แม่ตัวจริงสุดดีใจ ได้พบหน้าลูกหลังถูกขโมย 4 ปี ลั่นไม่ยกลูกให้



ขโมยเด็ก

ขโมยเด็ก

            ปิดคดีสาวแท้งลูก ขโมยเด็กจากโรงพยาบาลนานกว่า 4 ปี เผยถูกชะตาตั้งแต่แรกเห็น ระบุไม่เคยทารุณ ส่งเสียเลี้ยงดูอย่างดี เพราะบ้านพอมีฐานะ ชี้หากมีโอกาสจะยอมเสียเงินให้เด็กมาอยู่กับครอบครัวดังเดิม  ด้านแม่ตัวจริงสุดดีใจได้เจอหน้าลูกครั้งแรก เผยไม่ได้ขายลูก-ไม่ต้องการเงิน แม้ครอบครัวจะไม่ได้รวย ลูกทั้งคนทำไมจะเลี้ยงไม่ได้

            จากกรณี เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2558 เจ้าหน้าที่ตำรวจแถลงการจับกุมนางเอ (นามสมมติ) วัย 32 ปี ผู้ต้องหาขโมยทารกแรกเกิดจากโรงพยาบาล โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2554 มีผู้หญิงร่างท้วมอุ้มทารกจากเตียงพักหลังคลอด กระทั่งผ่านไปจนถึงวันที่ 24 สิงหาคม 2558 มีโรงเรียนแห่งหนึ่งโทรมาแจ้งว่า มีนักเรียนมาสมัครเข้าเรียน แต่ใบสูติบัตรมีรอยขีดหลายแห่ง คาดว่าน่าจะเป็นสูติบัตรปลอม ตำรวจจึงตรวจสอบทะเบียนราษฎร พบว่าชื่อเด็กคนดังกล่าวไปตรงกับเด็กอีกคนในวัย 9 ขวบ แต่อยู่คนละจังหวัดกัน

            ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้สอบถามลักษณะของเด็กจากผู้เป็นแม่จริง ๆ พบว่าตรงตามที่บอก แล้วเก็บเยื่อกระพุ้งแก้มของเด็กมาเทียบดีเอ็นเอ ก็พบว่ามีความสัมพันธ์แบบแม่ลูกจริง ทำให้นางเอ สารภาพว่า เด็กคนดังกล่าวเป็นเด็กที่ขโมยมา

ขโมยเด็ก

            สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว นางเอ เล่าว่า ปี 2554 ตนได้ตั้งท้อง แต่พออายุครรภ์ 6 เดือน ก็เกิดอาการแท้ง ทำให้ตนเสียใจ ไม่ได้บอกใครว่าแท้ง ก่อนวางแผนขโมยเด็ก ซึ่งการที่คนไม่สงสัย เป็นเพราะรูปร่างตนยังอ้วนท้วนเหมือนเดิม ส่วนก่อนวันเกิดเหตุ ตนไปโรงพยาบาล บอกทุกคนว่าคลอดแล้ว ไม่ต้องมาเยี่ยม จากนั้นก็ดูลาดเลาที่ห้องพักคลอด คุยกับคนนั้นคนนี้ แล้วไปอุ้มเด็กคนหนึ่งมา เพราะรู้สึกถูกชะตาเป็นพิเศษ จนถึงวันเกิดเหตุ เห็นเด็กหลับหลังแม่ให้นมเสร็จ และแม่เด็กไปเข้าห้องน้ำ จึงฉวยโอกาสอุ้มเด็กกลับบ้าน บอกกับคนอื่นว่า นมไม่มี ต้องอุ้มเด็กกินนมชงมาตลอด

            นางเอ กล่าวต่อไปว่า ความรักที่มีต่อเด็กเหมือนลูกแท้ ๆ ทุกคนในบ้านก็รัก กระทั่ง 2 ปีที่แล้ว ตนเริ่มกังวลเรื่องเข้าโรงเรียน จึงทำสูติบัตรปลอม เมื่อความแตกก็ยอมรับ ไม่คิดหนี ถ้าหากย้อนเวลากลับไปคงไม่ทำเรื่องดังกล่าว

ขโมยเด็ก

            ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ ระบุว่า คดีนี้มีความผิดฐานพรากผู้เยาว์อายุไม่เกิน 15 ปี โทษไม่รุนแรง เพราะไม่ได้ลักเด็กไปทารุณ ฐานะทางบ้านก็ไม่เดือดร้อน มีรายได้เกือบล้านบาทจากการทำไร่ ส่วนการที่จะให้เด็กอยู่กับใครนั้น จะให้คณะกรรมการในการคุ้มครองสิทธิเด็กฯ ของจังหวัด ร่วมพิจารณา เพราะเด็กที่เติบโตมาก็ผูกพันกับครอบครัวที่เลี้ยงดูมา แม้ว่าจะไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ก็ตาม อีกทั้งเด็กยังขออยู่กับนางเอด้วย เพราะยังสับสนว่าใครเป็นแม่ เนื่องจากเด็กยังอายุเพียง 4 ขวบเท่านั้น ส่วนในเรื่องคดี นางเอก็บอกว่า ครอบครัวพร้อมสู้ตามกระบวนการตามกฎหมาย และยอมเสียเงินให้เด็กอยู่กับครอบครัวต่อไป

            และล่าสุด (6 พฤศจิกายน 2558) นางกัลย์สุดา สำแดง อายุ 30 ปี ผู้เป็นแม่เด็กตัวจริง กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาร่วม 4 ปี ตนได้มีการตามหาลูกมาโดยตลอด ทั้งจากทางตำรวจเอง และตามหาเองด้วย ซึ่งตนต้องพึ่งยาคลายเครียด เพราะคิดมากที่ต้องพลัดพรากจากลูก และยังถูกสังคมประณามต่าง ๆ นานา ว่าขายลูก ยกลูกให้คนอื่น จนมาเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้มีการติดต่อมาที่ตนว่าพบลูกสาวที่หายไปแล้วอยู่ที่จังหวัดชัยภูมิ ตนก็จำลักษณะพิเศษของลูกได้เป็นอย่างดี คือที่หูของลูกจะมีติ่งแหว่งข้างซ้าย และเมื่อมีการตรวจดีเอ็นเอ ผลที่ออกมาพบว่าเป็นลูกของตนจริง

            ทั้งนี้จากกระแสข่าวที่ออกมาว่าทางผู้ต้องหาได้มีการจ่ายเงินเพื่อปลอบขวัญและให้เงิน เพื่อขอนำเด็กไปเป็นลูกบุญธรรมนั้น ตนไม่เคยคิดจะยกให้ เพราะลูกมีแม่ที่แท้จริง ใบเกิดก็แจ้งไว้แล้วตั้งแต่วันหลังคลอด ก่อนที่หมอจะอนุญาตให้กลับบ้าน แต่ลูกก็มาหายไปเสียก่อน ซึ่งตนคิดว่าผู้ต้องหาควรได้รับผลที่กระทำผิดเช่นนี้ด้วยซ้ำ 

            เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ สหวิชาชีพ จ.ขอนแก่น พร้อมนางกัลย์สุดา และญาติ จะเดินทางไปร่วมประชุมกับฝ่ายครอบครัวของผู้ต้องหาที่จังหวัดชัยภูมิ เพื่อหาข้อยุติและข้อปฏิบัติที่ทุกฝ่ายจะต้องทำเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับเด็กน้อยที่สุด ในวันที่ 9 พฤศจิกายนนี้

            ส่วนด้านการดำเนินคดี เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้นำตัวผู้ต้องหาส่งฝากขังที่เรือนจำกลางขอนแก่นแล้ว แต่ต้องรอหลักฐานเพิ่มเติมเล็กน้อย คาดว่า จะสามารถส่งฟ้องได้ภายใน 15 วันนี้ ซึ่งล่าสุดญาติผู้ต้องหาได้มีการนำหลักทัรพย์มาเพื่อยื่นประกันตัวออกไป จำนวนเงิน 180,000 บาท



 ติดตามความเคลื่อนไหว ข่าวขโมยเด็ก ทั้งหมดคลิกเลย



ภาพจาก ทวิตเตอร์ @TNAMCOT

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
,
เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
แม่ตัวจริงสุดดีใจ ได้พบหน้าลูกหลังถูกขโมย 4 ปี ลั่นไม่ยกลูกให้ อัปเดตล่าสุด 10 พฤศจิกายน 2558 เวลา 14:38:35 152,239 อ่าน
TOP
x close