ชาวเน็ตแชร์ภาพจากหนังสือเด็ก "ป๋องแป๋งอยากรู้ มีจู๋ทำไม" จุดกระแสวิพากษ์วิจารณ์-แชร์ต่อเพียบ หลายคนบอกนี่หรือหนังสือเด็ก แต่อีกหลายคนแจง นี่แหละหนังสือสอนเพศศึกษา ไม่เหมาะสมยังไง
ภาพชุดดังกล่าวถูกแชร์ลงบนเฟซบุ๊กของสมาชิกเฟซบุ๊กรายหนึ่ง พร้อมกับคำอธิบายภาพว่า "ไอ้สั-กูขำ 55555555555555555" ซึ่งหลังจากที่ภาพนี้ถูกโพสต์ ก็ทำให้สมาชิกเฟซบุ๊กอีกหลายรายเข้ามาแสดงความคิดเห็นและแชร์ต่ออย่างมากมาย ในทีแรกเสียงวิจารณ์เป็นไปในทางเดียวกันคือขำขัน บางคนก็มองว่านี่หรือหนังสือเด็กสมัยนี้ บางคนก็วิจารณ์ถึงขั้น "จั-ไร" เลยทีเดียว
อย่างไรก็ดีในภายหลังเสียงวิจารณ์เริ่มแตกเป็นสองทางอย่างชัดเจน เมื่อมีหลายความเห็นแจงว่านี่เป็นหนังสือสอนเพศศึกษาเด็ก
ล่าสุด เพจ Drama-addict ก็ไม่พลาดหยิบเรื่องนี้ไปแสดงความเห็น พร้อมชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับหนังสือเด็กประเภทนี้ไว้อย่างชัดเจนและน่าสนใจ โดยมีใจความว่า
"มีคนไปเจอนิทาน ที่มีภาพเด็กผู้ชายยืนถามว่า ทำไมนู๋มีกระจู๋ โตขึ้นจู๋นู๋จะใหญ่เท่าพ่อมั้ย ทำไมผู้หญิงไม่มีกระจู๋แล้วผู้หญิงมีอะไร บลาๆ แล้วถ่ายภาพมาลงเฟซ คนที่เห็นก็พากันหัวเราะเยาะหนังสือเล่มนี้ด้วยความขบขันว่านิทานเหี้ยไรวะเนี่ย มันต้องการสื่ออะไรวะ บางคนถึงกับด่าหนังสือเล่มนี้ว่าจัญไรกันเลยทีเดียว แถมยังแชร์ด่ากันไปครึ่งหมื่นละ
อันนี้เป็นพวกนิทานสอนเพศศึกษาครับ ซึ่งมันเป็นเรื่องปรกติของสากลโลกมาก การสอนเรื่องเพศศึกษาของฝรั่งนี่เขาจะเรียกว่าการสอนเรื่อง bird and bee คือพอเด็กเริ่มโตถึงวัยที่สงสัยเกี่ยวกับอวัยวะเพศของตัวเองและของเพศตรงกันข้าม พ่อแม่ก็จะสอนลูกด้วยหนังสือที่เข้าใจง่ายพวกนี้ ซึ่งมันมีประโยชน์กับพัฒนาการของเด็กมาก ๆ ต่างประเทศมีหนังสือแนวนี้เป็นตัน ๆ เลยนะครับ แบ่งตามวัยของเด็กที่เหมาะสมกับความรู้ด้านเพศศึกษาในแต่ละวัยด้วย
ส่วนบ้านเรา ก็อย่างที่เห็น ๆ กันครับ ไม่มีใครกล้าสอนเรื่องเพศศึกษาให้เด็ก บอกว่าโตขึ้นเดี๋ยวมึงก็รู้เอง สุดท้ายก็เตลิดเข้ารกเข้าพง ติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์มั่ง ท้องในวัยเรียนมั่ง ชีวิตพังพินาศกันไป หรือพอมีใครเอาเรื่องเพศศึกษามาให้เรียนรู้ ก็จะถูกด่าถูกหัวเราะเยาะเหมือนในสเตตัสนี้นี่เอง แต่สำหรับพ่อแม่ที่มีการศึกษาจะเข้าใจว่าหนังสือเล่มนี้ไม่ใช่ของแย่หรือของไม่ดีอย่างที่ไอ้พวกนั้นเขาหัวเราะเยาะกัน
แต่มันคือหนึ่งในสื่อการเรียนการสอนด้านเพศศึกษาที่จะมีคุณต่อพัฒนาการของลูกน้อยอย่างอเนกอนันต์"
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Pornnatcha Naphijai, Drama-addict, Kidsy Kid: แนะนำหนังสือเด็ก
