
สมจิต สัมโย หนึ่งในผู้รอดชีวิตจากแก๊สไพโรเจนรั่ว SCB Park เล่าวินาทีระทึก เผยได้ยินเสียงระเบิดอยู่เหนือศีรษะ ก่อนมีควันลอยฟุ้งเต็มพื้นที่
จากกรณีที่อาคารเอสซีบี ปาร์ค (ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่) ได้เกิดเหตุถังดับเพลิงชนิดพิเศษขัดข้อง ส่งผลให้เกิดกลุ่มควันจำนวนมาก ซึ่งเป็นสารเคมีสลายก๊าซออกซิเจนที่เรียกว่า "ไพโรเจน" ได้รั่วไหลออกมาส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 8 ราย ประกอบด้วย
1. นายวิรัตน์ ดีดพิณ (เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ)
2. นายพีรพัฒน์ กอยประโคน (เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ)
3. นายสายฝน แล่นโคตร (เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ)
4. นายเพชร มหาสนิท (เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ)
5. นายนัฒฐวุฒิ นาสมพงษ์ (เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ)
6. นางกรรณิการ์ สินศิริ (เสียชีวิตที่โรงพยาบาล)
7. นายยุทธนา คนกลาง (เสียชีวิตที่โรงพยาบาล)
8. นางวิไล ขันทอง (เสียชีวิตที่โรงพยาบาล)
สำหรับรายชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บ มีทั้งหมด 7 ราย ประกอบด้วย
1. นายจีระศักดิ์ สมดี
2. นายสมจิต สัมโย
3. นายใส บุตรโสภา
4. นายถาวร สัมโย
5. นายวิชัย โพธิราษฎร์
6. นายฉัตรชัย ขันทอง
7. นายศรัน แคนหนอง
ล่าสุด วันที่ 15 มีนาคม 2559 รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 นำเสนอความคืบหน้าเหตุแก๊สไพโรเจนรั่ว เอสซีบี ปาร์ค ว่า ผู้สื่อข่าวยังได้เดินทางไปสอบถาม คุณสมจิต สัมโย ซึ่งเป็น 1 ในผู้รอดชีวิตจากเหตุดังกล่าว โดยคุณสมจิตเล่าว่า ตนได้เข้าไปทำงานที่ชั้น B2 ของตึก เอสซีบี ปาร์ค ได้ประมาณ 1 สัปดาห์แล้ว เนื่องจากมีญาติเป็นคนรับเหมางานดังกล่าว และได้ชักชวนญาติ ๆ มาทำงานด้วยกัน รวม 9 คน ซึ่งขณะที่ลงไปประกอบท่อน้ำดับเพลิง ก็ไม่ได้มีการเจาะหรือการเชื่อม ตอนนั้นมีคนงานของผู้รับเหมาอีกชุดหนึ่งลงไปประกอบท่อน้ำดับเพลิงด้วยเช่นกัน รวมแล้วมีคนอยู่มากกว่า 10 คน
คุณสมจิต เล่าต่อว่า ขณะที่เกิดเหตุตนได้ยินเสียงระเบิดอยู่เหนือศีรษะของตน ซึ่งเป็นถังบรรจุสารเคมี หลังจากนั้นก็มีควันลอยฟุ้งออกมาเต็มทางเดินมืดไปทั้งชั้น ไฟก็ดับและยังได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นหลายครั้ง จึงคิดว่าน่าจะมีหลายถังที่ระเบิด เพราะมีสารเคมีติดตั้งอยู่หลายตัว
โดยหลังเกิดเหตุตนก็พยายามหาทางออกซึ่งมีเพียงทางเดียว และถือว่าเป็นโชคดีที่ตนเป็นคนขนอุปกรณ์ใส่รถเข็นเข้ามาด้านใน และรถเข็นได้จอดไว้ที่ประตูทางออก จึงได้พยายามคลำหารถเข็นไปเรื่อย ๆ จนไปสัมผัสกับรถเข็น จึงเป็นสัญญาณว่าถึงทางออกแล้ว เมื่อตนเปิดประตูออกมาก็พบว่ามีควันลอยทั่วทางออก หลังจากนั้นไม่นาน ตนก็วิ่งเข้าไปด้านในอีกครั้งเพื่อช่วยพี่สาวและพี่เขยออกมาได้ก่อนจะหมดแรงที่ประตูทางออก และได้ยินเสียงคนเข้ามาช่วย

คุณสมจิต เล่าอีกว่า แต่ตนเสียใจที่ไม่สามารถเข้าไปช่วยชีวิตหลานสาว คือ นางวิไล ขันทอง อายุ 24 ปี และแฟนหนุ่มของหลานสาวออกมาด้วยได้ ทำให้ทั้ง 2 คนเสียชีวิตในเวลาต่อมา
พล.ต.ต. นพ.พรชัย สุธีรคุณ ผู้บังคับการสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ กล่าวว่า ถือว่าเป็นครั้งแรกที่มีผู้เสียชีวิตจากสารไพโรเจนถึง 8 คน ซึ่งสารดังกล่าวมีคุณสมบัติสามารถทำหน้าที่ดับเพลิงที่จะทำให้ก๊าซออกซิเจนในอากาศหมดไป
สำหรับผลการตรวจชันสูตรพลิกศพ เบื้องต้น ทั้ง 8 ราย พบว่ามีสาเหตุเดียวกัน คือ สมองขาดออกซิเจน โดยหลังจากนี้จะมีการเก็บตัวอย่างเลือดและปัสสาวะ เพื่อส่งไปตรวจยังห้องปฏิบัติการหารายละเอียดอีกครั้ง เนื่องจากไม่เคยพบผู้เสียชีวิตจากสารนี้มาก่อน
นอกจากนี้ ยังพบว่า สมองของผู้เสียชีวิตมีการเปลี่ยนสี ซึ่งแตกต่างจากผู้เสียชีวิตปกติที่สมองจะมีสีซีด แต่กรณีนี้ผู้เสียชีวิตมีสมองสีชมพูสดมากกว่าปกติ ซึ่งจะต้องส่งไปตรวจวิเคราะห์อย่างละเอียดว่าสารเคมีชนิดดังกล่าว มีปฏิกิริยาต่อสมองอย่างไร
อย่างไรก็ตาม สำหรับสารไพโรเจนหากสูดดมเกิน 15 นาที จะทำให้หมดสติและเป็นอันตรายถึงชีวิต ในลักษณะค่อย ๆ หมดสติจนไม่รู้สึกตัว
- ออกหมายจับ 2 ราย เหตุแก๊สรั่ว SCB Park-ผู้รอดชีวิตเล่านาทีหนีตายระทึก
- วิศวกรรมสถาน เข้าตรวจสอบระบบดับเพลิง SCB Park พบข้อสงสัยหลายจุด
- ข่าว SCB ล่าสุด ชี้ระบบป้องกันไฟไหม้ทำงาน ตัดออกซิเจน-พยานให้การตรงกัน
- นิติเวช เผยเหตุเสียชีวิตจากระบบดับเพลิงไพโรเจน พบเคสแรกที่ scb park
- วิศวกรรมสถาน เข้าตรวจสอบระบบดับเพลิง SCB Park พบข้อสงสัยหลายจุด
- ข่าว SCB ล่าสุด ชี้ระบบป้องกันไฟไหม้ทำงาน ตัดออกซิเจน-พยานให้การตรงกัน
- นิติเวช เผยเหตุเสียชีวิตจากระบบดับเพลิงไพโรเจน พบเคสแรกที่ scb park
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้ บีอีซี-เทโร
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก







