เปิด 9 เรื่องราวเรือลึกลับพ่วงปริศนาที่ยังคงหาคำตอบไม่ได้จนทุกวันนี้ ทั้งน่าพิศวง ชวนสะพรึง ให้ขนหัวลุกซู่
ตำนานเรื่องราวเกี่ยวกับความลึกลับที่ยังหาคำตอบไม่ได้ มักถูกเล่าขานสืบต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น "เรือลึกลับ" ก็เป็นหนึ่งในตำนานที่มักถูกหยิบยกขึ้นมาเล่าสู่กันฟังบ่อยครั้ง วันนี้กระปุกดอทคอมมี 9 เรื่องราวเรือลึกลับจากทั่วโลกกับปริศนาที่ยังไขไม่ออก ที่ถูกรวบรวมโดยทางเว็บไซต์ oddee มาฝากให้ได้ฉงนกัน ถ้าเตรียมใจพร้อมแล้วก็ไปดูกันเลย
1. กองทัพเรือผีกับศพเน่าเละคาลำ เกยหาดที่ญี่ปุ่น
เรือไม้บรรทุกสินค้าจำนวนไม่ต่ำกว่า 12 ลำ ถูกพบลอยมาเกยหาดในประเทศญี่ปุ่น โดยภายในเรือมีศพเน่าเฟะจำนวนมากมายถึง 22 ศพ เรือลำแรกถูกพบเมื่อเดือนตุลาคม 2558 หลังจากนั้นก็มีเรือลักษณะเดียวกันถูกพบอีกในเดือนพฤศจิกายน และเรื่อยมาจนถึงขณะนี้ (ธันวาคม 2558) การพบก็ยังไม่สิ้นสุด ภายในเรือแต่ละลำมีซากศพเน่าเปื่อยกองอยู่รวมกัน ซึ่งบางศพก็เหลือเพียงแต่โครงกระดูกเท่านั้น
ทั้งนี้เชื่อกันว่าเรือเหล่านี้มาจากเกาหลีเหนือ เนื่องจากพบร่องรอยตัวอักษรภาษาเกาหลีสลักอยู่ที่ตัวเรือ แปลได้ความหมายว่า "กองทัพของชาวเกาหลี" ซึ่งเป็นชื่อของกองกำลังป้องกันของทหารเกาหลีเหนือ
แต่ถึงอย่างนั้นที่มาที่แท้จริงของเรือไม้เหล่านี้ยังคงเป็นปริศนาที่ยังหาคำตอบไม่ได้ โดยบางรายก็เชื่อว่าอาจเป็นเรือของชาวประมงที่พลัดหลงออกนอกเส้นทาง ในขณะที่บางรายเชื่อว่าเป็นเรือของผู้ที่พยายามหนีออกนอกประเทศ
2. เรือยอชต์มรณะกับการหายสาบสูญของลูกเรือทั้ง 3
ในปี 2007 เรือใบท่องเที่ยวชื่อว่า Kaz II พร้อมกับลูกเรือ 3 คน ได้ออกเดินทางไปตามแนวชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงเหนือของออสเตรเลีย ทว่าจากการสำรวจทางอากาศพบว่ามันถูกทิ้งไว้ให้ลอยเคว้งคว้างอยู่กลางทะเล โดยไม่พบร่องรอยของลูกเรือเลยแม้แต่คนเดียว
มีความเชื่อว่าลูกเรือทั้งสามราย คือ เดส แบทเทน, ปีเตอร์ ผู้เป็นน้องชาย และจอห์น ทันสตีด ได้เผชิญกับชะตากรรมอันโหดร้ายจากพวกค้ายาเถื่อนหรือโจรสลัดกลางทะเล บ้างก็ว่าพวกเขาถูกประกาศให้หายสาบสูญไปเนื่องด้วยเหตุผลทางประกัน แต่ทั้งนี้ในปี 2008 เจ้าหน้าที่ชันสูตรพลิกศพในเมืองทาวน์สวิลล์ รัฐควีนส์แลนด์ ได้ยุติคดีดังกล่าวลง ด้วยการประกาศว่าพวกเขาเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ เนื่องจากคนทั้งหมดไม่มีประสบการณ์การเดินเรือใบมาก่อน โดยคาดว่าสาเหตุเกิดจากหนึ่งในสองพี่น้องนั้นได้ผ่อนเอ็นหาปลา แต่เอ็นกลับไปพันกับใบพัดเรือ จนทำให้เขาตกลงไปในน้ำ พี่น้องอีกคนหนึ่งก็ร่วงตามขณะพยายามช่วยเหลือ ส่วนคนสุดท้ายที่อยู่บนเรือ เขาพยายามที่จะลดใบเรือลง เพื่อหันเรือกลับไปช่วยเพื่อน แต่ลมแรงที่เปลี่ยนทิศอย่างกะทันหัน ทำให้เขาถูกเทตกน้ำ คราวนี้เมื่อทั้งสามร่วงลงน้ำกันทั้งหมดแล้ว ก็เป็นการยากที่จะกลับขึ้นเรือได้ สุดท้ายก็กลายเป็นโศกนาฏกรรมดังกล่าวนี้ ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากพวกเขาแล่นเรือออกมากันเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น
3. ปริศนา MV Joyita เรือที่ไม่มีวันจม ถูกพบลอยเคว้ง ไร้ร่องรอยคนบนเรือ
MV Joyita ถูกพบลอยลำอยู่ใกล้ชายฝั่งของประเทศฟิจิ ทว่ากลับไม่พบลูกเรือแม้แต่คนเดียวและยังคงเป็นปริศนาอยู่จนถึงทุกวันนี้ เมื่อเรือ Joyita ที่ได้ชื่อว่าเป็นเรือที่ไม่มีวันจมเช่นเดียวกับไททานิค ออกเดินทางไปในระยะทาง 300 ไมล์ทะเล จากเมืองอาปีอาในซามัว ไปยังหมู่เกาะโตเกเลาในปี 1955 ก็ได้หายไปอย่างลึกลับในบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกใต้ พร้อมกับผู้โดยสาร 25 ราย
จนกระทั่งในเดือนพฤศจิกายนปีนั้น เรือลำนี้ถูกพบในสภาพสุดทรุดโทรม ท่อเป็นสนิมเกรอะ วิทยุสื่อสารทำงานได้ในระยะรัศมีเพียง 2 ไมล์เพราะสายไฟต่าง ๆ เสียหายไปหมด แต่แม้สภาพเรือจะทรุดโทรมมาก Joyita ก็ไม่ได้อับปางลง อันเนื่องมาจากการรักษาสมดุลที่ดีเยี่ยมตามที่ได้สร้างมา ทว่านั่นยิ่งสร้างความสงสัย เพราะในเมื่อเรือก็ไม่มีทีท่าว่าจะล่ม แต่เหตุใดทั้งผู้โดยสาร ลูกเรือ จึงไม่อยู่บนเรือเพื่อรอความช่วยเหลือ พวกเขาหายไปไหน ? อุปกรณ์การเดินเรือต่าง ๆ ก็ได้หายไปด้วยเช่นกัน ? ปริศนาเหล่านี้ยังคงไม่สามารถหาคำตอบได้
ตามการสันนิษฐานของ เดวิด ไรท์ นักวิชาการจากสถาบันในเมืองออกแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ ระบุว่า มีหลักฐานชี้ว่าบนเรือเกิดน้ำรั่วไหลเข้ามาทางท่อหล่อเย็นในห้องเครื่อง และมันคงรั่วมานานแล้วกว่าจะมีคนมาพบเห็นเข้า ด้วยเหตุนี้ทำคนบนเรือพากันลงเรือชูชีพออกไป เอาตัวรอดไว้ก่อนด้วยการลอยแพกลางทะเล และคงมีใครสักคนพยายามส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือแล้ว แต่ก็ไม่สมหวัง ท้ายที่สุดพวกเขาเหล่านี้อาจจมน้ำหรือถูกปลาฉลามทำร้ายจนเสียชีวิต
4. The High Aim 6 เรือไต้หวันที่เผชิญการก่อกบฏบนเรือ
The High Aim 6 เรือสัญชาติไต้หวัน ถูกพบลอยคว้างห่างจากชายฝั่งตะวันตกของออสเตรเลียในปี 2003 แม้จะมีการออกค้นหาบริเวณโดยรอบอย่างครอบคลุมแล้ว แต่ก็ไม่พบร่องรอยใด ๆ ที่จะระบุได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับผู้โดยสารและลูกเรือ
ครั้งสุดท้ายที่ยังมีคนพบเห็นเรือลำนี้ มันลอยลำอยู่ห่างออกไป 3,500 ไมล์ทะเล (6,500 กิโลเมตร) จากหมู่เกาะมาร์แชลล์ ซึ่งอยู่กึ่งกลางระหว่างปาปัวนิวกินีและฮาวาย และหลังจากนั้นไม่นาน เจ้าของเรือก็ได้แจ้งว่า The High Aim 6 หายไปหลังจากที่เขาไม่สามารถติดต่อกับกัปตันเรือได้อีกแล้ว เบาะแสเดียวที่พอจะคะเนได้ถึงจำนวนคนที่อยู่บนเรือ คือจำนวนแปรงสีฟันที่ถูกพบอยู่บนนั้น
ทว่าไม่กี่สัปดาห์หลังจากที่เรือถูกค้นพบ กลับตรวจพบว่ามีการใช้โทรศัพท์ของวิศวกรประจำเรือลำนี้อยู่ที่อินโดนีเซีย เมื่อแกะรอยจากสัญญาณไป จึงสามารถรวบตัวผู้ต้องสงสัยได้ 1 คน เป็นชาวอินโดนีเซีย และเป็นคนที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์เพียงคนเดียวที่สามารถจับกุมตัวได้ โดยลูกเรือรายนี้ให้การสารภาพว่า ได้ลงมือสังหารกัปตันและวิศวกรเรือชาวไต้หวันไปตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม 2002 จากนั้นลูกเรือที่เหลือก็แยกย้ายกันไป อย่างไรก็ดี ลูกเรือฆาตกรรายนี้ไม่ยอมเปิดเผยถึงแรงจูงใจในการก่อเหตุ
5. Lyubov Orlova เรือมรณะที่เคว้งคว้างกลางแอตแลนติก พร้อมหนูซอมบี้ที่กินเนื้อพวกเดียวกันเอง
เรือเดินสมุทร Lyubov Orlova ถูกพบลอยเคว้งอยู่กลางมหาสมุทรแอตแลนติก ในทิศทางคล้ายกำลังมุ่งหน้าสู่สหราชอาณาจักร คาดว่ามันลอยเคว้งกลางมหาสมุทรมาเกือบปี สภาพกลายเป็นเรือร้างเมื่อภายในไม่พบลูกเรือ พบเพียงแต่พวกหนูบนเรือที่กินเนื้อพวกเดียวกันเองเพื่อเอาชีวิตรอด
เรือลำนี้เต็มไปด้วยตำนานลึกลับ เมื่อปี 2010 เจ้าของเรือดังกล่าวกระโดดตึกฆ่าตัวตายเนื่องจากเป็นหนี้ก้อนโต จนไม่มีเงินจ่ายให้กับลูกเรือ มันจึงถูกจอดทิ้งไว้ที่ท่าเรือเซนต์จอห์น บนเกาะนิวฟันด์แลนด์ ประเทศแคนาดา มานานกว่า 2 ปี จนกระทั่งในปี 2013 ก็ขายต่อไปยังสาธารณรัฐโดมินิกันเพื่อแยกชิ้นส่วนขาย ทว่าหลังจากนำไปจอดทิ้งไว้ท่าเรือก็ปรากฏว่ามันหายไปอย่างลึกลับ ก่อนจะไปปรากฏอีกครั้งที่น่านน้ำสากลดังกล่าว
อย่างไรก็ดี การกลับมาปรากฏตัวของเรือลำนี้ยังคงเป็นปริศนาอยู่จนถึงปัจจุบัน ว่ามันหายไปได้อย่างไร และไปโผล่อยู่กลางมหาสมุทรเช่นนั้นได้อย่างไร
เรือใบลำใหญ่สวยงามขนาด 5 เสากระโดง ถูกพบจอดเกยตื้นทิ้งร้างไว้บริเวณนอกชายฝั่งรัฐนอร์ทแคโรไลนา ในสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 31 มกราคม 1921 โดยมีหลักฐานระบุว่า ใบเรือกางขึ้นและห้องครัวของเรือมีร่องรอยว่าน่าจะอยู่ระหว่างการเตรียมอาหาร แต่ทว่าลูกเรือทั้ง 11 คนหายตัวไปพร้อมกับอุปกรณ์การเดินเรือและแพชูชีพ
หน่วยสืบสวนสอบสวนกลางสหรัฐฯ หรือ FBI ได้ตั้งข้อสันนิษฐานถึงการหายตัวไปของเหล่าลูกเรือในหลายทฤษฎีด้วยกัน ตั้งแต่การเกิดอุบัติภัยทางธรรมชาติอย่างพายุเฮอริเคน จนถึงการลักลอบขนส่งเหล้าแบบผิดกฎหมาย แต่ทั้งนี้ก็ไม่สามารถหาคำตอบได้ และยังคงเป็นปริศนาจนถึงทุกวันนี้
7. Teignmouth Electron เรือมรณะกับกะลาสีผู้จบชีวิตตัวเองกลางทะเล
โดนัลด์ คราวเฮิร์ส กะลาสีน้อยประสบการณ์ แล่นเรือ Teignmouth Electron ออกไปพร้อมกับความผิดหวังกลางทะเล จนนำไปสู่ความตาย เรื่องราวนี้เกิดขึ้นหลังจากมีการประกาศการแข่งขันล่องเรือใบรอบโลกในกรุงลอนดอนเมื่อปี 1968 นักล่องเรือผจญภัยทั่วโลกต่างให้ความสนใจ รวมถึง โดนัลด์ คราวเฮิร์ส ที่ตั้งใจจะลงแข่งขัน เขาได้ผู้สนับสนุนในการแข่งขันครั้งนี้แล้ว แต่เงื่อนไขก็ยังมี ถ้าหากว่าเขาไม่สามารถบรรลุการแข่งขันครั้งนี้ให้ได้ตามเป้า ก็มีอันต้องขายสมบัติที่มีเพื่อจ่ายเงินคืนสปอนเซอร์เป็นแน่แท้
ด้วยความหวังอันแรงกล้าแม้จะประสบการณ์น้อย โดนัลด์ออกเรือไป แต่สุดท้ายก็ตระหนักว่าทั้งเขาและเรือไม่แข็งแกร่งที่จะทำตามฝันได้ จนเกิดความคิดที่จะโกงขึ้นมา โดยการแสร้งลอยลำในทะเลแล้วกลับพรางตัวเข้าไปเนียนกับกลุ่มผู้แข่ง เพื่อที่ว่าแม้เขาจะไม่ชนะรางวัล แต่ก็ไม่ต้องเป็นหนี้สปอนเซอร์ ทว่าหลังจากลอยลำอยู่ร่วมเดือน แผนของเขากลับไม่ประสบความสำเร็จ ด้วยความผิดหวังและสภาพจิตใจที่เริ่มฟั่นเฟือนจากความเครียดอันเกิดจากการคิดหลอกลวงนี้ ในที่สุดคราวเฮิร์สก็ตัดสินใจฆ่าตัวตาย จบชีวิตของตัวเองลงกลางทะเลแทนการกลับบ้าน เรือของเขาถูกพบเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 1969
8. ชะตากรรมลึกลับของเรือ Mary Celeste เรือร้างที่มีอายุกว่า 140 ปี
เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 1872 เรือ Mary Celeste ที่บรรทุกแอลกอฮอล์ที่ยังไม่กลั่นเต็มลำ ได้เดินทางออกจากนิวยอร์กมุ่งหน้าไปยังเมืองเจนัว ประเทศอิตาลี โดยมีลูกเรือทั้งหมด 7 คน ซึ่งรวมไปถึงกัปตันเบนจามิน บิกส์ กับภรรยา และลูกสาววัย 2 ขวบของทั้งคู่
ทว่าหลังจากนั้นผ่านไป 1 เดือน เรือของอังกฤษได้พบเรือลำนี้จอดทิ้งไว้ที่ระยะทางประมาณ 400 ไมล์ทางตะวันออกของหมู่เกาะอะโซร์ส ประเทศโปรตุเกส สภาพใบเรือกางเต็มลำ ตัวเรือไม่ได้รับความเสียหาย พร้อมทั้งยังมีเสบียงอาหารและน้ำปริมาณเพียงพอสำหรับ 6 เดือน อยู่พร้อมในเรือ แต่ทว่าไร้วี่แววของกัปตันและครอบครัว รวมทั้งลูกเรือคนอื่น ๆ
ในระยะกว่า 135 ปีที่ผ่านมา ได้เกิดข้อสันนิษฐานต่าง ๆ ถึงชะตาอันใดก็ตามที่เรือลำนี้ได้เผชิญ ทั้งการโจมตีจากโจรสลัด รวมไปถึงการระเบิดที่มีเชื้อเพลิงมาจากแอลกอฮอล์จำนวนมากกว่า 1,700 บาร์เรลที่บรรจุอยู่ภายในเรือ แต่ก็ยังไม่ได้ข้อสรุปที่แน่ชัด แต่ได้สันนิษฐานว่า อาจจะเป็นเพราะความผิดพลาดในการเดินเรือ เกิดการอุดตันของปั๊มน้ำบนเรือ
9. เรื่องราวปริศนาเรือ Ocean Wave เมื่อศิลปินล่องเรือเดี่ยวออกไป ไม่มีใครรู้ว่ามันเป็นศิลปะหรือแผนเพื่อฆ่าตัวตาย
เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2558 บาส เจน เอดเดอร์ ศิลปินชาวดัตช์วัย 33 ปี บอกลาภรรยา ก่อนออกเดินทางเพียงลำพังจากแหลมค็อด ข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก
เอดเดอร์ได้วางแผนให้การล่องเรือของเขาเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงศิลปะ โดยเปิดการแสดงด้วยการให้นักเรียนทำการแสดงบรรเลงเพลงประสานเสียงที่งานแสดงในพิพิธภัณฑ์แสดงภาพของเขาในลอสแอนเจลิส โดยมีการเดินทางล่องเรือของเขาเป็นองค์ประกอบหลักและบทจบของการแสดงศิลป์นี้ โดยเขาตั้งใจจะเดินทางไปถึงยังฟอลเมาธ์ในอีก 8-10 สัปดาห์ และมาร่วมแสดงเพื่อเป็นการปิดท้าย
ทว่าหลังจากเอดเดอร์ล่องเรือไปได้ 3 สัปดาห์ สัญญาณการติดต่อทางวิทยุของเขาก็หายไป โดยจุดสุดท้ายที่ติดต่อได้ เขาอยู่ที่หมู่เกาะอะโซร์ส ในประเทศโปรตุเกส ต่อมาเรือเดินมหาสมุทร Ocean Wave ก็ถูกพบลอยเคว้งโดยมีบางส่วนจมอยู่ใต้น้ำ อยู่ห่างออกไป 150 ไมล์ ทางตะวันตกเฉียงใต้นอกชายฝั่งของไอร์แลนด์
ทั้งนี้ ไม่มีใครทราบเลยว่า เอดเดอร์ถูกคลื่นทะเลซัดเสียชีวิตหรือเกิดความเครียดจนกระโดดน้ำหายไป หรือที่ทำมาทั้งหมดนี้ คือแผนการที่ตั้งใจจะออกเรือมาเพื่อฆ่าตัวตายกันแน่






