สลดใจ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำขังวาฬเพชฌฆาตในแท็งก์แคบ อยู่โดดเดี่ยวมานานกว่า 35 ปี

          ชาวอเมริกันร้องขออิสระให้ โลลิต้า วาฬเพชฌฆาตดาวเด่นที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำในไมอามี ถูกเลี้ยงในแท็งก์แคบ ๆ อย่างโดดเดี่ยวมานานกว่า 35 ปี แถมทางอควาเรียมยืนยันจะเลี้ยงแบบนี้ต่อไป อ้างเอาไว้สอนเรื่องการอนุรักษ์

          สัตว์ที่ถูกนำมาเลี้ยงหรือที่อยู่ตามสวนสัตว์นั้น ส่วนใหญ่มักมีช่วงชีวิตที่ยืนยาวกว่าการที่พวกมันอาศัยอยู่ตามธรรมชาติ เพราะไม่ต้องเสี่ยงกับผู้ล่าและยังมีอาหารกินอย่างเพียงพอ แต่นั่นก็ไม่อาจรับประกันได้ว่า พวกมันจะมีความสุขหรือมีความเป็นอยู่ที่ดี โดยประเด็นนี้กำลังเป็นที่สนใจในสหรัฐอเมริกามากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังมีเรื่องของเจ้า "โลลิต้า" วาฬเพชฌฆาตดาวเด่นที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไมอามี ซีควาเรียม รัฐฟลอริดา เป็นที่ปรากฏออกมาว่า มันจะยังคงถูกเลี้ยงอยู่ที่นี่ต่อไป แม้ว่าจะอายุถึง 49 ปี และถูกเลี้ยงอยู่ในแท็งก์วาฬที่เล็กที่สุดในสหรัฐฯ ก็ตาม
         เว็บไซต์เดอะโดโด้ ซึ่งนำเรื่องราวของเจ้าโลลิต้ามาตีแผ่ในวันที่ 25 มีนาคม 2559 เผยว่า โลลิต้าถูกจับมาจากธรรมชาติตั้งแต่ปี 1970 (พ.ศ.2513) ขณะมันอายุ 4 ปี และก็ถูกเลี้ยงอยู่ที่ซีควาเรียมมานับแต่นั้น โดยแท็งก์ที่มันอาศัยก็แสนเล็กแสนน่าอึดอัดเมื่อเทียบกับขนาดตัวของมัน มีความกว้างเพียง 4 ช่วงตัวของโลลิต้า และลึกเพียง 20 ฟุตเท่านั้น ซ้ำร้ายโลลิต้ายังถูกเลี้ยงอย่างโดดเดี่ยวมากว่า 35 ปี นับตั้งแต่ ฮิวโก้ เพื่อนวาฬตัวผู้ตายไปตั้งแต่ปี 1980 (พ.ศ. 2523) ทั้งที่ตามธรรมชาติแล้ว สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเช่นวาฬเพชฌฆาตนั้นจะมีความเป็นสัตว์สังคมสูงก็ตาม

          ชาวอเมริกันเคยมีความหวังที่จะได้เห็นโลลิต้าถูกนำไปเลี้ยงที่ศูนย์อนุรักษ์ หรืออย่างน้อยที่สุดก็ได้ย้ายไปอยู่แท็งก์ที่ใหญ่กว่านี้ หลังจากที่ทางซีเวิลด์ได้ประกาศจะยกเลิกโครงการเพาะพันธุ์วาฬเพชฌฆาต แต่แล้วทางไมอามี ซีควาเรียม ก็ได้ส่งข้อมูลอัพเดทตามออกมา ชี้ให้เห็นลาง ๆ ว่า โลลิต้าจะยังอยู่นี่ต่อไป ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ทั้งสิ้น


          ซึ่งทั้งนี้ทางซีควาเรียมได้ระบุว่า เจ้าโลลิต้ามีความสำคัญอย่างยิ่งยวด เช่นเดียวกับสัตว์น้ำตัวอื่น ๆ ที่ถูกเลี้ยงไว้ที่นี่ ในบทบาทด้านการให้ความรู้แก่ผู้มาเที่ยวชม รวมทั้งปลูกฝังให้เห็นความสำคัญของการอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำ ซึ่งวาฬเพชฌฆาตเองก็อยู่ในบัญชีสัตว์ที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสหรัฐฯ ด้วย

          ทว่าผู้เชี่ยวชาญด้านชีววิทยาทางทะเลและวาฬเพชฌฆาต ดร.นาโอมิ โรส ชี้ว่า แม้ทางซีควาเรียมจะมีการจัดแสดงและให้ข้อมูลเพื่อกระตุ้นการอนุรักษ์สัตว์ อันเป็นไปตามกฎหมายคุ้มครองสัตว์น้ำ ขององค์การบริหารมหาสมุทรและสภาพอากาศแห่งชาติ (NOAA) แต่กลับพบว่าทางซีควาเรียมได้ให้ข้อมูลบางอย่างที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับวาฬเพชฌฆาต ทั้งยังนำเสนอว่า ในท้องทะเลตามธรรมชาติมีอันตรายมากมายสำหรับสัตว์น้ำ ซึ่งนั่นไม่ได้ช่วยกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกร่วมในการอยากอนุรักษ์เลย และยังเหมือนเป็นการบอกอย่างอ้อม ๆ ว่า ยังไงเจ้าโลลิต้าก็จะยังอยู่ที่ซีควาเรียมต่อไปด้วย


          สุดท้ายนี้ ดร.นาโอมิ แสดงความเป็นห่วงต่อความเป็นอยู่ในอนาคตของโลลิต้าว่า คงจะไม่ดีขึ้นไปกว่านี้ได้ ตราบเท่าที่ยังไม่มีการตรวจสอบจริงจังจาก NOAA หรือเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง โลลิต้าก็ยังคงจะถูกใช้ทำงานหาเงินให้กับซีควาเรียมต่อไป


ภาพจาก เฟซบุ๊ก Free Lolita the Orca, The Dodo