เปิดเรื่องราวจากญาติทหารเกณฑ์ถูกซ้อม ในค่ายทหารจนเสียชีวิต บอกถูกซ้อมอย่างทารุณ คนทำเสนอเงินปิดปาก พยายามร้องเรียนขอความเป็นธรรมตลอด 4 ปี แต่ก็ไร้ประโยชน์ ฆาตกรยังใช้ชีวิตอย่างปกติสุข
ยังคงเป็นหนึ่งในประเด็นที่สังคมให้ความสนใจมากที่สุดในขณะนี้ สำหรับกรณีการเสียชีวิตของ พลทหาร วิเชียร เผือกสม ในสังกัด ร.151 พัน 3 ค่ายกรมหลวงสงขลานครินทร์ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ซึ่งถูกครูฝึกทหาร 10 นาย รุมซ้อมและทรมานต่อเนื่องนานถึง 3 วัน อ้างว่าเป็นการลงโทษในกรณีหลบหนีการฝึก กระทั่งต่อมาทาง ป.ป.ท. ได้ชี้มูลความผิดทหาร 10 นาย และส่งเรื่องให้อัยการนราธิวาสสั่งฟ้อง ซึ่งแม้เวลาจะล่วงเลยมาถึง 4 ปีแล้ว แต่ครูฝึกทหารกลุ่มดังกล่าวก็ยังคงไม่ได้รับโทษตามกระบวนการยุติธรรม ขณะที่ญาติได้ออกมาประกาศจะขอต่อสู้คดีจนถึงที่สุด ไม่ยอมแพ้แม้จะถูกข่มขู่จนต้องแจ้งตำรวจให้เข้ามาดูแลความปลอดภัย [อ่านข่าว ทหารเกณฑ์ถูกซ้อมจนตายเมื่อ 4 ปีก่อน-คดีไม่คืบ ญาติขอสู้จนถึงที่สุด !]
ล่าสุด วันนี้ (8 พฤศจิกายน 2558) เฟซบุ๊ก Max Sirichai Leelertyuth ได้มีการเปิดเผยข้อมูลที่สัมภาษณ์ญาติของ พลทหาร วิเชียร เผือกสม ระบุว่า นรกบนดินของพลทหาร วิเชียร เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 2 ของการฝึก เนื่องจากเขาเป็นลมขณะยืนแถว แต่ครูฝึกกลับบอกว่าเขาแกล้งสำออย แล้วเริ่มลงโทษหนักกว่าคนอื่น กระทั่งต่อมา พลทหาร วิเชียร ซึ่งเพิ่งสึกจากการบวชเป็นพระยาวนานถึง 8 ปี ได้เผลอเรียกตัวเองว่า "อาตมา" และเรียกครูฝึกว่า "โยม" ทำให้ถูกครูฝึกด่าและคิดว่าท้าทาย จึงลงโทษหนักขึ้นเรื่อย ๆ
ในวันที่ 9 ของการฝึก พลทหาร วิเชียร ซึ่งทนไม่ไหวแล้วตัดสินใจหนีออกจากค่ายทหารพร้อมด้วยเพื่อน 3 คน แต่ก็ถูกตามล่าตัวกลับมาในวันเดียวกัน ครั้งนี้นอกจากการทำโทษทั่วไปอย่าง วิ่ง ดันพื้น หรือลุกหมอบ ก็ได้มีการเฆี่ยนตี ตบ และกระทืบ ความทรมานที่ได้รับทำให้เขาตัดสินใจหนีออกจากค่ายอีกเป็นครั้งที่ 2 ตามลำพัง แต่เนื่องจากไม่มีเงินติดตัว ทำให้หลังจากนั้นเพียง 3 วัน เขาก็โดนผู้ใหญ่บ้านพากลับมาส่งที่ค่ายทหาร และนั่นนำมาซึ่งชะตากรรมอันแสนโหดร้าย เมื่อ พลทหาร วิเชียร ถูกฆ่าอย่างทารุณ
ในช่วงเวลาที่เกิดเหตุนั้น หลานคนหนึ่งของ พลทหาร วิเชียร เพิ่งศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 2 ซึ่งนอกจากเธอจะต้องเผชิญกับข่าวร้ายที่ไม่คาดคิดแล้ว ยังถูกทำร้ายจิตใจซ้ำ เมื่อมีการเสนอคลุมธงชาติและจะขอพระราชทานเพลิงศพให้พลทหาร วิเชียร นั่นทำให้ทางครอบครัวยอมรับไม่ได้ เพราะเหมือนเป็นการกลบเรื่องว่าเสียชีวิตในหน้าที่ ทั้งที่ความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น และยังมีคนเข้ามาเกลี้ยกล่อมไม่ให้ร้องเรียนอีกด้วย
ทางบ้านของผู้เสียชีวิตยังได้รับการเสนอเงินค่าปิดปากถึง 5 ล้านบาท แต่นั่นไม่สามารถชดเชยต่อสิ่งที่พวกเขาสูญเสียไปได้ ทำให้หลานสาวของ พลทหาร วิเชียร ยืนยันจะเอาเรื่องคนผิดให้ถึงที่สุด นับจากนั้นการข่มขู่ก็เริ่มขึ้น มีผู้ส่งกระสุนปืนใส่ซองธูปมาที่บ้านของเธอ มีรถตู้ปริศนาหลายคันมาจอดแถวบ้าน จนทางครอบครัวต้องทำหนังสือขอให้ตำรวจเข้ามาดูแลในงานศพ แถมการนำศพไปชันสูตรก่อนถูกเผาก็ต้องทำอย่างลับ ๆ
นอกจากนี้หลานสาวของพลทหาร วิเชียร ยังส่งหนังสือไปยังหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อขอให้สอบสวนและเอาผิดเรื่องนี้ แต่ก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า โดยเธอยอมรับว่าการวิ่งวุ่นต่อสู้คดีของน้าชายนั้นกระทบต่อการเรียนเป็นอย่างมาก ความกดดันที่ได้รับนั้นเกินกว่าที่เด็กนักศึกษาปี 2 คนหนึ่งจะทนไหว นอกจากนี้เธอยังต้องใช้ชีวิตอย่างระแวงระวังมาตลอด 4 ปี สิ่งที่กลัวที่สุดคือการถูกอุ้ม
อย่างไรก็ตามหลานสาวของพลทหาร วิเชียร ได้เผยว่าตอนนี้เวลาผ่านไปกว่า 4 ปี ฆาตกรก็ยังคงมีชีวิตปกติสุขและกินเงินเดือนจากภาษีประชาชนต่อไป รวมถึงคนที่สั่งคนให้กระทืบ พลทหาร วิเชียร ซึ่งปัจจุบันได้เลื่อนขั้นเป็นร้อยเอก และกำลังจะได้เลื่อนขั้นเป็นพันตรี จนถึงทุกวันนี้เธอก็ยังพยายามทุกวิถีทางเพื่อบอกเล่าเรื่องราวเหล่านี้สู่สังคม หวังว่าจะไม่ต้องมีใครมาเผชิญชะตากรรมเดียวกับน้าของเธอ
ภาพและข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Max Sirichai Leelertyuth, คุณสมาชิกหมายเลข 2250431 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
