
ครอบครัวเหยื่อเบนซ์ชนฟอร์ด เตรียมรวบรวมหลักฐานเอาผิด เจนภพ วีรพร ให้ถึงที่สุด เชื่อยังมีข้อหามากกว่าหมิ่นประมาท ลั่นจะต่อสู้ให้คดีนี้เป็นบรรทัดฐานของสังคม
วันที่ 1 เมษายน 2559 รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 รายงานความคืบหน้าคดีที่ นายเจนภพ วีรพร ก่อเหตุขับรถเบนซ์ชนรถฟอร์ด จนทำให้ 2 นักศึกษาปริญญาโทเสียชีวิตว่า วานนี้ (31 มีนาคม 2559) นางนงครัตน์ รุ่งแสง อายุ 32 ปี น้องสาวของนายกฤษณะ ถาวร หรือ น้องโต้ง หนึ่งในผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางครอบครัวได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับ นายเจนภพ สถานหนัก เนื่องจากตั้งข้อสังเกตว่าพฤติกรรมการขับรถของนายเจนภพน่าจะมีข้อหามากกว่าข้อหาหมิ่นประมาท รวมทั้งอยากให้คดีนี้เป็นบรรทัดฐานต่อสังคม

นางนงครัตน์ กล่าวต่อว่า สำหรับการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดใหม่นั้น ถือว่ามีการทำงานค่อนข้างตรงไปตรงมา มีการรายงานความคืบหน้าให้ครอบครัวของผู้เสียชีวิตทราบอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเดิมมีการทำงานผิดพลาดทำให้พยานหลายคนไม่กล้าส่ง หลักฐานไปให้โดยตรงแต่กลับส่งหลักฐานมาให้ทางครอบครัวของผู้เสียชีวิตแทน ซึ่งทางครอบครัวก็ได้ประสานความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างดีและรู้สึกเชื่อมั่นในระดับหนึ่ง ตอนนี้สภาพจิตใจครอบครัวของผู้เสียชีวิตดีขึ้นในระดับหนึ่ง เพราะสังคมทำให้รู้ว่าเราไม่ได้ต่อสู้เพียงลำพัง ทำให้มีกำลังใจอย่างมากและจะต่อสู้จนคดีนี้เป็นบรรทัดฐานของสังคมให้ได้ รวมทั้งอยากฝากไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเดิมว่า ขออย่าละเลยคดีที่เกิดขึ้นเพียงเพราะคิดว่าเป็นคดีจราจรทั่วไป แต่อยากให้เข้าใจหัวอกของครอบครัวผู้สูญเสีย ส่วนทางคู่กรณีทางครอบครัวขออโหสิให้
ขณะที่ พล.ต.ท. ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผบช.ภ1 กล่าวถึงความคืบหน้าคดีว่า ตอนนี้สอบพยานไปแล้วกว่า 30 ปาก มีการกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานอย่างตรงไปตรงมา และคดีมีความคืบหน้าไปแล้วกว่า 80% ซึ่งเชื่อว่ามีหลักฐานเอาผิดได้แน่นอนรวมทั้งไม่หนักใจในการทำงาน ส่วนเรื่องการโยกย้ายนายตำรวจ 2 นาย คือ มีการสั่งย้ายผู้กำกับและรองผู้กำกับ สภ.พระอินทร์ราชา นั้นอาจจะมีโทษทางคดีอาญาและอาจจะมีโทษทางวินัยและในการปกครอง เนื่องจากมีความบกพร่องการทำงานกรณีที่ไม่ใส่ใจดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาและมีความล่าช้า
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้ บีอีซี-เทโร
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก







