หลังมีการแชร์ภาพบ้านโบราณอายุกว่า 100 ปี จนกลายเป็นที่สนใจอย่างมาก เพราะระบุว่านายทุนที่สร้างคอนโดมิเนียมบริเวณนั้นไปขอซื้อถึง 80 ล้านบาท แต่เจ้าของบ้านไม่ยอมขาย จนหลายคนสงสัยว่าเพราะอะไร หรือต้องการรอให้ราคาสูงขึ้นอีก [อ่านข่าว : เจ้าของบ้านโบราณ ยืนกราน 80 ล้านก็ไม่ขาย หลังถูกขอซื้อเพื่อสร้างคอนโด]
ก่อนหน้านี้มีนายหน้าเขามาติดต่อขอซื้อหลายราย ตอนแรกให้ราคา 28 ล้าน จากนั้นก็เพิ่มราคาเป็น 50 ล้าน และล่าสุดเสนอราคาให้สูงถึง 85 ล้าน แต่ตนเองไม่ยอมขาย เพราะอยู่บ้านหลังนี้มาตั้งแต่เกิด นอกจากนี้ยังสะสมวัตถุโบราณ อาทิ แม่ย่านางเรือ นาฬิกาโบราณ และของสะสมที่มีคุณค่าทางจิตใจอีกจำนวนมาก ประกอบกับตนและครอบครัวใช้ชีวิตแบบสมถะ และมีความสุขกับการปฏิบัติธรรม ไม่เดือดร้อนเรื่องเงินแต่อย่างไร
แม่ชี ร.ต.หญิง กรรณิการ์ ระบุต่อว่า "หากขายบ้านแล้วได้เงินมา ไม่นานเงินก็อาจจะหมดไป เพราะลูกหลานก็อาจจะได้อะไรมากมาย แต่มีบ้าน มีที่ ไม่มีวันหมด และขอฝากถึงผู้ที่มีบ้านเก่าที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษว่า ไม่ควรจะขายบ้านเพื่อเอาเงินมาใช้ เพราะบรรพบุรุษได้มาด้วยความยากลำบาก แต่โดยส่วนตัวแล้วแม้ตายก็จะไม่ขาย"
อย่างไรก็ตาม แม่ชี ร.ต.หญิง กรรณิการ์ ยังเล่าให้ฟังด้วยว่า ในอดีตสมัยรัชการที่ 5 บรรพบุรุษของตนประกอบอาชีพค้าขายโดยการแจวเรือไปขายพลู ขายหมาก ที่ท่าเตียน และท่าพระจันทร์ มีชื่อสกุลว่า จุณณะปิยะ ที่รัชกาลที่ 5 ทรงพระราชทานให้ โดยบ้านที่อยู่อาศัยในสมัยนั้นมีความสวยงามมาก มีผู้มาขอเช่าพื้นที่แต่งงานบ่อยครั้ง แต่ทุกวันนี้ไม่มีคนดูแลจึงมีสภาพทรุดโทรมไปตามกาลเวลา โดยพื้นที่ส่วนที่กำลังก่อสร้างคอนโดอยู่ในขณะนี้ แต่เดิมก็เป็นพื้นที่ของที่บ้าน แต่คนรุ่นก่อนแบ่งขายให้เพื่อนบ้านได้อยู่อาศัยแต่ทุกวันนี้พื้นที่บริเวณดังกล่าวกำลังถูกเปลี่ยนเป็นคอนโดมิเนียมเกือบทั้งหมด มีบ้านนี้ที่ยังคงเป็นบ้านไม้โบราณเช่นเดียวกับในอดีต