เปิดภาพจำลองเหตุการณ์ MH17 มาเลเซีย แอร์ไลน์ส ถูกยิงตกที่ยูเครน จากการสรุปผลการสอบสวนโดยหน่วยงานความปลอดภัยของเนเธอร์แลนด์
เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2558 เว็บไซต์ซีซีทีวี อเมริกา มีรายงานว่า นายมาร์ค รูทท์ นายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์ ได้เรียกร้องให้รัสเซียให้ความร่วมมืออย่างเต็มรูปแบบในการสอบสวนทางอาญา เพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบที่แท้จริงในเหตุโศกนาฏกรรม เครื่องบิน มาเลเซีย แอร์ไลน์ส MH17 ถูกยิงตกในพื้นที่ทางตะวันออกของยูเครน สังหาร 298 ชีวิตบนเครื่อง
โดยจากข้อมูลรายงานผลการสอบสวนอย่างเป็นทางการของ คณะกรรมการด้านความปลอดภัยของเนเธอร์แลนด์ (Dutch Safety Board) ได้ข้อสรุปว่า MH17 ถูกยิงโดยขีปนาวุธแบบบุ๊ก (BUK) ที่ทำขึ้นในรัสเซีย และถูกยิงออกมาจากพื้นที่ซึ่งอยู่ในการครอบครองของกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดน ทางตะวันออกของยูเครน โดยขีปนาวุธดังกล่าวระเบิดตัวห่างจากห้องนักบินไม่ถึง 1 เมตร ทำให้ลูกเรือที่อยู่ในห้องนักบินเสียชีวิตทันที ขณะที่ส่วนหน้าของเครื่องบินได้แตกออก ขณะที่ลูกเรือและผู้โดยสารคนอื่น ๆ เสียชีวิตจากการลดลงของระดับออกซิเจน สภาพอากาศหนาวจัด การไหลเวียนของอากาศอย่างรุนแรง โดยชิ้นส่วนที่แตกหักของเครื่องบินลอยมากระแทก รวมถึงเสียชีวิตจากการตกของเครื่อง
ทางด้านประธานคณะกรรมการด้านความปลอดภัยของเนเธอร์แลนด์ ยังได้แสดงความคิดเห็นว่า โศกนาฏกรรมดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้น หากมีการปิดน่านฟ้าเหนือพื้นที่พิพาทดังกล่าว โดยชี้ว่าทางการยูเครนมีเหตุผลที่เพียงพอจะสั่งปิดน่านฟ้าทางตะวันออกของประเทศ แต่กลับไม่มีใครคิดจะทำมัน และไม่คำนึงถึงภัยคุกคามต่อการบินพลเรือนแต่อย่างไร
อย่างไรก็ตามทางการรัสเซียได้ออกมาโต้กลับ ว่าข้อสรุปที่ทางคณะกรรมการด้านความปลอดภัยของเนเธอร์แลนด์ออกมาเปิดเผยในครั้งนี้ มีความขัดแย้งอย่างมากเมื่อเทียบกับผลการสอบสวนที่ได้ในช่วงปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ในการแถลงข่าว คณะกรรมการด้านความปลอดภัยของเนเธอร์แลนด์ ยังได้ทำภาพจำลองเหตุที่เกิดขึ้นในเหตุการณ์เครื่องบิน MH17 ถูกขีปนาวุธยิงตก ออกมาเผยแพร่ด้วย เปิดเผยให้เห็นภาพลำดับดังนี้
เครื่องบินโบอิ้ง 777 เที่ยวบิน MH17 ได้เบนเส้นทางเพื่อหลีกเลี่ยงกลุ่มเมฆฝนฟ้าคะนอง
จากนั้น MH17 ได้บินผ่านพื้นที่พิพาทระหว่างรัฐบาลยูเครนและกลุ่มกบฏ บริเวณทางตะวันออกของยูเครน
ทันใดนั้นขีปนาวุธแบบบุ๊กก็ได้ถูกยิงจากพื้นดินขึ้นไปสู่อากาศ
และจากนั้นอีกไม่นาน ขีปนาวุธที่พุ่งตรงไปยังเป้าหมายก็ระเบิดตัวออกจากส่วนหัวของเครื่องบินไม่ถึง 1 เมตร
ในจังหวะนั้น ชิ้นส่วนแหลมคมจำนวนมากได้กระจายออก พุ่งทะลุเข้าไปยังห้องนักบิน
ข้อมูลระบุว่า MH17 หายไปจากจอเรดาร์ เมื่อเวลา 13.20.03 UTC
จากนั้นโลกก็ได้รับรายงานแรก เมื่อมีผู้พบเครื่องบินตกในพื้นที่ทางตะวันออกของยูเครน
ขณะที่ชิ้นส่วนของเครื่องบินได้ตกกระจายออกไปยังพื้นที่ต่าง ๆ
ในขั้นตอนการสืบสวนข้อเท็จจริง เจ้าหน้าที่ได้นำซากเครื่องบินส่วนหัวและบริเวณที่นั่งชั้นธุรกิจ ซึ่งกู้ได้จากที่เกิดเหตุ มาประกอบเข้าด้วยกันใหม่อีกครั้ง
จากภาพเผยให้เห็นรัศมีการระเบิดของขีปนาวุธ
สอดคล้องกับลำดับเสียงที่ได้บันทึกได้จากไมโครโฟน 4 จุดในห้องนักบิน
จากการตรวจสอบ พบว่าส่วนหัวของเครื่องบินถูกเจาะทะลุโดยชิ้นส่วนแหลมคมหลายพันชิ้น ที่มีรูปร่างทรงลูกบาศก์และทรงโบว์
นอกจากนี้ยังมีชิ้นส่วนดังกล่าวอีกหลายชิ้น ที่ถูกพบอยู่ในศพของลูกเรือที่นั่งอยู่ภายในห้องนักบิน
ขณะที่ด้านซ้ายของเครื่องบิน เผยให้เห็นร่องรอยความเสียหาย
แม้ว่าคณะกรรมการด้านความปลอดภัยของเนเธอร์แลนด์ จะไม่ได้สรุปว่าใครเป็นผู้ยิงขีปนาวุธดังกล่าว แต่ก็ได้ชี้ชัดว่าจุดที่ขีปนาวุธถูกยิงออกมานั้นอยู่ในพื้นที่ 320 ตารางกิโลเมตร ซึ่งในช่วงที่เกิดเหตุ พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในการครอบครองของกลุ่มกบฏ
ติดตาม ข่าวมาเลเซียแอร์ไลน์ส MH17 แบบอัพเดททั้งหมด คลิกเลย