ย้อนอ่าน 10 ข่าวแปลก ชวนฮือฮา สร้างกระแสความสงสัยไปจนถึงชวนตะลึงอ้าปากค้าง ที่เกิดขึ้นในรอบปี 2558 มาดูกันว่าข่าวแปลกเด็ด ๆ ดัง ๆ จากทั้งไทยและเทศในรอบปีที่ผ่านมานี้มีอะไรกันบ้าง
ในรอบปีที่ผ่านมา เกิดเรื่องราวแปลก ๆ ที่อึ้งและฮือฮาอย่างมากมายทั่วโลก ทั้งโรคประหลาด สัตว์ประหลาด และสิ่งแปลก ๆ สิ่งลี้ลับ ที่ไม่สามารถอธิบายได้ วันนี้เราก็ขอรวบรวม 10 เรื่องราวชวนอึ้งมาให้ได้อ่านกันอีกครั้ง ไปดูกันซิว่าปีนี้มีข่าวแปลก ๆ อะไรบ้าง
1. ฝรั่งใจเด็ดทำการทดลองชวนสยอง ฟักตัวอ่อนแมลงวันบอทฟลายในผิวหนังตัวเอง !
เปิดต้นปีมาด้วยเรื่องชวนอี๋ที่แสนจะเอ็กซ์ตรีมสุด ๆ เมื่อ พิออตร์ นาสเครกกี้ นักกีฏวิทยาชาวอเมริกัน ทำการทดลองฟักตัวอ่อนหนอนแมลงวันบอทฟลาย ซึ่งคงจะไม่แปลกอะไรถ้าเป็นแค่การทดลองติดตามสังเกตจากตัวอย่างเฉย ๆ แต่นี่ นายนาสเครกกี้ฟักมันออกมาจากผิวหนังตัวเอง !!
เรื่องของเรื่องเกิดจากความบังเอิญที่นาสเครกกี้ถูกยุงที่มีไข่แมลงวันบอทฟลายกัดระหว่างการเดินทางสำรวจป่าดิบชื้นในอเมริกากลาง เขาตัดสินใจเค้นเอาสิ่งแปลกปลอมในตุ่มยุงกัดตุ่มหนึ่งออกมา พบว่ามันคือตัวอ่อนหนอนแมลงวันไซส์กระจิริด และด้วยวิญญาณนักกีฏวิทยาชนิดเข้าเส้น นาสเครกกี้เลยตัดสินใจเก็บอีก 2 ตุ่มเอาไว้ สละผิวหนังเป็นรังอันอบอุ่นให้ตัวอ่อนที่เหลือใช้ฟักตัวเองออกมา เลยเกิดเป็นภาพการทดลองแบบโคลสอัพหนอนฟักตัวออกมาจากผิวหนังที่ชวนขนลุกอย่างที่เห็น
2. พบสัตว์ประหลาดคลานในป่าที่มาเลเซีย
จนในที่สุดก็มีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานอนุรักษ์ธรรมชาติออกมาเปิดเผยว่า สิ่งมีชีวิตหน้าตาพิลึกที่เห็นนี้ แท้จริงคือ "หมีหมา" ที่อยู่ในสภาพผอมแห้งแคระแกร็นอย่างร้ายแรง ซ้ำร้ายขนยังร่วงโกร๋นหมดทั้งตัว ซึ่งเป็นไปได้ว่ามันอาจป่วยและเป็นโรคผิวหนัง หรือในแง่ที่ร้ายกว่านั้น มันอาจเป็นเหยื่อถูกทารุณกรรมจากมนุษย์ก็เป็นได้
3. เหตุการณ์ไฟไหม้ปริศนา ที่บ้านจังหวัดพัทลุง
กลายเป็นข่าวแปลกข่าวใหญ่ที่คนไทยทั้งประเทศให้ความสนใจกันมากในรอบปีนี้ กับเรื่องไฟไหม้ปริศนา ที่บ้านของนายล้อม ศักดิ์หวาน ชาวบ้านอำเภอตะโหมด จังหวัดพัทลุง นายล้อมผู้เป็นเจ้าของบ้าน เผยกับผู้สื่อข่าวในรายงานวันที่ 20 เมษายน ว่า ตลอดเดือนที่ผ่านมาเกิดเหตุไฟไหม้มา 112 ครั้ง โดยไม่สามารถหาที่มาของต้นเพลิงได้เลย ที่น่าตระหนกก็คือ ในช่วงเวลาที่ผู้สื่อข่าวกำลังเก็บภาพอยู่ ก็เกิดไฟไหม้ในบ้านขึ้นมาอีก 3 ครั้งด้วยกัน ทั้ง ๆ ที่อุณหภูมิขณะนั้นก็ไม่เอื้อต่อการให้เกิดการลุกไหม้ หลังข่าวเผยแพร่ออกไปมีเจ้าหน้าที่มาเก็บตัวอย่างดินไปตรวจพิสูจน์และตรวจสอบสภาพแวดล้อมโดยรอบบ้าน และยังจะมีเจ้าหน้าที่มาเก็บตัวอย่างฝุ่นไปตรวจเพิ่มเติม โดยสันนิษฐานว่าอาจมีสารแคลเซียม คาร์ไบด์ และก๊าซอะเซทิลีน อยู่ในอากาศ ซึ่งสองตัวนี้เมื่อทำปฏิกิริยากันในความชื้นและอุณหภูมิที่เหมาะสม ก็ทำให้เกิดการลุกไหม้ได้ นอกจากนี้นายล้อมยังให้รายละเอียดที่ชวนแปลกใจเพิ่มอีกว่า ทุกครั้งที่เกิดเพลิงไหม้ขึ้น หลานสาววัย 2 ขวบของตนจะเป็นคนบอกได้ทุกครั้งว่าเกิดเพลิงไหม้ที่จุดใด
ในขณะที่ข่าวยิ่งทวีความฉงนและเรียกความสนใจจากประชาชนมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้าน ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็ออกมาตั้งข้อสังเกตชี้ชวนให้สงสัยว่า เหตุไฟไหม้ปริศนานี้อาจไม่ได้เกิดขึ้นจากปฏิกิริยาทางเคมีก็ได้ โดยอ้างอิงคลิปที่เฟซบุ๊กพระยาธรรมิกราชนำมาเผยแพร่ เป็นเหตุการณ์ไฟไหม้ไฟฉายที่ถูกนำไปวางไว้ในหม้อหุงข้าว โดยเจ้าของเฟซบุ๊กยังโพสต์ด้วยว่า ที่จริงเหตุการณ์นี้อาจเป็นฝีมือของคนในครอบครัวกันเอง เพราะไฟไหม้มักเกิดในทีเผลอ ในจุดไร้คนเฝ้า แถมที่บ้านก็ไม่มีการติดกล้องวงจรปิด คนในบ้านเองก็ไม่ได้แบ่งเวรยามเฝ้ากันให้ครบทุกจุด
และในช่วงที่เรื่องกำลังวุ่นวายยังคลายปริศนาไม่ออก ก็มีเรื่องโผล่มาให้ประหลาดใจอีกระลอก เมื่อมีกลุ่มคนแต่งเป็นฤาษี-เจ้าแม่กวนอิมเดินทางมาที่บ้านนายล้อม ขอทำพิธีกรรมขับไล่สิ่งชั่วร้าย ซึ่งนายล้อมก็ไม่ได้ยินยอม พร้อมยืนกรานจะรอผลการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น โดยในระหว่างนั้นเหตุไฟลุกไหม้ยังเกิดขึ้นต่อเนื่องไม่หยุด ทางมหาวิทยาลัยทักษิณพร้อมผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ จึงเตรียมนำกล้องวงจรปิดติดตั้งรอบบ้านช่วยจับภาพอีกทาง
แต่แล้วจู่ ๆ ยังไม่ทันได้ติดตั้งกล้องวงจรปิดรอบบ้านดี ทางช่อง 8 ก็เผยคลิปที่ได้จากการแอบติดตั้งกล้องภายในบ้านของนายล้อม เผยให้เห็นพิรุธของสมาชิกหญิงรายหนึ่งในบ้าน ยื่นมือเข้าไปตรงกองผ้าครู่หนึ่ง ก่อนจะลุกหายไป แล้วกลับมาพร้อมเด็กหญิงวัย 2 ขวบ ที่มาชี้จุดเพลิงไหม้ตรงกองผ้านั้น นำมาซึ่งข้อสงสัยว่าเพลิงปริศนาที่แท้อาจเป็นฝีมือคนในบ้านเอง
ภาพจาก ช่อง 8
ทางด้านนายล้อมหลังถูกโจมตีเรื่องคนในครอบครัวเป็นผู้วางเพลิงเอง ก็เผยว่ารู้สึกน้อยใจ และจ่อจะฟ้องช่อง 8 รวมทั้งนักวิชาการที่กล่าวหาครอบครัวตน ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยทักษิณและสงขลาก็เข้ามาติดตั้งกล้องวงจรปิดถึง 11 จุดที่บ้านนายล้อม ผลปรากฏว่าตลอดระยะเวลา 18 ชั่วโมงหลังติดตั้ง ไม่เกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้นเลยแม้แต่ครั้งเดียว ทางด้านนายอำเภอตะโหมด ในฐานะเจ้าของพื้นที่ เผยว่า ในระหว่างที่ผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่ายกำลังเร่งหาข้อสรุป ก็ยังไม่อยากด่วนสรุปอะไรโดยไม่มีหลักฐาน เชื่อว่าคงไม่มีใครคิดเผาบ้านตัวเองได้
และในที่สุดแล้ว การติดตามข่าวมาจนถึงวันที่ 24 พฤษภาคม เรื่องเพลิงไหม้ปริศนาที่บ้านนายล้อมก็จบลงเงียบ ๆ โดยที่ยังไม่รู้ว่าสาเหตุไฟไหม้แต่ละครั้งเกิดจากอะไรกันแน่ ซึ่งในระยะเวลาร่วม 2 เดือนที่ตกเป็นข่าวไฟไหม้ปริศนา ได้เกิดเพลิงไหม้ขึ้นที่บ้านของนายล้อมมากกว่า 200 ครั้ง ด้านลูกสะใภ้ของนายล้อมออกจากบ้านไปบวชโดยไม่มีการเปิดเผยว่าบวชที่วัดไหนและด้วยสาเหตุใด ฝ่ายเจ้าของบ้านเองไม่มีการแจ้งความหรือฟ้องร้องดำเนินคดีกับใคร ส่วนความเห็นเกี่ยวกับเหตุเพลิงไหม้ปริศนานี้ได้แบ่งออกเป็นสองฝ่าย คือ ชาวบ้านในละแวกเชื่อว่าไม่ใช่ฝีมือมนุษย์ ขณะที่คนที่ไม่ได้อยู่ในละแวกเชื่อว่าเป็นฝีมือของมนุษย์ ซึ่งสุดท้ายก็ล้วนแต่เป็นความเชื่อส่วนบุคคล
4. เตือนคนชอบกินแมลงทอด เจอพยาธิขนม้าซุกในตัวแมลง ลากออกมาได้เป็นเส้น ๆ
เป็นข่าวที่ทำเอาคนชอบกินแมลงทอดผวาไปตาม ๆ กัน กับภาพชวนอี๋ชำแหละแมลงแต่เจอพยาธิขนม้า (horsehair worm หรือ Gordian worm) โดยเป็นภาพจากเฟซบุ๊ก จ.ส.อ. อุดม สร้อยเงิน ที่เผยเจ้าตัวปรสิตสยองโลกให้เห็นกันจะจะเอาเบ็ดชำแหละท้องแมลงเสีย 10 เจอที่มีพยาธิขนม้าแฝงอยู่ถึง 9 ตัว ลากออกมาได้ตัวเป็นเส้นยาวเหยียดจนน่าตกใจ ว่าเข้าไปอัดอยู่ในท้องแมลงตัวนิดเดียวได้อย่างไรกัน
อย่างไรก็ตามหากแมลงเหล่านี้ผ่านการปรุงให้สุกก่อนนำไปบริโภค พยาธิขนม้าที่แฝงอยู่ในตัวก็จะถูกปรุงสุกไปด้วย เมื่อสุกแล้วก็ถือว่าไม่มีอันตรายแก่ผู้บริโภคแต่อย่างใด เพียงแค่จะพาลให้รู้สึกพะอืดพะอมอยากจะโก่งคอ ถ้าเกิดบังเอิญรู้ว่าแมลงทอดรสโอชาที่เพิ่งเอาเข้าปาก มีเจ้าพยาธิตัวยาวนี้อยู่ในท้องด้วย
เหตุการณ์ปรสิตแฝงร่างแมลงแบบนี้ ยังเป็นเรื่องให้อี๋กันอีกในข่าว คลิปพยาธิขนม้าดิ้นรนออกจากตัวจิ้งหรีด หลังแมลงเจ้ากรรมถูกเหยียบตาย และ เด็ดหัวตั๊กแตนทำช็อก เจอหนอนพยาธิอัดแน่น !! ดูแล้วชวนคลื่นเหียนจริง ๆ
5. เฉลยปริศนาสัตว์โลกชวนอี๋ หนอนประหลาดพ่นใยได้ มันคือ หนอนริบบิ้น
จากคลิปฮือฮา หนอนสีแดงตัวหยุ่น ๆ คล้ายไส้เดือน พ่นใยเป็นเมือกสีขาว ๆ ออกมาได้ เทียบกับหนังก็ราวกับสัตว์ประหลาดอะไรสักอย่างที่หลุดมาจากห้องทดลอง แต่คลิปนี้ถูกระบุว่าเป็นตัวประหลาดที่จับมาได้จากทะเล
และก็ได้ ดร.ศุภณัฐ ไพโรหกุล ผู้เชี่ยวชาญจากภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล จากจุฬาฯ ออกมาเฉลยว่า เจ้าตัวประหลาดนี้ แท้จริงคือ "หนอนริบบิ้น" เป็นหนอนที่อยู่ในไฟลัม Nemertea ส่วนเส้นสีขาว ๆ เหลือง ๆ ที่พ่นออกมาคือ proboscis มีลักษณะเป็นเมือกเหนียว บางชนิดอาจจะมีพิษ ช่วยในการจับอาหารได้
เชื่อว่าข่าวนี้ได้เปิดโลกความรู้ให้หลาย ๆ คนที่เพิ่งจะได้เห็นหน้าค่าตาเจ้าหนอนริบบิ้นเป็นครั้งแรก และต่อมาในเดือนมิถุนายน ก็มีหนอนริบบิ้นอีกตัวโผล่มาเผยโฉมให้ได้สะพรึงกัน เป็นคลิปที่บันทึกได้ที่ท่าเรือที่ไต้หวัน คราวนี้เป็นตัวสีเขียวปี๋ พ่นเมือกสีออกแดง ๆ ออกมา ถ้าไม่รู้มาก่อนว่ามันคือหนอนริบบิ้น ก็คงคิดว่าเป็นหนอนเอเลี่ยนแน่ ๆ เชียว (อ่านข่าว ขนลุกขนพอง คลิปหนอนประหลาดตัวเขียวปี๋ พ่นเส้นยาวเหยียดเป็นอาวุธ)
6. โอ้แม่เจ้า จีนจัดแข่งสาวไว้ขนรักแร้ กระตุ้นนิยามความงามใหม่ของสตรีเพศ
แต่ไหนแต่ไรใคร ๆ ก็พอรู้ ว่าสาวจีนหลายคนพอใจที่จะไว้ขนรักแร้ แค่ยกแขนก็เห็นแพขนฝอยฟ่องอวดตัวอยู่ใต้วงแขนอย่างไม่อายสายตาใคร แต่ในช่วงกลางปีที่ผ่านมา มันได้กลายเป็นประเด็นถกเถียงในโลกออนไลน์ขึ้นมาอย่างจริงจัง หลังจากที่บรรดาอาหมวยหลายรายได้ออกมาสอบถามขอความเห็นว่า "ฉันควรจะโกนขนรักแร้ไหม"
จนบังเกิดหมวยสาวนาม เสี่ยว เหมยลี่ ออกมารณรงค์ให้ผู้หญิงไว้ขนรักแร้ตามธรรมชาติ แถมยังจัดประกวดสาวขนรักแร้งามอีกต่างหาก เธอบอกว่า "มันถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องยอมรับธรรมชาติของร่างกายมนุษย์ คนเรามีขนรักแร้ทุกคน ทำไมจะต้องไปโกนไปกำจัดมันด้วย" จึงเป็นที่มาของนิยามความงามใหม่ "สาวรุ่นใหม่ไม่ต้องแว็กซ์ขนเต่า" นะจ๊ะ และถ้าอยากติดตามผลการประกวดและยลโฉม (ใต้วงแขน) ผู้ชนะ ก็จิ้มไปที่นี่เลย "ยลโฉมผู้ชนะการประกวดขนรักแร้ คุณค่าที่สาวจีนคู่ควร"
7. ไอ้หยา ลุงเม็กซิโกเจ้าโลกเลยเข่า ใหญ่เป็นกระบองวัดได้ 18.9 นิ้ว
แต่อย่างไรก็ตาม ขนาดองคชาตจริง ๆ ของลุงโรเบอร์โตนั้นมีอยู่เพียง 6 นิ้วเท่านั้น ส่วนที่เหลือเป็นเพียงหนังยาน ๆ ที่ห้อยหย่อนลงมา และด้วยความใหญ่เกินพอดี (ไปมาก ๆ) ทำให้ลุงโรเบอร์โตประสบความลำบากในการดำรงชีวิตหลายประการ และพยายามเรียกร้องให้รัฐขึ้นทะเบียนเขาเป็นผู้พิการ เพื่อสามารถรับสวัสดิการความช่วยเหลือได้ แต่หลังจากเรื่องของคุณลุงเจ้าโลกยักษ์ถูกเผยออกไป ผู้ที่มาไวกว่าความช่วยเหลือของทางการ ก็คือคนที่มาติดต่อให้เขาเป็นพระเอกหนังโป๊ ทว่าน่าเสียดาย ด้วยอุปสรรคทางภาษา เรื่องค่าตัว และอุปสรรคด้านกายภาพบางประการ เลยทำให้ข้อตกลงยังไม่ลงตัวเสียที
8. เกิดหลุมยุบยักษ์ที่ชายหาดในออสเตรเลีย กลืนรถ-ต้นไม้หายวับ
หลังมีหลุมยุบปรากฏขึ้นหลายที่ทั่วโลก ด้วยเหตุผลต่าง ๆ นานากันไป ทั้งเป็นที่เหมืองเก่า แผ่นดินทรุด ก๊าซใต้ดินระเบิด ฯลฯ ในปีนี้ก็มีหลุมยุบขนาดใหญ่น่าตระหนกเกิดขึ้นที่ชายหาดควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 27 กันยายน โดยขนาดปากหลุมวัดได้กว้าง 150 เมตร และลึกราว 3 เมตร ดูดเอารถยนต์และเต็นท์นักท่องเที่ยวที่กางไว้ในบริเวณนั้น จมหายลงไปในหลุม แต่โชคดีที่ไม่มีใครเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว
หลังเกิดเหตุมีการส่งนักประดาน้ำดำลงสำรวจส่วนที่เป็นหลุมยุบ พบซากรถยนต์และสิ่งของเครื่องใช้ที่ถูกดูดลงไป พร้อมยังพบว่าทรายที่ก้นหลุม ยังมีลักษณะทรายดูดแบบอ่อน ๆ อยู่ด้วย
สำหรับสาเหตุของหลุมยุบนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประเมินแล้วคาดว่า น่าจะเป็นรูปแบบหนึ่งของดินชายฝั่งถล่ม
9. ซากศพปริศนาเกยตื้นที่ปารากวัย ชาวบ้านฮือฮา เชื่อเป็น "ชูปาคาบรา" สัตว์ดูดเลือดในตำนาน
ชาวบ้านในเมืองคาร์เมน เดล ปารานา ประเทศปารากวัย พบซากศพปริศนาลอยเกยตื้น ลักษณะมีแขนขาคล้ายมนุษย์ แต่ก็ไม่น่าใช่ ดูแล้วยังใกล้เคียงลิงมากกว่า จึงเก็บซากส่งผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบว่าเป็นสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ใดกันแน่ ขณะที่เจ้าหน้าที่เองแม้จะคล้อยตามว่าน่าจะเป็นลิง ก็ยังไม่มั่นใจนักว่าจะสามารถตรวจพิสูจน์หาคำตอบให้ได้ เพราะซากนั้นก็เน่าเปื่อยไปมากแล้ว
ถึงกระนั้นบรรดาชาวบ้านหลายคนก็เชื่อว่า นี่น่าจะเป็นซากของตัว "ชูปราคาบรา" สัตว์ลึกลับในตำนานของลาตินอเมริกาที่ฆ่าและดูดกินเลือดแพะ แม้จะยังไม่มีใครเคยพบเห็นตัวเป็น ๆ ของมันเลยก็ตาม
10. เฉลยปริศนาตัวประหลาดสีตำตัวยาวเป็นปล้องลอยเกลื่อนเหนือน้ำ ที่แท้คือ แม่เพรียง
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ไอ แอม
จากภาพสิ่งมีชีวิตประหลาด ลักษณะตัวยาวเป็นปล้อง ๆ สีดำ ลอยเกลื่อนที่ผิวน้ำ ถูกแชร์จากเฟซบุ๊ก ไอ แอม ได้จุดกระแสความสงสัยเป็นอย่างมาก ว่าตัวประหลาดนี้คืออะไรกันแน่ ก่อนจะมีผู้ช่วยไขข้อข้องใจ ในคอมเม้นท์ใต้ภาพว่า สิ่งที่เห็นน่าจะเป็น "เพรียงทะเล" หรือ "แมงกะดาน" ที่พบเห็นได้ช่วงต้นฤดูหนาว แต่ปัจจุบันหาดูได้ยากมากแล้ว
ด้าน รศ. ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ออกมาคอนเฟิร์มชัด ๆ อีกครั้งว่า สัตว์ตัวปล้องยาว ๆ ดำ ๆ ที่เห็นนี้ เป็น "แม่เพรียง" หรือ "ไส้เดือนทะเล" จริง ๆ และยิ่งเห็นตัวใหญ่ขาดนี้เป็นเรื่องน่าดีใจ เพราะแสดงให้เห็นว่าสิ่งแวดล้อมบริเวณนั้นยังคงสมบูรณ์อยู่
สำหรับ แม่เพรียง มีลักษณะคล้ายหนอน มีลำตัวเรียวยาวค่อนข้างแบน แบ่งเป็นปล้อง ๆ ด้านหน้ามีลักษณะคล้ายหัว ที่ปากมีเขี้ยว 1 คู่ มีอวัยวะรับสัมผัสคล้ายหนวด ถัดจากหัวเป็นลำตัวมีลักษณะเป็นปล้องขนาดเท่า ๆ กัน ด้านข้างมีส่วนยื่นออกไปเป็นแผ่น ๆ ทำหน้าที่คล้ายขา ช่วยในการเคลื่อนที่และว่ายน้ำ พบได้มากในบริเวณป่าชายเลนของน่านน้ำไทย
และทั้งหมดนี้ก็คือ 10 ข่าวแปลกสุดฮิต ประจำปี 2558 ทั้งเหตุการณ์ประหลาด คนกับโรคประหลาด และสิ่งมีชีวิตหน้าตาประหลาดชวนให้พิศวงไปจนถึงขวัญผวา ส่วนศักราชหน้าจะมีเรื่องราวแปลกประหลาดอะไรอีกบ้าง รับรองกระปุกดอทคอมจะติดตามนำมารายงานให้ทราบกันแน่นอนค่ะ