ได้รับความเสียหาย จึงพิพากษาว่าการกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท ขณะที่จำเลย 2 อยู่ร่วมเวทีการปราศรัยกับจำเลยที่ 1 มาตั้งแต่ต้น จึงกระทำผิดฐานเป็นตัวการร่วมกับจำเลยที่ 1 เช่นเดียวกับจำเลยที่ 6 และที่ 10 ที่ได้เผยแพร่ข้อความการปราศรัยดังกล่าว


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ฎีกายืนจำคุก สนธิ ลิ้ม 6 เดือน ปรับ 5 หมื่นบาท ด่า "ชินวัตร ดามาพงศ์ โกงทั้งโคตร" อัปเดตล่าสุด 24 กันยายน 2558 เวลา 18:20:38 21,068 อ่าน
TOP
x close