ช็อก ! พบชายชราเสียชีวิตข้างซากงูเหลือม คาดสู้กับงูจนโรคประจำตัวกำเริบ

          พบร่างพ่อเฒ่าวัย 69 ปีเสียชีวิตมาแล้ว 3 วันพร้อมกับซากงูเหลือมขนาดใหญ่ข้างศพ คาดสู้กับงูที่แอบเข้ามากินแพะ จนโรคประจำตัวกำเริบ หมดสติไปและไม่มีใครช่วย

          เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 20 มกราคม 2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ. สมโภช สืบวงศกร พนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งว่ามีชายเสียชีวิตมาแล้วหลายวันโดยมีซากงูเหลือมขนาดใหญ่ที่ตายแล้วอยู่ข้างศพ เหตุเกิดภายในคอกเลี้ยงแพะข้างสุเหร่าประเสริฐอิสลาม หมู่ 3 ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี จากนั้นจึงประสานแพทย์เวรจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ


          ที่เกิดเหตุเป็นลักษณะคอกเลี้ยงแพะที่ปลูกสร้างอยู่ในลานกว้าง พบประชาชนจำนวนมากซึ่งนับถือศาสนาอิสลามมุงดูร่างของ นายสำราญ ดีขัน อายุ 69 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38/2 หมู่ 3 ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นอนเสียชีวิตอยู่ภายในคอกแพะ สภาพศพนอนคว่ำหน้า ร่างกายเริ่มเน่าเปื่อย ไม่สวมเสื้อ ท่อนล่างนุ่งเพียงผ้าโสร่ง และข้างศพพบซากงูเหลือมขนาดใหญ่ยาวประมาณ 2 เมตร สภาพส่วนหัวถูกตัดขาด พบขวานเปื้อนเลือดอยู่ในที่เกิดเหตุ และจากการตรวจสอบของทางแพทย์เวรเบื้องต้นไม่พบร่องรอยที่คาดว่าถูกงูกัด ซึ่งน่าจะเสียชีวิตด้วยโรคประจำตัว และเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3 วัน


          จากการสอบถามจากทางญาติ ทราบว่าผู้เสียชีวิตมีบ้านพักอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุโดยมีอาชีพเลี้ยงแพะ ซึ่งทุกวันนายสำราญ จะคอยหมั่นมาดูแพะและให้อาหารเป็นประจำ ส่วนตัวแล้วนายสำราญ นั้นมีโรคประจำตัวเป็นความดันจะเกิดอาการเป็นลมบ่อย โดยล่าสุดพบเห็นและพูดคุยกับนายสำราญครั้งสุดท้ายเมื่อช่วงเวลาเที่ยงคืนของวันที่ 18 มกราคมที่ผ่านมา จากนั้นก็ไม่พบเห็นอีกเลย โดยเข้าใจว่านายสำราญไปหาเพื่อน เพราะเคยหายไปแบบนี้บ่อยครั้ง จนกระทั่งมาพบกลายเป็นศพนอนเสียชีวิตอยู่ในคอกแพะแห่งนี้


          ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่า เบื้องต้นพร้อมแพทย์เวรได้ทำการตรวจสอบไม่พบบาดแผลร่องรอยของการถูกงูกัดหรือรัด จึงสันนิษฐานว่าขณะที่นายสำราญ กำลังมาให้อาหารแพะ ได้พบเห็นงูซึ่งอยู่ภายในคอกจึงได้พยายามใช้ฉมวกปลายแหลมปักเข้าไปที่ส่วนหัวของงู และใช้ขวานสับไปที่บริเวณส่วนหัวของงูจนขาด และคาดว่าขณะนั้นอาการโรคประจำตัวของนายสำราญเกิดกำเริบขึ้นจนเป็นลมและหมดสติ ประกอบกับไม่มีใครพบเห็นและให้การช่วยเหลือจนทำให้เสียชีวิต และจากการสอบถามทางญาติไม่ติดใจในการเสียชีวิต จึงได้มอบผู้เสียชีวิตให้กับทางญาตินำไปทำพิธีทางศาสนาต่อไป