เปิดคลิป "ธัมมชโย" เทศน์อัศจรรย์ แม่ชีจันทร์ ปัดระเบิด

      ชาวเน็ตสงสัย แม่ชีจันทร์ ขนนกยูง แม่ชีปัดระเบิด ในคลิปพระธัมมชโย เล่าเรื่องอานุภาพหลวงปู่วัดปากน้ำ ตอน สั่งการปัดระเบิด ให้ลูกศิษย์ฟัง ที่กำลังถูกส่งต่อในโลกออนไลน์ คือใคร ?

      ประเด็นวัดพระธรรมกาย กลายมาเป็นที่สนใจของสังคมออนไลน์อีกครั้ง โดยล่าสุด (19 มกราคม 2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโลกออนไลน์ได้มีผู้นำคลิปที่พระธัมมชโย เคยเล่าเรื่อง "อานุภาพหลวงปู่วัดปากน้ำ ตอน สั่งการปัดระเบิด" ให้บรรดาลูกศิษย์ได้ฟัง เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2555  มาส่งต่อกันครั้ง 

ประวัติแม่ชีจันทร์ ขนนกยูง


        แม่ชีจันทร์ ขนนกยูง เกิดเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2452 ที่ อ.นครไชยศรี จ.นครปฐม โดยแม่ชีจันทร์ เป็นบุตรคนที่ 5 ในจำนวนพี่น้องชายหญิงทั้งหมด 9 คน มีบิดาชื่อ พลอย มีมารดาชื่อ พัน ซึ่งประกอบอาชีพทำนา ในสมัยเด็ก แม่ชีจันทร์มีความใกล้ชิดกับมารดามากกว่าบิดา และด้วยความที่บิดาของแม่ชีจันทร์เป็นคนติดสุรา จึงมักทะเลาะกับมารดาอยู่เสมอ

        และมีอยู่ครั้งหนึ่ง เมื่อบิดาของแม่ชีจันทร์อยู่ในการมึนเมาได้บ่นพึมพำ จนทำให้มารดาของแม่ชีจันทร์ รู้สึกรำคาญ จึงตะโกนออกไปว่า "ไอ้นกกระจอก อาศัยรังเขาอยู่" เมื่อบิดาของแม่ชีจันทร์ ได้ยินก็โกรธจัด จึงถามลูก ๆ ว่าได้ยินที่แม่ด่าว่าพ่อไหม ด้วยความที่แม่ชีจันทร์ไม่อยากให้บิดาและมารดาทะเลาะกันจึงกล่าวว่า มารดากล่าวเช่นนั้นคงไม่ได้หมายถึงบิดา ทำให้บิดาโกรธมากจึงแช่งว่า ขอให้แม่ชีจันทร์หูหนวก 500 ชาติ ทำให้แม่ชีจันทร์รู้สึกกลัวมาก เพราะเชื่อว่าคำพูดของบิดามารดานั้นมีความศักดิ์สิทธิ์มาก หากแช่งลูกอย่างไรย่อมจะเป็นเช่นนั้น

        เมื่อแม่ชีจันทร์ อายุได้ 13 ปี บิดาได้เสียชีวิตในวันที่แม่ชีจันทร์กำลังอยู่ในท้องนา ทำให้ไม่ได้มาขอขมาบิดาก่อนเสียชีวิต ประกอบกับความรู้สึกกลัวที่เคยถูกบิดาแช่งให้หูหนวกยังคงติดอยู่ในใจตลอดมา ทำให้แม่ชีจันทร์ตัดสินใจเดินทางไปหาหลวงพ่อวัดปากน้ำหรือที่รู้จักกันในอีกนามหนึ่งคือ พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เพื่อหวังศึกษาวิธีการนั่งสมาธิเพื่อไปขอขมาบิดาในปรโลกเพื่อให้ตนไม่ต้องหูหนวกในชาติต่อ ๆ ไป ตามที่เคยยินกิตติศัพท์ของหลวงพ่อวัดปากน้ำว่า สามารถสอนสมาธิเพื่อไปเยี่ยมญาติที่เสียชีวิตแล้วได้

เส้นทางธรรม แม่ชีจันทร์ ขนนกยูง


        กระทั่งปี 2478 เมื่อแม่ชีจันทร์ อายุได้ 26 ปี จึงตัดสินใจลามารดาและพี่น้อง เพื่อเดินทางไปวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ โดยอ้างว่าจะไปหางานทำ ซึ่งคนในครอบครัวต่างเข้าใจว่า แม่ชีจันทร์อยากได้เงินทอง จึงออกปากมอบทรัพย์สมบัติให้ แต่แม่ชีจันทร์ไม่รับ ทั้งมอบทรัพย์สินส่วนของตนให้แก่พี่น้อง

        หลังจากแม่ชีจันทร์เดินทางมาอยู่กับญาติที่กรุงเทพฯ แล้ว ได้สืบทราบว่าที่บ้านคุณนายเลี้ยบ สิกาญจนานันท์ เศรษฐีย่านสะพานหัน เป็นโยมอุปัฏฐากคนสำคัญของวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ จึงไปสมัครเป็นคนรับใช้ที่บ้าน ในช่วงเวลาที่แม่ชีจันทร์มาอยู่บ้านคุณนายเลี้ยบนั้น คุณนายเลี้ยบได้เชิญคุณยายทองสุก สำแดงปั้น มาสอนธรรมะที่บ้าน แม่ชีจันทร์จึงหาโอกาสเข้าไปปฏิบัติรับใช้คุณยายทองสุกอย่างดี จนคุณยายทองสุกรู้สึกเอ็นดู และขออนุญาตเจ้าของบ้านให้คุณยายได้เรียนธรรมปฏิบัติด้วย จนกระทั่งแม่ชีจันทร์ได้เข้าถึงพระธรรมกาย และเมื่ออาศัยพระธรรมกายเดินฌานสมาบัติจนชำนาญแล้ว คุณยายทองสุกได้พาแม่ชีจันทร์ไปพบบิดาที่ยมโลก เพื่อขอขมาบิดา พร้อมทั้งเอาบุญที่เข้าถึงธรรมกายช่วยบิดาให้พ้นจากนรก

แม่ชีจันทร์ ขนนกยูง กับที่มาของคำว่า "ลูกจันทร์นี่ หนึ่งไม่มีสอง"

        ในปี 2481 แม่ชีจันทร์ได้ขอลาคุณนายเลี๊ยบมาปฏิบัติธรรมที่วัดปากน้ำ เมื่อแม่ชีจันทร์ได้พบกับหลวงพ่อวัดปากน้ำครั้งแรก หลวงปู่ก็ทักขึ้นว่า "มึงมันมาช้าไป" ที่ท่านทักอย่างนี้ก็เพราะท่านรอคอยมานานแล้วว่า ผู้ที่มีพื้นฐานในการปฏิบัติธรรมวิชชาธรรมกายชั้นสูงได้นั้น เมื่อไรจะมาสักที แล้วหลวงปู่วัดปากน้ำก็ส่งคุณยายเข้าโรงงานทำวิชชา (ห้องปฏิบัติธรรมเพื่อศึกษาวิชชาธรรมกายชั้นสูง) ทันที และเมื่อได้เรียนรู้ธรรมปฏิบัติตามแนววิชชาธรรมกายมากขึ้น

        และไม่ว่าหลวงปู่วัดปากน้ำจะสั่งอะไรก็ตาม  แม่ชีจันทร์ก็สามารถทำได้ตามนั้นทุกสิ่งทุกอย่าง เมื่อหลวงปู่วัดปากน้ำท่านเห็นดังนี้ จึงได้รำพึงขึ้นมาในท่ามกลางกลุ่มผู้ปฏิบัติธรรมด้วยกันว่า "ลูกจันทร์นี่ หนึ่งไม่มีสอง"

แม่ชีจันทร์ ขนนกยูง เมื่อครั้งพบพระธัมมชโย


        ต่อมาเมื่อแม่ชีจันทร์ได้ระลึกถึงคำสั่งของหลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ที่ให้เผยแผ่วิชชาธรรมกายไปทั่วโลก ทำให้แม่ชีจันทร์ ต้องแสวงหาและรอคอยผู้ที่จะมาทำหน้าที่สืบทอด และเผยแผ่วิชชาธรรมกายตามที่หลวงปู่วัดปากน้ำสั่งไว้ จนกระทั่งในปี 2506 แม่ชีจันทร์จึงได้พบกับเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่สนใจมาขอเรียนธรรมปฏิบัติ และมีผลการปฏิบัติธรรมดีเยี่ยมในเวลาอันรวดเร็ว เด็กหนุ่มผู้นั้นปัจจุบัน คือ พระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย

แม่ชีจันทร์ ขนนกยูง กับการก่อสร้างวัดพระธรรมกาย


        ในปี 2511 บ้านธรรมประสิทธิ์ ซึ่งเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมภายในวัดปากน้ำที่แม่ชีจันทร์ดูแลอยู่นั้น มีผู้มาปฏิบัติธรรมกับแม่ชีจันทร์เป็นจำนวนมาก จนทำให้พื้นที่ดังกล่าวไม่อาจรองรับการปฏิบัติธรรมได้อีก พระธัมมชโย มีดำริร่วมกันกับแม่ชีจันทร์ที่จะสร้างวัดขึ้น เพื่อรองรับการเผยแผ่ธรรมปฏิบัติตามแนววิชชาธรรมกาย จึงคิดหาพื้นที่สร้างวัด จนกระทั่งพบที่ดินที่เหมาะสม จึงได้ติดต่อขอซื้อที่ดินจาก คุณหญิงประหยัด แพทยพงศาวิสุทธาธิบดี แต่เนื่องจากวันที่ไปเจรจาขอซื้อที่ดินนั้น ตรงกับวันเกิดของคุณหญิง คุณหญิงจึงยกที่ดินผืนดังกล่าวให้โดยไม่คิดมูลค่า มีจำนวนพื้นที่รวม 196 ไร่ 9 ตารางวา อยู่ ณ ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เพื่อให้เป็นที่สร้างวัด ปี 2512


        การก่อสร้างวัดพระธรรมกาย ซึ่งขณะนั้นยังเรียกว่า "ศูนย์พุทธจักรปฏิบัติธรรม" เป็นไปอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งการก่อสร้างศาลาสำหรับปฏิบัติธรรมและกุฏิเสร็จสิ้นลงในปี 2518 พระธัมมชโยและแม่ชีจันทร์จึงย้ายจากบ้านธรรมประสิทธิ์มาอยู่ที่ศูนย์พุทธจักปฏิบัติธรรม ซึ่งแม่ชีจันทร์ได้ตั้งกฎระเบียบภายในวัดด้วยตนเองทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งความมีระเบียบและความสะอาด แต่เนื่องจากวัดเพิ่งสร้างเสร็จใหม่ การเทศน์สอนให้ลึกซึ้งยังทำได้ไม่สะดวกนัก แม่ชีจันทร์จึงได้สั่งสอนญาติโยมด้วยเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่สำคัญต่อการปฏิบัติธรรม ซึ่งก็คือ ความมีระเบียบ สะอาด เช่น การวางรองเท้า ไม้กวาด ผ้าขี้ริ้ว ถังขยะ โดยสอนว่าสิ่งเหล่านี้ทำไปเพื่อให้ใจของผู้ที่มาปฏิบัติธรรมนั้น ใส สะอาด สว่าง สงบ


        ต่อมา ปี 2524 ได้มีการเปลี่ยนชื่อจาก "ศูนย์พุทธจักรปฏิบัติธรรม" มาเป็น "วัดพระธรรมกาย" และใน ปี 2528 เมื่อมีคนมาปฏิบัติธรรมมากจนพื้นที่วัด 196 ไร่ จึงไม่เพียงพอที่จะรองรับ มูลนิธิธรรมกาย จึงได้ซื้อที่ดินเนื้อที่ 2,000 ไร่ เศษ จากกองมรดกของ ม.ร.ว.สุวพันธ์ สนิทวงศ์ เพื่อจัดสร้างเป็นศูนย์กลางแห่งการปฏิบัติธรรม

แม่ชีจันทร์ ขนนกยูง เสียชีวิต


        แม่ชีจันทร์ ได้เสียชีวิตด้วยโรคชรา  เมื่อตอนเช้ามืดของวันที่ 10 กันยายน 2543 ณ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ กรุงเทพฯ รวมสิริอายุได้ 91 ปี

แม่ชีจันทร์ ขนนกยูง กับที่มาของคำว่า "แม่ชีปัดระเบิด"

        สำหรับเรื่อง "แม่ชีปัดระเบิด" นั้น ได้ถูกระบุไว้ในหนังสือ "คุณยายอาจารย์ มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ผู้ให้กำเนิดวัดพระธรรมกาย"  หน้า  55-56  โดยขอยกข้อความมาเพียงบางส่วน ดังนี้

        เมื่อคราวที่พันธมิตรจะเอาระเบิดปรมาณูมาลงที่กรุงเทพฯ เพื่อทำลายฐานทัพของญี่ปุ่น หลวงพ่อวัดปากน้ำท่านถามคุณยายว่า "ถ้าระเบิดปรมาณูมาลงที่กรุงเทพฯ ผลจะเป็นยังไงวะ"

        คุณยายก็นั่งเข้าที่ไปดู แล้วก็ตอบว่า  "โอ้โฮ้ ถ้าลูกนี้มาลงเมืองไทยล่ะก็ กรุงเทพฯ จะราบเป็นหน้ากลองทีเดียว ตึกรามบ้านช่องจะแหลกละเอียด ผู้คนก็จะล้มตายกันมากมาย"


        เมื่อเป็นเช่นนั้น หลวงพ่อวัดปากน้ำจึงสั่งให้ปัดลูกระเบิด[๒] เมื่อได้รับคำสั่ง คุณยายก็หยุดในหยุดเรื่อยไป ไม่ว่าลูกระเบิดจะลงมามากเพียงใด ท่านก็ประกอบวิชชาธรรมกายแก้ไขสิ่งที่เขาทำมาเข้าไปเรื่อย ๆ และทำได้สำเร็จด้วยอานุภาพของวิชชาธรรมกาย เมืองไทยจึงรอดพันจากระเบิดปรมาณูครั้งนั้นมาได้

        ทั้งนี้ ตรงเลข ๒ นั้น มีเชิงอรรถขยายความ ไว้ว่า

        เรื่องการปัดระเบิดเป็นที่กล่าวขานกันมากในสมัยนั้น มีทั้งพยานหลักฐานจากหนังสือต่าง ๆ และจากบุคคลที่อยู่ในละแวกเดียวกับวัดปากน้ำฯ ภาษีเจริญ ว่ามีคนมองเห็นร่างของแม่ชีลอยอยู่เหนือสะพานพุทธฯ 

        และนอกจากเรื่องเล่าหนังสือ "คุณยายอาจารย์ มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ผู้ให้กำเนิดวัดพระธรรมกาย" แล้ว สิ่งที่ทำให้หลาย ๆ คนจดจำชื่อ แม่ชีจันทร์ ขนนกยูง แม่ชีปัดระเบิด ก็คือ ครั้งที่ พระธัมมชโย ได้เล่าเรื่อง "อานุภาพหลวงปู่วัดปากน้ำ ตอน สั่งการปัดระเบิด" ให้บรรดาลูกศิษย์ได้ฟัง ในรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2555 นั่นเอง


ภาพจาก kalyanamitra.org, dhammakaya.net, DMC Channel
ขอบคุณข้อมูลจาก
kalyanamitra.org, dhammakaya.net, DMC Channel