
ฟังชัด ๆ จากปากเจ้าของคลิปเทศกิจไถเงินนักท่องเที่ยว ยันพฤติกรรมขู่ทรัพย์มีมานานแล้วไม่ใช่ครั้งแรก ร้องฟันโทษให้หนักกว่าการสั่งย้าย หวั่นชื่อเสียงประเทศเสียหาย ด้านรองปลัด กทม. สั่ง 2 เทศกิจ ออกจากราชการไว้ก่อน คาดรู้ผลสอบก่อนสงกรานต์ปีนี้
จากกรณีที่โลกออนไลน์ได้มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอเทศกิจ จับชายชาวต่างชาติ ข้อหาทิ้งขยะที่สนามหลวง โดยมีการหยิบเงินจากกระเป๋าอีกฝ่ายไปหลายบาทเป็นค่าปรับ จนรองปลัดกรุงเทพมหานครได้มีคำสั่งย้าย นายไพโรจน์ ทินโน เทศกิจในคลิปดังกล่าว และได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อตรวจสอบเรื่องดังกล่าว (อ่านข่าว สั่งย้าย เทศกิจในคลิปฉาวไถเงินฝรั่ง พร้อมบทลงโทษขั้นหนัก)
จากนั้นตนจึงเรียกคนขายของที่อยู่ตรงข้ามให้มาดูว่า มีการปล้นทรัพย์ เทศกิจคนดังกล่าวจึงกล่าวกับตนว่า "มายุ่งอะไรนี่มันเรื่องของเจ้าหน้าที่" แต่ตนได้ย้ำไปอีกว่า ไม่ได้หรอกนี่มันคือการปล้นทรัพย์ พอมีคนเข้ามาดูหลายคนเทศกิจคนนั้นจึงตกใจ และกำเงินคืน

อย่างไรก็ดี คุณออสติน เล่าอีกว่า เหตุการณ์นี้ไม่ใช่ครั้งแรกและมีมานานแล้ว ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ทำกับนักท่องเที่ยวในลักษณะนี้บ่อยครั้ง ซึ่งตนอาศัยอยู่ย่านคลองหลอดก็จะมีนักท่องเที่ยวต้องมาเจอกับพฤติกรรมเหล่านี้ โดยการปรับของเทศกิจจะไม่มีการเตือนและปรับครั้งละหลายบาท เมื่อเกิดเหตุการณ์ต่อหน้า ตนจึงไม่อยากให้ประเทศไทยต้องเสียชื่อเสียง และนักท่องเที่ยวที่ไหนอยากจะมาเที่ยวที่บ้านเราอีก ตนอยากให้มีการอบรม เรื่องการปฏิบัติต่อนักท่องเที่ยว ไม่ให้ทำพฤติกรรมเหล่านี้ หากจะมีการลงโทษเจ้าหน้าที่ควรจะมีการลงโทษที่หนักขึ้น ไม่ใช่แค่การสั่งย้ายออกนอกพื้นที่
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นอกจากคุณออสติน แล้วยังมีประชาชนผู้เห็นเหตุการณ์ก็ได้เล่าเหตุการณ์ตอกย้ำพฤติกรรมของเทศกิจคนดังกล่าวที่กระทำต่อนักท่องเที่ยวว่าเป็นเรื่องจริง
ล่าสุดวานนี้ (19 มีนาคม 2559) นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า หลังตั้งคณะกรรมการสอบไปตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม 2559 ผลสอบเบื้องต้นพบว่า นายไพโรจน์ ให้การขัดแย้งกับภาพจากกล้องวงจรปิดของ กทม. และยังมีนายสงบ หอมสมบัติ เจ้าหน้าที่เทศกิจเขตปทุมวัน ร่วมกระทำความผิดด้วย จึงมีคำสั่งให้นายไพโรจน์ และนายสงบ ออกจากราชการไว้ก่อน จนกว่าคณะกรรมการจะสอบพยานที่เหลืออีกภายใน 30 วัน หรือก่อนสงกรานต์นี้ จึงจะสรุปได้ว่าควรไล่ออกจากราชการหรือไม่ และในสัปดาห์หน้าคาดว่า จะเรียกสอบปากคำชาวต่างชาติ และผู้ค้าย่านคลองหลอด เพื่อเก็บข้อมูลให้รอบด้าน
ส่วนการจับปรับผู้ทิ้งขยะนั้น กทม. เน้นเรื่องการว่ากล่าวตักเตือนเป็นหลัก ซึ่งเหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก แต่ยอมรับว่าตำแหน่งเทศกิจมีมากกว่าพันคน ยากที่จะดูแลทั่วถึง สิ่งที่ กทม. ทำได้คือการลงโทษตามขั้นตอนกฎหมาย สร้างความเป็นธรรมให้กับทุกฝ่าย
world_id:56e77f884d265a6f768b4588
ภาพจาก BRIGHT TV
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก








