x close

เปิดตำนาน "แมนดี้" ตุ๊กตาผีเฮี้ยนแห่งพิพิธภัณฑ์เควสเนล แคนาดา


          แมนดี้ ตุ๊กตาผีเฮี้ยนแห่งพิพิธภัณฑ์เควสเนล แคนาดา ตุ๊กตาโบราณกับรอยร้าวที่ใบหน้า พร้อมตำนานความเป็นมาแสนสลด ที่เชื่อกันว่าเป็นสาเหตุของความเฮี้ยน !

          หนึ่งในบรรดาตุ๊กตาผีสิงชื่อกระฉ่อนเขย่าขวัญคนทั่วโลก นอกจากแอนนาเบล ที่หลาย ๆ คนรู้จักกันดีแล้ว เราขอชวนมารับฟังอีกหนึ่งเรื่องราวความเฮี้ยนของ แมนดี้ ตุ๊กตาผีสิงแห่งพิพิธภัณฑ์เควสเนล ในบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดากันบ้าง พร้อมแล้วก็เชิญมาล้อมวงนั่งลงฟังตำนานของตุ๊กตาโบราณหน้าร้าวตัวนี้จากเว็บไซต์ The Paranormal Guide กันเลย



จุดเริ่มต้นของแมนดี้

          แมนดี้เป็นตุ๊กตาเด็กหญิงที่ถูกนำมาบริจาคให้กับพิพิธภัณฑ์เควสเนล เมื่อปี ค.ศ. 1991 เมื่อครั้งที่ แมนดี้ ถูกเจ้าของเดิมนำมามอบให้กับพิพิธภัณฑ์นั้น ตุ๊กตาโบราณตัวนี้ก็มีอายุปาเข้าไปมากกว่า 90 ปีแล้ว เจ้าของเดิมไม่ได้เล่าที่มาอะไรเกี่ยวกับแมนดี้มากนัก บอกเพียงว่ามันเป็นของคุณยาย และมันก็เก่าและชำรุดมากแล้ว เธอไม่อยากให้ลูกสาวเอามาเล่นแล้วยิ่งทำให้มันพังมากขึ้นกว่าเดิม จึงตัดสินใจนำมามอบให้พิพิธภัณฑ์แทน แต่ก็น่าแปลก เพราะแทนที่หญิงรายนี้จะมีท่าทีเสียใจที่สมบัติเก่าแก่ตกทอดจากรุ่นแม่กำลังจะจากไป เธอกลับมีท่าทีกระวนกระวาย เหมือนอยากรีบ ๆ ให้มันพ้นจากการครอบครองของตัวเองไปเร็ว ๆ

          ความแปลกของแมนดี้ ตุ๊กตาโบราณที่ได้รับการรังสรรค์ประดิษฐ์ขึ้นมาให้คล้ายเด็กจริง ๆ ไม่ได้อยู่แค่ที่รอยร้าวขนาดใหญ่ตรงบริเวณเบ้าตาขวา จนทำให้ลูกตาข้างนั้นโปนออกมาคล้ายกำลังถลึงตามองใครก็ตามที่เข้ามาชื่นชมเธอเท่านั้น แต่ยังอยู่ที่บรรยากาศแปลก ๆ ที่รู้สึกได้เมื่อต้องอยู่ในพื้นที่เดียวกับแมนดี้ เจ้าหน้าที่ดูแลพิพิธภัณฑ์เล่าว่า เพียงแค่นั่งเฝ้าอยู่ในห้องเดียวกับตุ๊กตาตัวนี้ ก็ทำให้รู้สึกขนหัวลุกขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ


เค้าลางความเฮี้ยน

          ในฐานะตุ๊กตาที่จะมาเป็นสมาชิกใหม่ของพิพิธภัณฑ์ แมนดี้ถูกจับใส่ถุงพลาสติกปิดแน่น เพื่อทดสอบว่ามีแมลงใด ๆ แฝงมากับตัวตุ๊กตาหรือไม่ แต่ในหนนั้นเองที่แมนดี้ซึ่งอยู่ในถุงถูกจับใส่กล่องไว้เพื่อรอการตรวจสอบ เริ่มเผยเค้าลางน่าขนลุกให้เป็นที่ประจักษ์ เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ยินเสียงถุงพลาสติกเสียดสีกรอบแกรบดังออกมา เป็นเสียงชนิดที่ว่าไม่ได้มาจากการไต่ไปมาของแมลงแน่นอน เสียงนั้นราวกับว่าตุ๊กตากำลังเคลื่อนไหวอยู่ภายในถุง !

          หลังได้รับการตรวจสอบความสะอาดแล้ว แมนดี้ก็ถูกนำไปถ่ายรูปทำทะเบียนประวัติทรัพย์สินของพิพิธภัณฑ์ เธอถูกทิ้งไว้ในแล็บสำหรับถ่ายรูปหนึ่งคืน กระทั่งวันรุ่งขึ้นเจ้าหน้าที่กลับมาที่ห้องและก็ต้องตกตะลึง เมื่อได้พบว่าข้าวของในห้องที่เป็นชิ้นเล็ก ๆ อยู่เรี่ยราดกระจัดกระจายราวถูกเขวี้ยงทิ้งไร้ทิศทาง ส่วนข้าวของชิ้นใหญ่ ๆ ก็เคลื่อนออกไปจากตำแหน่งเดิมที่เคยอยู่ ราวกับห้องนี้ได้รองรับการอาละวาดของเด็กสักคนมายังไงยังงั้น

          หลังเสร็จสิ้นกระบวนการต่าง ๆ แมนดี้ก็ถูกนำออกวางโชว์ให้ผู้คนได้ชม เธอถูกตั้งไว้ตรงหัวทางเดิน อันจะเป็นสิ่งของชิ้นแรกที่ปะทะสายตาผู้ที่มาเยี่ยมชม แต่ทว่าหลังจากนั้นเพียงไม่นาน เสียงร่ำลือถึงความแปลกประหลาดยากอธิบายเกี่ยวเนื่องกับแมนดี้ก็ถูกกระพือขึ้นจากเหล่าผู้มาเยี่ยมชม ทั้งความรู้สึกแปลก ๆ บอกไม่ถูกเมื่อจ้องมองดูตุ๊กตาตัวนี้ ส่วนรูปที่พยายามถ่ายแมนดี้ ก็มักจะเบลอหรือมีแสงวูบวาบแปลก ๆ แทรกเข้ามาเสมอ เมื่อรวมปรากฏการณ์ยากจะอธิบายนี้เข้ากับสิ่งที่ผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์หลายคนเคยประสบมา ในที่สุดแมนดี้จึงถูกย้ายตำแหน่งจากวางโชว์ไว้ด้านหน้าสุด เป็นอยู่ลึกลงไปด้านในของพิพิธภัณฑ์ ทั้งยังทำกล่องจากแก้วครอบเอาไว้อย่างดี

          และแล้วในที่สุดความผิดปกติอันยากจะอธิบายของแมนดี้ ก็นำพาร่างทรงเข้ามาตรวจสอบความลึกลับของตุ๊กตาตัวนี้ ที่ซึ่งผู้สื่อวิญญาณได้เผยว่า เธอสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดทรมานจากการถูกทารุณกรรมอย่างแสนโหดร้าย ทว่าไม่ใช่ตัวตุ๊กตาแมนดี้ที่เผชิญมาเอง แต่เป็นวิญญาณที่สิงอยู่ในแมนดี้ต่างหาก


ที่มาความเฮี้ยน

          สิ่งที่จะเล่าต่อไปนี้ ไม่อาจยืนยันได้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือเป็นเพียงการแต่งเติมขึ้นมา แต่มีผู้เล่าขานที่มาความเฮี้ยนของแมนดี้เอาไว้ว่า ชายผู้หนึ่งเผอิญได้ยินเสียงเด็กร้องไห้ดังออกมาจากโรงนาร้าง ด้วยความฉงนสงสัยเขาจึงเข้าไปด้านใน แต่กลับพบว่าที่มาของเสียงนั้นดังมาจากห้องใต้ดินด้านล่างลงไปอีกต่างหาก เขาจึงหาทางเข้าไปยังห้องใต้ดินที่แสนมืดอับนั้น ทว่าไม่พบสิ่งมีชีวิตใด ๆ ที่น่าจะส่งเสียงร้องได้ แต่สิ่งที่ปรากฏต่อสายตากลับเป็นร่างไร้วิญญาณของเด็กหญิงคนหนึ่งที่ดูแล้วน่าจะเสียชีวิตมาแล้วเป็นเวลานาน ในอ้อมแขนของเธอกอดตุ๊กตาตัวหนึ่งเอาไว้ และตุ๊กตาตัวนั้นก็คือแมนดี้นั่นเอง

          เรื่องที่ถูกเล่าขานมานี้ไม่ทราบได้ว่ามีความจริงเท็จมากเพียงใด แต่อย่างน้อยมันก็ดูจะเชื่อมโยงได้กับเรื่องราวที่แท้จริงที่เจ้าของเดิมของแมนดี้สารภาพออกมา เมื่อตอนที่เจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์เดินทางไปเยี่ยมเธอถึงบ้านเพื่อขอพูดคุยด้วย

          ข้อมูลในส่วนที่ว่าตุ๊กตาไปอยู่ที่บ้านของเธอได้อย่างไรนั้นยังคงไม่แน่ชัด แต่เธอได้สารภาพเหตุผลที่แท้จริงที่ต้องการเอามันออกไปให้พ้นจากบ้านว่า เธอเริ่มได้ยินเสียงร้องไห้คร่ำครวญดังขึ้นมาจากห้องใต้ดินบ้านตัวเอง และทุกครั้งที่เข้าไปสำรวจ ก็จะพบตุ๊กตาแมนดี้หล่นกองอยู่กับพื้นและหน้าต่างระบายอากาศที่ปิดสนิทไว้ กลับกลายเป็นถูกเปิดแง้มออกทุกครั้ง เมื่อเสียงร้องไห้ปริศนานั้นเกิดบ่อยครั้งมากขึ้น เธอจึงตัดสินใจเอามันไปมอบให้พิพิธภัณฑ์เควสเนล และนับตั้งแต่ไม่มีตุ๊กตาแมนดี้อีกแล้ว เธอก็ไม่เคยได้ยินเสียงร้องไห้ชวนหลอนนั้นอีกเลย... ทว่าความเฮี้ยนที่เคยเผชิญ ได้ไปเกิดยังที่พิพิธภัณฑ์เควสเนลแทนนั่นเอง



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เปิดตำนาน "แมนดี้" ตุ๊กตาผีเฮี้ยนแห่งพิพิธภัณฑ์เควสเนล แคนาดา อัปเดตล่าสุด 27 พฤษภาคม 2563 เวลา 16:50:56 35,896 อ่าน
TOP