ศาลฎีกาสั่งถอนมรดก 300 ล้านของศักดิ์ชัย กาย คืนตระกูล ณ ป้อมเพชร

              ศาลฎีกาสั่งถอนมรดก 300 ล้าน ของ ศักดิ์ชัย กาย คืนตระกูล ณ ป้อมเพชร ชี้ ปกติการทำพินัยกรรมจะมีการบันทึกวิดีโอและภาพเอาไว้

              เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2559 ศาลแพ่ง รัชดา อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ในคดีที่ นายธีรวัต ณ ป้อมเพชร เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายศักดิ์ชัย กาย บก.นิตยสารลิปส์ เป็นจำเลย เพิกถอนพินัยกรรมที่ นายวิวรรธน์ ณ ป้อมเพชร ยกทรัพย์สิน ได้แก่ ที่ดินย่านยานนาวา 3 ไร่ พร้อมสิ่งปลูกสร้างและห้องชุด ที่อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ให้แก่จำเลย ซึ่งคดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่าพินัยกรรมของ นายวิวรรธน์ ลงฉบับวันที่ 21 ธันวาคม 2558 เป็นโมฆะ จำเลยฎีกา
              ศาลพิเคราะห์เห็นว่าพินัยกรรมที่ทำขึ้นมีพิรุธ โดยได้ความจาก นายวิสูตร กาญจนปัญญาพงศ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท สำนักกฎหมายธรรมนิติ จำกัด พยานจำเลยว่า ปกติในการทำพินัยกรรมจะมีการบันทึกวีดิทัศน์และรูปถ่ายขณะทำพินัยกรรมไว้ แต่ในขณะที่ นายวิวรรธน์ ทำพินัยกรรมไม่ได้มีการบันทึกวีดิทัศน์หรือถ่ายรูปไว้ จึงเป็นพิรุธว่า ได้มีการทำพินัยกรรมไว้จริงหรือไม่และลายมือชื่อของผู้ทำพินัยกรรมยังไม่อาจชี้ชัดว่าเป็นลายมือชื่อของผู้ตายหรือไม่ เมื่อพิจารณาเอกสารอื่นที่ผู้ตายเคยลงชื่อไว้ในช่วงเวลาใกล้เคียงกับช่วงที่มีการทำพินัยกรรมลายมือชื่อมีลักษณะปรากฏเพียงส่วนของชื่อ และชื่อสกุลเขียนสั้น ๆ ไม่ยาวนัก แต่ปรากฏว่าการลงลายมือชื่อในพินัยกรรมและลายมือชื่อหลังซองบรรจุพินัยกรรมกลับเป็นลายมือชื่อที่เขียนทั้งชื่อและชื่อสกุลที่มีความยาวมากกว่า จึงฟังไม่ได้ว่าลายมือชื่อผู้ทำพินัยกรรมเป็นของผู้ตาย ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้นศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยพิพากษายืน


ภาพจาก เฟซบุ๊ก Workpoint News - ข่าวเวิร์คพอยท์

สำนักข่าว INN