วันที่ 7 มีนาคม 2559 เว็บไซต์นิวส์ของออสเตรเลีย รายงานว่า ลูกค้าและพนักงานหลายรายของ สปา แคสเซิล (Spa Castle) ผู้ให้บริการสปา นวด ซาวน่า และโรงแรมชื่อดังในนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ร้องเรียนผ่านสื่อว่า เกิดเรื่องไม่ดีไม่งามขึ้นมากมายในสปาแห่งนี้ โดยเฉพาะการปล่อยปละละเลย ให้วัยรุ่นหนุ่มสาวยึดพื้นที่สาธารณะ มาใช้ทำเรื่องบัดสีอย่างการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่แคร์สายตาใค
พนักงานกลุ่มหนึ่งของสปา ระบุกับสื่อว่า พวกเขากำลังออกเวรดึกตอนเวลา 06.00 น. ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่สปาเปิดให้บริการ มีหนุ่มสาวมากมายแห่มาแก้ผ้าแช่น้ำตั้งแต่ไก่โห่ และเริ่มบรรเลงเพลงรักกันอย่างร้อนแรงในสระน้ำรวม ดูราวกับเป็นฉากในหนังโป๊ยังไงยังงั้น
นอกจากนี้ ลูกค้าอีกหลายรายก็เคยร้องสื่อว่า พวกเขาเคยพบเหตุการณ์สุดบัดสีในทำนองเดียวกัน ทั้งคู่หญิงชายมีเซ็กส์กันอย่างเผ็ดร้อนในสระว่ายน้ำ ทั้งคู่ชายรักร่วมเพศผลัดกันบำบัดความใคร่ให้อีกฝ่ายในห้องซาวน่า หญิงสาวเปลือยกายบุกเข้าไปในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าของผู้ชาย และถูกแทะโลมทางเพศจากชาวต่างชาติ
ลูกค้ารายหนึ่งแสดงความเห็นว่า น่าจะเป็นเพราะฤทธิ์ของเครื่องดื่มมึนเมาที่เสิร์ฟ ทำให้ขาหื่นเหล่านี้มีอารมณ์ทางเพศมากกว่าปกติ
อย่างไรก็ดี สปา แคสเซิล เคยมีปัญหาจนถูกร้องเรียนอยู่บ่อยครั้ง ในปี 2557 กระทรวงสาธารณสุขมีรายงานว่า มีปัญหาด้านการควบคุมความสะอาดมากถึง 49 อย่างในสปาแห่งนี้ เช่น ไม่มีป้ายห้ามปล่อยของเหลวใด ๆ จากร่างกายลงสระว่ายน้ำ ส่วนในปี 2558 สปา แคสเซิล สาขาแมนฮัตตัน ถูกกระทรวงสาธารณสุขสั่งปิด เนื่องจากประกอบกิจการโดยไม่มีใบอนุญาต
ทั้งนี้ สปา แคสเซิล ก่อตั้งเมื่อปี 2548 โดย สตีฟ ชอน วัย 56 ปี ชาวเกาหลีใต้ที่ย้ายถิ่นฐานมายังนิวยอร์ก และมีชื่อเสียงในฐานะนักพนันตัวเอ้ ทุกวันนี้ มันกลายเป็นสปาที่ใหญ่ที่สุดของมหานครนิวยอร์ก ด้วยลูกค้าที่หลั่งไหลเข้ามาใช้บริการวันละมากกว่า 300,000 ราย จนนายชอนต้องขยายกิจการ ด้วยการเปิดสาขาใหม่ที่เกาะแมนฮัตตัน และรัฐเทกซัสในเวลาต่อมา