
นักวิชาการชี้ สัญญาณมือถือจุดไฟไม่ได้ เติมน้ำมันต้องห้ามโทรศัพท์นั้นเป็นแค่ความเชื่อ เหตุไฟไหม้ขณะเติมน้ำมันน่าจะเกิดจากสาเหตุอื่น เช่น ไฟฟ้าสถิตจากมือผู้เติมน้ำมัน
หลังจากที่กรมธุรกิจพลังงาน สั่งคุมเข้มด้านความปลอดภัย เติมน้ำมันต้องดับเครื่อง-ห้ามโทรศัพท์-ห้ามสูบบุหรี่ หากผู้มาเติมน้ำมันหรือแก๊สรายใดไม่ปฏิบัติตามจะถูกงดให้บริการ โดยหากสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงและสถานีจำหน่ายแก๊สแอลพีจีใดฝ่าฝืน เจอโทษจำคุก 1 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับนั้น [อ่าน บังคับใช้แล้ว ! เติมน้ำมันต้องดับเครื่อง-ห้ามโทร-ห้ามสูบ ฝ่าฝืนโทษหนัก]
อย่างไรก็ตามล่าสุดก็ได้มีนักวิชาการ 2 รายที่ได้ออกมาให้ข้อมูลในเรื่องนี้ โดย รศ. ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์เฟซบุ๊ก Jessada Denduangboripant ชี้ว่า เรื่องการออกระเบียบดังกล่าวดูท่าจะไปกันใหญ่แล้ว ขอยืนยันอีกครั้งว่าสัญญาณโทรศัพท์มือถือไม่สามารถจุดไฟน้ำมันเชื้อเพลิงติดได้ มันเป็นความเชื่อที่มีตาม ๆ กันมาเท่านั้น หน่วยงานตรวจสอบทั้งในประเทศออสเตรเลียและในอังกฤษ ก็ให้ผลสรุปว่าจริง ๆ มันเกิดขึ้นจากสาเหตุอื่นทั้งนั้น เช่น การมีไฟฟ้าสถิตจากมือผู้เติมน้ำมัน ไม่เคยมีกรณีที่เกิดจากสัญญาณโทรศัพท์มือถือเลย เป็นความบังเอิญทั้งสิ้น

ทั้งนี้ที่มาของเรื่องเล่าดังกล่าวนั้น เกิดขึ้นจากที่อินโดนีเซียเมื่อ 15 ปีก่อน แล้วมีการเผยแพร่ไปผ่านฟอร์เวิร์ดเมล ทำให้กลุ่มบริษัทน้ำมันเกิดความหวาดกลัวจึงทำประกาศเตือนอย่างเป็นทางการ
ขณะ ที่ รศ. ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์ภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ก็ได้โพสต์คลิปเหตุไฟไหม้ขณะเติมน้ำมันที่ต่างประเทศ ผ่านเฟซบุ๊ก Weerachai Phutdhawong พร้อมระบุว่า คลิปนี้ชัดเจน ไฟฟ้าสถิตจากคนขับรถ ทำให้เกิดเพลิงไหม้ที่หัวจ่ายน้ำมัน ไฟฟ้าสถิต (Static electricity) เป็นปรากฏการณ์ที่ปริมาณประจุไฟฟ้าขั้วบวกและขั้วลบบนผิววัสดุมีไม่เท่ากันและไม่เคลื่อนที่ (จึงเรียกว่า สถิต) จนกระทั่งมีการถ่ายเทประจุ หรือเกิดการไหลของอิเล็กตรอน กลายเป็นไฟฟ้ากระแส


ภาพจาก เฟซบุ๊ก Weerachai Phutdhawong, Jessada Denduangboripant
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
