ตำรวจชลบุรี รวบ 9 ผู้ต้องหา แก๊งปล่อยเงินกู้สุดแสบ วางอุบายชวนลูกหนี้ดาวน์รถจักรยานยนต์ และให้แจ้งความเท็จรถหาย แต่กลับนำมาขายต่อนายทุน เพื่อส่งขายต่อที่ชายแดนไทย-เขมร
วานนี้ (12 ธันวาคม 2558) พล.ต.ต. อำพล บัวรับพร ผบก.ภ.จว.ชลบุรี, พ.ต.อ. ชนพัฒน์ นวลักษณ์ ผกก.สภ.บางละมุง แถลงจับกุมแก๊งลักรถจักรยานยนต์ และขบวนการเงินกู้นอกระบบได้ผู้ต้องหารวม 9 คน ประกอบด้วย น.ส.อารียา หรือเหมียว ถาดไธสง อายุ 27 ปี, น.ส.สมศรี หรืออ๊อด น้อยตรีมูล อายุ 47 ปี, น.ส.พร (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี, น.ส.สาวิตรี หรือจุ๋ม ฆ้องอินตะ อายุ 37 ปี, นายภีม ศิริสหวัฒน์ อายุ 26 ปี, น.ส.แต (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี, นายวรพงษ์ หรือเหน่ง บุพชาติ อายุ 39 ปี, นายภานุพันธ์ หรือยุ พรมเมือง อายุ 24 ปี และนายสมยศ หรือแจ๊ค บุญชื่น อายุ 24 ปี พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ 2 คัน ทะเบียนรถจักรยานยนต์ป้ายแดงรวม 5 แผ่น และนามบัตรโฆษณาเงินกู้นอกระบบอีกกว่า 200 ใบ
โดย พล.ต.ต. อำพล เปิดเผยว่า แก๊งดังกล่าวมีนายศร ไม่ทราบนามสกุล ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอยู่เป็นหัวหน้า โดยมีพฤติกรรมให้ลูกน้องปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยสูงกว่าที่กฎหมายกำหนด จากนั้นจะชักจูงให้ผู้กู้เงินไปดาวน์รถจักรยานยนต์แล้วให้ไปแจ้งความเท็จกับตำรวจว่า รถจักรยานยนต์ถูกขโมย แต่จริงแล้วกลับนำมาขายต่อให้นายทุนในราคาคันละ 20,000 บาท ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางละมุง จึงตามแกะรอย
กระทั่งเมื่อวันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา ได้รับรายงานว่า น.ส.พรได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.บางละมุง ว่ารถจักรยานยนต์ฮอนด้า คลิก สีน้ำเงิน-ดำ ทะเบียน 1 กพ-9712 ชลบุรี ถูกคนร้ายขโมยไป แต่เมื่อตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่า เป็นการแจ้งความเท็จ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงนำตัว น.ส.พร มาสอบสวนขยายผล แล้วให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ได้ไปติดต่อขอกู้เงินจากนายน๊อตไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง ซึ่งเป็นลูกน้องของนายศร และได้รับการชักชวนให้ไปดาวน์รถจักรยานยนต์จากร้านตัวแทนจำหน่าย พร้อมกับให้เงินจำนวนหนึ่งเป็นค่าดาวน์ เพื่อนำรถคันดังกล่าวมาขายต่อให้กับนายน๊อตและจะได้รับเงินค่าจ้างประมาณ 20,000 บาทต่อคัน เมื่อส่งมอบรถเป็นที่เรียบร้อย ก็ให้ไปแจ้งความเท็จอ้างว่ารถถูกคนร้ายขโมยก่อนนำรถส่งไปขายที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ในราคาคันละ 30,000-40,000 บาท
ต่อมาตำรวจได้ขยายผลจนสามารถติดตามจับกุมสมาชิกในขบวนการนี้ได้อีก 8 คน แต่ละคนทำหน้าที่แตกต่างกัน โดยแนวทางการสืบสวนยังทราบอีกว่า นอกจากผู้ที่ไปดาวน์รถจะได้รับค่าจ้างจากนายทุนเงินกู้แล้ว บางครั้งอาจจะได้รับเงินจากบริษัทประกันภัย ในกรณีที่รถหายอีกด้วย จึงถือได้ว่าเครือข่ายนี้เป็นภัยกับสังคมที่สร้างความเดือดร้อนให้กับร้านจำหน่ายรถจักรยานยนต์ และบริษัทประกันภัย อีกทั้งยังทำให้ตำรวจต้องเสียเวลาตามหารถที่หายไป
สำหรับนายทุนเงินกู้นอกระบบ และสมุนที่ยังหลบหนีอยู่ขณะนี้ได้ส่งชุดสืบสวนออกหาข่าวเพื่อติดตามจับกุมมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ภาพจาก ครอบครัวข่าว 3
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
