กทม.เสี่ยงแผ่นดินไหว รอยเลื่อนพาดผ่านตอนใต้

แผ่นดินไหว


             นักธรณีวิทยาห่วงรอยเลื่อนแขนงเจดีย์สามองค์พาดผ่านทางตอนใต้ กทม. ชี้ต้องเร่ง ศึกษา ผู้เชี่ยวชาญด้านทรัพยากรธรณี เผยมีหลักฐานไทยเคยเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่มาแล้วเมื่อพันปีก่อน ความรุนแรงที่ 7 ริกเตอร์ พร้อมระบุกรุงเทพฯ-ปริมณฑลอยู่ในพื้นที่เสี่ยงแผ่นดินไหว เหตุอยู่ใกล้รอยเลื่อนในพม่า แนะให้ความรู้ประชาชนเตรียมรับมือ คาดปีนี้ทั่วโลกจะเกิดแผ่นดินไหวได้อีกนับหมื่นครั้ง

             รร.มิราเคิลแกรนด์ 2 ก.ค. - กรมทรัพยากรธรณีจัดการประชุมสัมมนาเรื่อง “แผ่นดินไหว : ธรณีพิบัติภัยใกล้ตัว” เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างนักวิชาการและผู้เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งนำเสนอความก้าวหน้าของโครงการศึกษารอยเลื่อนมีพลังในประเทศไทย ซึ่งนายอภิชัย ชวเจริญพันธ์ อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการระหว่างปี 2548-2553 ภายหลังเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 9.3 ริกเตอร์ ที่เกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ทำให้เกิดคลื่นสึนามิเมื่อปลายปี 2547 โดยนักวิชาการเชื่อว่าจะส่งผลกระทบต่อรอยเลื่อนเปลือกโลกหลายแห่ง รวมถึงกลุ่มรอยเลื่อนด้านตะวันตกของไทย จึงเกิดโครงการนี้ขึ้นเพื่อศึกษาความเปลี่ยนแปลงและปรับปรุงข้อมูลรอยเลื่อนมีพลังในประเทศทั้งหมด เมื่อได้ผลการศึกษาแล้วจะเป็นประโยชน์ต่อการออกแบบอาคาร การออกกฎหมาย และการให้ความรู้ประชาชน

             นายวรวุฒิ ตันติวนิช ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่ปรึกษาทางการบริหารจัดการทรัพยากรธรณี กรมทรัพยากรธรณี กล่าวถึงผลการศึกษาในระยะแรกว่า ได้ศึกษากลุ่มรอยเลื่อนแม่ฮ่องสอนและรอยเลื่อนเมย บริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน ตาก และกำแพงเพชร กับกลุ่มรอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ และรอยเลื่อนเจดีย์สามองค์ จ.กาญจนบุรี สุพรรณบุรี อุทัยธานี และตาก พบว่ายังไม่มีความเปลี่ยนแปลงที่น่ากังวลว่าจะนำไปสู่การเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 

             อย่างไรก็ตาม จากการขุดร่องสำรวจบริเวณ อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี และ อ.ศรีสวัสดิ์ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี รวม 6 จุด พบว่าในอดีตเคยเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่มาแล้ว ความรุนแรงสูงสุด 7 ริกเตอร์ เมื่อ 7,000 ปีก่อน จนถึง 6.4 ริกเตอร์ เมื่อ 1,000 ปีก่อน แสดงว่ารอยเลื่อนศรีสวัสดิ์และรอยเลื่อนเจดีย์สามองค์เป็นรอยเลื่อนที่มีพลังมีโอกาสเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงในบริเวณดังกล่าวได้อีกครั้ง แต่ยังต้องศึกษาเพิ่มเติม เช่น หาอัตราความเร็วการเคลื่อนตัวของเปลือกโลกเพื่อศึกษาความถี่การเกิด

             นายวรวุฒิ กล่าวต่อว่า รอยเลื่อนศรีสวัสดิ์และเจดีย์สามองค์เป็นรอยเลื่อนที่มีขนาดยาว สามารถทำให้เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงและยังอยู่บริเวณใกล้กรุงเทพฯ และจุดที่เป็นชุมชน รวมถึงมีเขื่อนขนาดใหญ่ตั้งอยู่ ซึ่งหากเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงอาจเกิดความเสียหายได้มาก ทั้งนี้ พื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลตกอยู่ในความเสี่ยงแผ่นดินไหว จาก 3 ปัจจัยคือ1. รอยเลื่อนนอกประเทศ เช่น รอยเลื่อนตะแกงในพม่า จุดที่ใกล้ที่สุดอยู่ห่างกรุงเทพฯ 400 กม. 2. รอยเลื่อนในประเทศที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ และ 3. รอยเลื่อนใต้ดินที่เพิ่งพบเมื่อไม่นานมานี้ และยังไม่มีข้อมูลการเคลื่อนตัวที่ชัดเจนเพราะอยู่ลึกลงไป 20 ม. ยังไม่สามารถประเมินความเสี่ยงได้ ต้องผ่านการศึกษาอีกระยะหนึ่ง การป้องกันขณะนี้คือ ต้องสร้างอาคารที่มีความมั่นคงแข็งแรงและการให้ความรู้ประชาชน ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้หารือกับรองผู้ว่าฯ กทม. ถึงความเสี่ยงดังกล่าว ทราบว่า กทม. จะเดินหน้าให้ความรู้ประชาชนและหามาตรการรองรับ

             นายปริญญา พุทธาภิบาล ประธานหลักสูตรธรณีศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ขณะนี้แนวโน้มการเกิดแผ่นดินไหวทั่วโลกจากปีละ 20,000 ครั้ง เป็น 30,000 ครั้ง โดยช่วง 4 เดือนของปีนี้ เกิดขึ้นแล้ว 11,000 ครั้ง หากพิจารณาจากสถิติคาดว่าปีนี้อาจจะเกิดได้อีกนับหมื่นครั้ง นอกจากนี้ ยังพบว่าก่อนเกิดแผ่นดินไหวที่ทำให้เกิดสึนามิประมาณ 1 ปี มีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นแถบภูมิภาคนี้ประมาณ 2 เท่าจากปกติ แต่ประเทศที่มีความเสี่ยงมากกว่าไทย คือ จีน ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย

             นายปริญญา กล่าวต่อว่า จากการติดตามศึกษาผลกระทบจากแผ่นดินไหวรุนแรงที่ทำให้เกิดสึนามิเมื่อปี 2547 พบว่าบริเวณรอยเลื่อนเจดีย์สามองค์ มีอาคารเรียนบางแห่งแตกร้าว นอกจากนั้นบ่อน้ำพุหินดาดยังมีอุณหภูมิสูงขึ้นและสีขาวขุ่นขึ้น ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงทางอุณหภูมิและทางเคมี รวมทั้งมีบ่อน้ำของชาวบ้านใน จ.ราชบุรี ความลึก 3 วา อุณหภูมิสูงขึ้นจาก 29 องศาฯ เป็น 48 องศาเซลเซียส ในวันที่ 28 ธันวาคม 2547 จากนั้นลดลงวันละ 2 องศาฯ เป็นเวลา 10 วัน ปรากฏการณ์เหล่านี้ยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด แต่ก็ถือว่าสัญญาณเตือนภัยได้อย่างหนึ่ง ว่าเมื่อเกิดความผิดปกติของน้ำใต้ดินอาจมีเหตุรุนแรงตามมา.

 

นักธรณีพบรอยเลื่อนแขนงใกล้กทม.ปริมณฑล 


             กระทรวงทรัพยากร - 2 ก.ค.-- นายอภิชัย ชวเจริญพันธ์ อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่ง แวดล้อม (ทส.) กล่าวในการสัมมนาเรื่อง “ แผ่นดินไหว : ธรณีพิบัติภัยใกล้ตัว” ว่า

             หลังจากเหตุการณ์แผ่นดิน ไหวครั้งรุนแรงในทะเลขนาด 9.3 ริกเตอร์จนทำให้เกิดสึนามิเมื่อ 26 ธค.2547 ทางกรมทรัพยากรธรณี ได้ทำการสำรวจรอยเลื่อนมีพลังของประเทศไทย เนื่องจากก่อนหน้านี้เป็นเพียงข้อมูลจากภาพถ่ายดาวเทียมว่ามีรอยเลื่อน 13 รอย แต่ยังไม่รู้ถึงตำแหน่ง ทิศทาง ลักษณะการเคลื่อนตัว ตลอดจนขนาดของแผ่นดินไหว สภาพของความมีพลังของรอยเลื่อน และคาบอุบัติซ้ำของการเกิดแผ่นดินไหว ซึ่งข้อมูลดังกล่าวจะช่วยในการวางแผนลดผลกระ ทบ โดยเฉพาะการออกแบบอาคาร การวางผังเมือง สิ่งก่อสร้างอาทิ โรงพยาบาล เขื่อนอ่างเก็บน้ำ โรงไฟฟ้านิว เคลียร์ สนามบิน ให้สามารถรองรับแรงแผ่นดินไหวได้

             ทั้งนี้ช่วงปี 2549 เพิ่งศึกษากลุ่มรอยเลื่อนแม่ฮ่องสอน และรอยเลื่อนเมย ในเขตพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน ตาก กำแพงเพชร และกลุ่มรอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ และรอยเลื่อน เจดีย์สามองค์ ในเขตพื้นที่ จ.กาญจนบุรี สุพรรณบุรี อุทัยธานี และตาก และยังไม่แล้วเสร็จ

             การศึกษาจากทีมนักวิชาการจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มุ่งโฟกัสพื้นที่จ.กาญจนบุรีและ สุพรรณบุรี โดยอาศัยหลักฐานธรณีสัณฐานที่ได้จากข้อมูลโทรสัมผัส และการตรวจสอบภาคสนาม รวมทั้งได้คัดเลือกพื้นที่ที่เหมาะสมในการขุดร่องสำรวจ เพื่อประเมินหาขนาดแผ่นดินไหวที่เคยเกิดในอดีต และช่วงเวลาที่เคยเกิด จำนวน 6 พื้นที่ ดังนี้ พื้นที่ที่ 1 บ้านทุ่งมะกอก ต.องค์พระ อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี ขนาดแผ่นดินไหวที่เคยเกิด 7.0 ริกเตอร์ เกิดมาแล้ว 7,000 ปี พื้นที่ที่ 2 บ้านแก่งแคบ ต. ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ขนาดแผ่นดินไหวที่เคยเกิด 6.4 ริกเตอร์ เกิดมาแล้ว 1,000 ปี

             พื้นที่ที่ 3 บ้านโป่งหวาย ต.ด่านแม่แฉลบ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ขนาดแผ่นดินไหวที่เคยเกิด 6.5 ริกเตอร์ เกิดมาแล้ว 1,500 ปี พื้นที่ที่ 4 บ้านดงเสลา ต.ด่านแม่แฉลบ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ขนาดแผ่นดินไหวที่เคยเกิด 6.0 ริกเตอร์ เกิดมาแล้ว 10,000 ปี พื้นที่ที่ 5 บ้านองธิ ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ขนาดแผ่นดินไหวที่เคยเกิด 7.0 ริกเตอร์ เกิดมาแล้ว 7,000 ปี พื้นที่ที่ 6 บ้านทิพุเย ต.ชะแล อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ขนาดแผ่นดินไหวที่เคยเกิด 6.4 ริกเตอร์เกิดมาแล้ว 2,000 ปี

             ส่วนปี 2550-53 จะศึกษารอยเลื่อนมะรุยและรอย เลื่อนระนอง เขตพื้นที่ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ สุราษฎร์ธานี โดยร่วมมือกับทีม ม.สงขลานครินทร์ ติดตั้งเครื่องมือวัดแผ่นดินไหวชนิด Short period 4แห่ง คือพังงา จำนวน 2แห่ง กระบี่ 1 แห่ง และจังหวัดภูเก็ต 1แห่ง ซึ่งอยู่ใกล้แนวรอยเลื่อนคลองมะลุ่ย โดยตรวจวัดแผ่นดินไหว ขนาดเล็ก (Micro earthquake) จำนวนมากกว่า 200 ครั้งที่เกิดขึ้นมาตามแนวรอยเลื่อนคลองมะลุ่ย และรอยเลื่อนระนองทั้งบนบก และในทะเล

             หลังจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ส่วนกลุ่มรอยเลื่อนแม่ทาและรอยเลื่อนเถิน รวมทั้งรอยเลื่อนแม่จันและ รอยเลื่อนพะเยา และรอยเลื่อนปัว และรอยเลื่อนอุตรดิตถ์ ซึ่งข้อมูลที่ได้จะต้องจัดทำแผนที่อันตราย จากแผ่นดินไหวให้กับหน่วยงานต่างๆไปเตรียมการบรรเทาภัยที่จะเกิดขึ้น และเผยแพร่ผลกระทบแผ่น ดินไหวให้สาธารณชนได้รับรู้ โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงมากในไทย เช่น จ. กาญจนบุรี ตาก แม่ฮ่องสอน และเชียงราย

             ด้าน รศ.ดร.ปัญญา จารุศิริ หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการวิจันธรณีวิทยาแผ่นดินไหวและธรณีแปรสัณฐาน คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ขณะนี้นักธรณีวิทยาหลายคนกังวลว่า

             นอกจากกลุ่มรอยเลื่อน 6 กลุ่มที่ต้องเร่งศึกษาถึงพฤติกรรม และความสี่ยงแล้ว ยังพบว่าพื้นที่กทม. เองก็มีความเสี่ยง เนื่องจากผลการศึกษาระยะที่ 1 โดยใช้ข้อมูลธรณีฟิสิกส์ทางอากาศ พบว่ามีรอยแขนงที่แตกออกจากรอยเลื่อนเจดีย์สามองค์ พาดผ่านเข้ามาทางพื้นที่ตอนใต้ของกทม. คือบริเวณ จ. สมุทรปราการ และวกเข้าไปใน จ.ชลบุรี และยังไม่มีการตั้งชื่อ ซึ่งน่าเป็นห่วงว่าหากเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่หรือแม้แต่ระดับปานกลางจะกระทบกับพื้นที่กทม. อย่างมากด้วยปัจจัยจากชั้นดินในกทม. เป็นดินอ่อนที่สามารถขยายคลื่นความสั่นสะเทือนให้แรงเหมือนกับเราหมุนวิทยุให้เสียงดังขึ้น ทำให้เพิ่ม ความแรงได้มหาศาล

             อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาเคยเสนอให้ศึกษารายละเอียดของรอยเลื่อนแขนงที่พบนี้ แต่ได้รับทราบจากกรมทรัพยากรธรณีว่าถูกตัดงบประมาณทำให้ต้องเลื่อนงานวิจัยออกไป

             “นักธรณีวิทยา โดยเฉพาะ ดร.ปริญญา นุตาลัย ก็เป็นห่วงประเด็นนี้เพราะอยู่ใกล้กับกทม. มากเพราะอาจทำให้เสียหายใหญ่หลวง สอดคล้องกับสิ่งที่ผมศึกษาแล้วพบว่ามีรอยเลื่อนที่เข้ามาถึง กทม. แต่ได้รู้ว่ามีรอยเลื่อน ที่น่าจะเป็นส่วนต่อของรอยเลื่อนเจดีย์สามองค์ แต่ยังไม่มีการศึกษาอย่างละเอียด มีเพียงบางท่อนที่มีการศึกษาว่ายังมีพลังอยู่แถวใกล้กับพื้นที่ไทรโยค ศรีสวัสดิ์ และทางตอนใต้ของเขื่อนเขาแหลม มีแนวโน้มการมีพลังสูงมาก แต่เราไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่จะไหวสักครั้ง แต่เรารู้เชิง พื้นที่ตามแม่น้ำแควน้อย แควใหญ่ และรอยเลื่อนนี้ที่พาดผ่านจากชายแดนพม่า แขนงของมันจะต่อเลย " รศ.ดร.ปัญญา กล่าว

             จากด่านเจดีย์สามองค์เข้ามาถึงทางด้าน ทางใต้ของกทม. และอีกแขนงไปองครักษ์ และแขนงหนึ่งไปแถวแม่น้ำ ท่าจีนอย่างไรก็ตาม ในช่วง 1-2 เดือนนี้ยังเกิดแผ่นดินไหวจากแถบประเทศพม่า ลาว ซึ่งมีการตั้งข้อสังเกตว่าเป็นถี่ปกติหรือเป็นรอบของมันหรือเปล่า ดังนั้นคนไทยควรต้องรู้ถึงสภาวะ และความ เสี่ยงที่อาจเกิดจากภัยแผ่นดินไหว โดยกรมทรัพยากรธรณี ก็ต้องให้ความสำคัญการทำแผนที่พิบัติภัยแผ่นดินไหวในประเทศไทย หลังจากทำแผนที่รอยเลื่อนมีพลังของไทยออกมาแล้ว



ข่าวทีเกี่ยวข้อง
 คนกรุงระทึก! แผ่นดินไหว 6.1 หนีตายอุตลุด
 หลังแผ่นดินไหว เชียงใหม่เกิดอาฟเตอร์ช็อก เกือบ 70 ครั้ง
 เชียงใหม่แผ่นดินไหว 4.5 ริกเตอร์
 ภัยธรรมชาติคร่าคนเอเชียมากสุด!!! เจอทั้งแผ่นดินไหว - พายุ
 จับตา 13 รอยเลื่อนอันตราย ซ้ำรอยแผ่นดินไหว
 แผ่นดินไหว 4.5 ริกเตอร์ เวียงป่าเป้าเชียงราย



ข้อมูลจาก

เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
กทม.เสี่ยงแผ่นดินไหว รอยเลื่อนพาดผ่านตอนใต้ อัปเดตล่าสุด 25 มีนาคม 2554 เวลา 11:14:36 4,831 อ่าน
TOP
x close