
ภาพจาก FLORIAN DAVID / AFP
นับว่าเป็นเหตุการณ์ที่ทำเอาผู้คนช็อกกันไปทั่วโลก สำหรับการก่อการร้ายพร้อมกัน 7 จุดในปารีสที่เกิดขึ้นเมื่อกลางดึกของวันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายน 2558 เพราะการก่อการร้ายครั้งนี้ เป็นการก่อการร้ายที่รุนแรงที่สุดในฝรั่งเศสนับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 เนื่องจากนำมาซึ่งการเสียชีวิตของผู้คนไม่ต่ำกว่า 153 คน และบาดเจ็บอีกนับไม่ถ้วน และทำให้หลายประเทศลุกขึ้นมาประณามผู้ก่อเหตุอย่างหนัก พร้อมยืนหยัดเคียงข้างฝรั่งเศสในการต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้ายที่นับวันก็ยิ่งจะเหิมเกริมป่าเถื่อนขึ้นทุกที แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฝรั่งเศสต้องเผชิญกับโศกนาฏกรรมอันเลวร้ายเช่นนี้ แต่ตลอดหลายปีที่ผ่านมาฝรั่งเศสก็มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอยู่เนือง ๆ แต่ที่สร้างความสูญเสียมากที่สุดก็คือในรอบปีนี้ อาจกล่าวได้ว่าเป็นปีแห่งการก่อการร้ายในฝรั่งเศสได้เลย
กระปุกดอทคอมพาย้อนดูเหตุก่อการร้ายฝรั่งเศสที่เคยเกิดขึ้นตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เพื่อย้ำให้เห็นอีกครั้งว่าปัญหาก่อการร้ายในฝรั่งเศสในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ เกิดบ่อยขึ้นและรุนแรงขึ้นมาก จนกลายเป็นภัยร้ายที่น่าหวั่นกลัวจริง ๆ
13 พฤศจิกายน 2558 กลุ่มก่อการร้ายโจมตีฝรั่งเศสครั้งใหญ่ด้วยการบุกกราดยิงและวางระเบิดในที่ที่มีการชุมนุมของผู้คนจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร โรงละคร และสนามกีฬา รวมทั้งสิ้นกว่า 7 จุด นำมาซึ่งความสูญเสียครั้งใหญ่ มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้แล้ว 153 ราย บาดเจ็บอีกไม่ต่ำกว่า 200 ราย ในจำนวนนี้มีหลายรายที่อาการอยู่ในขั้นสาหัสน่าเป็นห่วง และยอดผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้นอีก
21 สิงหาคม 2558 เกิดเหตุก่อการร้ายบนรถไฟสายอัมสเตอร์ดัม-ปารีส เมื่อผู้ก่อการร้ายกลุ่มอิสลามิสต์ได้เข้าไปในห้องน้ำเพื่อบรรจุกระสุนปืนไรเฟิล ก่อนจะออกมาจากห้องน้ำแล้วพยายามจะเปิดฉากยิงผู้คนบนรถไฟ แต่ระหว่างนั้นเองทหารจากกองทัพสหรัฐฯ และพลเมืองดีรวม 4 ราย ได้สังเกตพบพิรุธและเข้าไปขัดขวางการก่อการร้ายครั้งนี้อย่างกล้าหาญ ทำให้พวกเขาได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้

ภาพจาก PHILIPPE HUGUEN / AFP
26 มิถุนายน 2558 เกิดเหตุผู้ก่อการร้ายก่อเหตุฆ่าตัดคอชายรายหนึ่งภายในโรงงานบริษัทน้ำมัน
"แอร์ โปรดักส์" แล้ววางระเบิดภายในโรงงาน หลังเกิดเหตุตำรวจพบศพถูกฆ่าตัดคอพร้อมกับมีป้ายที่เขียนด้วยภาษาอาหรับวางอยู่ข้าง ๆ ศีรษะ ใจความระบุว่า กลุ่มก่อการร้ายอิสลามิสต์ได้โจมตีฝรั่งเศสอีกครั้งแล้ว อย่างไรก็ตามตำรวจได้จับกุมนายยาซีน ซัลฮี วัย 35 ปีเอาไว้ ฐานเป็นคนลงมือก่อเหตุ
19 เมษายน 2558 ผู้ก่อการร้ายจิฮัดจากอัลจีเรีย ได้วางแผนก่อการร้ายในโบสถ์ 2 แห่งในปารีส เขาสังหารหญิงรายหนึ่งเพื่อขโมยรถยนต์ของเธอไปใช้ในการก่อเหตุ แต่แล้วแผนการทั้งหมดก็ไม่สำเร็จลุล่วง เมื่อผู้ก่อการร้ายดันทำปืนลั่นใส่ขาตัวเองระหว่างก่อเหตุ
7 มกราคม 2558 เหตุก่อการร้ายยิงถล่มสำนักงานหนังสือพิมพ์ชาร์ลี เอ็บโด (Charlie Hebdo) กลุ่มก่อการร้ายได้บุกเข้าไปอาคารสำนักงานใหญ่ ก่อนจะเปิดฉากกราดยิงรายคน ขณะที่ช่วงเวลาไล่เลี่ยกันนั้นก็มีการก่อเหตุจี้-สังหารตัวประกันที่ซูเปอร์มาร์เกตด้วย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจาก 2 เหตุการณ์ทั้งสิ้นอย่างน้อย 12 ราย บาดเจ็บอีกไม่ต่ำกว่า 22 ราย คาดคนร้ายก่อเหตุเพราะโกรธแค้นที่หนังสือพิมพ์ชาร์ลี เอ็บโด มักจะตีพิมพ์การ์ตูนเสียดสีและล้อเลียนศาสนาอิสลาม โดยผู้เสียชีวิต 4 รายจากทั้งหมด ล้วนเป็นนักวาดการ์ตูน หลังเกิดเหตุประธานาธิบดีฟรองซัวส์ ออลลองด์ ประณามการก่อการร้ายดังกล่าวว่าเป็นการก่อการร้ายที่ป่าเถื่อนมาก พร้อมประกาศไว้ทุกข์ 1 วัน

ภาพจาก GABRIELLE CHATELAIN / AFPTV / AFP
22 ธันวาคม 2557 คนร้ายได้ขับรถตู้ไล่ชนผู้คนที่ตลาดคริสต์มาส เมืองแนนเทส จนมีผู้เสียชีวิต 1 ราย ขณะเกิดเหตุมีการร้องตะโกนสรรเสริญพระอัลเลาะห์ คนร้ายพยายามฆ่าตัวตายหลังก่อเหตุแต่ไม่สำเร็จ
21 ธันวาคม 2557 ชายรายหนึ่งได้ตะโกนสรรเสริญพระอัลเลาะห์ขณะขับรถพุ่งชนคนเดินถนนบาดเจ็บ 11 คน
20 ธันวาคม 2557 คนร้ายรายหนึ่งได้ตะโกนสรรเสริญพระอัลเลาะห์ ก่อนจะพุ่งเข้าหาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ใช้มีดจ้วงแทงจนบาดเจ็บ 3 ราย ในเวลาต่อมาคนร้ายถูกตำรวจวิสามัญฆาตกรรม
23 พฤษภาคม 2556 อเล็กซานเดอร์ ดอสซี่ นักรบอิสลามได้ก่อเหตุแทงทหารที่ลำคอในกรุงปารีส โชคดีทหารฝรั่งเศสรายนี้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว
12 มีนาคม 2555 คนร้ายได้ก่อเหตุกราดยิงทหารฝรั่งเศส 3 ราย ครู 1 ราย และนักเรียนในโรงเรียนยิว 3 ราย (อายุเพียง 3 ขวบ, 6 ขวบ และ 8 ขวบ) ก่อนที่เขาจะถูกวิสามัญฆาตกรรมในที่สุด