กระหน่ำเละ แม่ไต้หวันเจตนาคลอดลูกบนเครื่องบินไทเป-ลอสแอนเจลิส หวังให้ลูกได้สัญชาติอเมริกัน ถูกจวกยับทำสายการบินและผู้โดยสารป่วนไปหมด ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเพราะการกระทำของเธอแท้ ๆ
เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2558 เว็บไซต์เซี่ยงไฮ้อิสต์ รายงานว่า หลังจากที่เกิดเหตุน่าเอือมระอาขึ้นบนเครื่องบินของสายการไชน่า แอร์ไลน์ส ที่เดินทางจากกรุงไทเปไปยังลอสแอนเจลิส เมื่อผู้โดยสารชาวไต้หวันท้องแก่รายหนึ่งตั้งใจคลอดลูกบนเครื่องบิน หวังจะให้ลูกได้สัญชาติอเมริกัน จนเครื่องบินต้องลงจอดฉุกเฉินก่อนถึงจุดหมายเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ล่าสุด ประเด็นนี้ได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างดุเดือด ขณะที่อดีตแอร์โฮสเตสของสายการบินไชน่า แอร์ไลน์ส ได้โพสต์ข้อความตำหนิคุณแม่รายนี้ ชี้ทำให้ทุกคนป่วนไปหมดเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองเพียงคนเดียว
รายงานระบุว่า คุณแม่ไต้หวันรายนี้ได้ขึ้นเครื่องจากไทเปเดินทางไปยังสหรัฐฯ ในช่วงที่เธอกำลังใกล้คลอด อายุครรภ์ 36 สัปดาห์ โดยมีเจตนาจะคลอดเหนือน่านฟ้าสหรัฐฯ อย่างชัดเจน โดยจากการสอบสวนพบว่า คุณแม่รายนี้คอยถามแอร์โฮสเตสอยู่ตลอดว่า "ตอนนี้เข้าสู่น่านฟ้าของสหรัฐฯ หรือยัง" จนกระทั่งในที่สุดเธอก็ได้คลอดลูกเหนือน่านฟ้าสหรัฐฯ สมใจ ก่อนที่นักบินจะนำเครื่องลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินที่ใกล้ที่สุด ในรัฐอะแลสกา เพื่อนำตัวคุณแม่และทารกแรกเกิดส่งโรงพยาบาล
จากเหตุการณ์ดังกล่าว ลูเซียนเน่ เฉิน อดีตแอร์โฮสเตสของสายการบินไชน่า แอร์ไลนส์ ได้แสดงความเห็นต่อกรณีนี้บนเฟซบุ๊กว่า คุณแม่ชาวไต้หวันรายนี้ไม่ยอมแจ้งการตั้งครรภ์ของเธอให้กับสายการบินทราบเลย เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ผิดกฎการบินมาก เพราะตามกฎแล้วสายการบินจะไม่อนุญาตให้หญิงตั้งครรภ์มากกว่า 32 สัปดาห์ เดินทางไปบนเครื่อง ถ้าหากไม่มีใบรับรองแพทย์ สิ่งที่เกิดขึ้นนี้แสดงให้เห็นว่า ไม่ใช่แค่เธอจะเล่นตลกกับตัวเองและลูกเท่านั้น เธอยังเห็นตารางการบินของเครื่องบินที่มีผู้โดยสารอยู่เต็มเครื่องเป็นเรื่องล้อเล่น เพียงเพื่อที่จะให้ลูกได้สัญชาติอเมริกันเท่านั้น !! เพราะเหตุนี้หรือ ที่ทำให้เครื่องบินทั้งลำจะต้องเสียเวลาลงจอดฉุกเฉิน ทำให้ผู้โดยสารต้องเสียเวลาไปหมด ลูกเรือก็จะต้องค้างคืนที่อะแลสกา คุณรู้ไหมว่ามันต้องเสียค่าใช้จ่ายไปเท่าไร
อย่างไรก็ดี ล่าสุด นางเจียน คุณแม่ไต้หวันหัวหมอรายนี้ได้ถูกทางสหรัฐฯ เนรเทศออกจากประเทศแล้ว และเมื่อเธอได้เผชิญหน้ากับสื่อเมื่อกลับถึงไต้หวัน ก็เอาเสื้อแจ็คเก็ตมาปิดบังใบหน้า ปฏิเสธที่จะตอบคำถามหรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ส่วนลูกของเธอนั้นยังคงอยู่ในความดูแลของแพทย์ในโรงพยาบาลที่อะแลสกาต่อไป
world_id:5624c9404d265a6a658b4569
ภาพจาก เว็บไซต์เซี่ยงไฮ้อิสต์
