
ตำรวจออกหมายจับหนุ่มหื่นข่มขืนนักศึกษาในห้องน้ำย่านบางนา เชื่อจับตัวได้ในเร็ว ๆ นี้ พบใบหน้าคนร้ายคล้ายผู้ต้องหาถ้ำมองสาวในห้องน้ำปั๊ม ด้าน ผอ.เขตบางนา เร่งรวบรวมพยานหลักฐานจ่อเอาผิดเจ้าของห้องน้ำ ฐานดัดแปลงอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต
จากกรณีคนร้ายก่อเหตุข่มขืนนักศึกษาสาว จนสำเร็จความใคร่ แถมยังชิงเอาแหวนทองหนัก 1 สลึง หลบหนีไปจากห้องน้ำสาธารณะย่านบางนา เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 26 มิถุนายน 2559 ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น [อ่านข่าว : เปิดโฉมหน้าโจรหื่นข่มขืนนักศึกษาที่บางนา เตรียมตั้งรางวัลนำจับ]

ทั้งนี้ มีรายงานเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางไปขออนุมัติจากศาลจังหวัดพระโขนง เลขที่ 418/2559 ลงวันที่ 4 กรกฎาคม 2559 เพื่อทำการออกหมายจับ นายเอกพล แซ่เตียว อายุ 31 ปี ชาว จ.บุรีรัมย์ ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในสภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้ผู้อื่นนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่นและชิงทรัพย์
และจากการตรวจสอบประวัตินายเอกพล แซ่เตียว พบว่า เคยถูกจับกุมคดียาเสพติด ขณะนี้ฝ่ายสืบสวน บก.น.5 และ สน.บางนา กำลังเร่งติดตามคนร้ายอยู่ คาดว่าอาจหลบหนีไปต่างจังหวัดแล้ว

ในเวลาต่อมา โลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปวิดีโอการจับกุมคนร้ายรายหนึ่งที่แอบดูสาว ๆ เข้าห้องน้ำในปั๊มน้ำมันย่านถนนเทพารักษ์ เมื่อปี 2556 ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้นมีพลเมืองดีสามารถช่วยกันจับตัวเอาไว้ได้ พร้อมทั้งถ่ายคลิปวิดีโอและแชร์ลงบนโลกสังคมออนไลน์ โดยผู้ใช้ชื่อ "ศรัณย์ ชมนาค" โพสต์คลิปพร้อมระบุข้อความว่า "จับโรคจิตแอบดูผู้หญิงเข้าห้องน้ำในปั๊ม" ซึ่งมีความยาวประมาณ 3 นาที โดยระหว่างหลังเกิดเหตุขณะที่รอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ มาควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไปดำเนินคดีทางกฎหมาย ผู้ก่อเหตุกลับใช้จังหวะที่พลเมืองดีเผลอรีบวิ่งหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
และด้วยใบหน้าของผู้ก่อเหตุที่ปรากฏในคลิปดังกล่าว มีใบหน้าคล้ายกับคนร้ายที่ก่อเหตุข่มขืนนักศึกษาในห้องน้ำย่านบางนา ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมากว่าน่าจะเป็นรายเดียวกันหรือไม่
ขณะที่นายชวลิต มณีนาค ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตบางนา รักษาราชการแทนผู้อำนวยการเขตบางนา กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีผู้ร้ายข่มขืนหญิงสาวในห้องน้ำอาคารบริเวณแยกบางนา ว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจภายในอาคารดังกล่าว ปรากฏว่าไม่มีผู้ใดมาแสดงตัวเป็นเจ้าของ และจากการตรวจสอบพบมีความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร 2535 เนื่องจากมีการดัดแปลงอาคาร โดยไม่ได้รับอนุญาตใน 3 จุด คือ
- บริเวณที่เปิดเป็นห้องน้ำนั้นมีการดัดแปลงจากพื้นที่ด้านหลังที่ต้องเป็นพื้นที่โล่งว่างตามกฎหมาย และเปลี่ยนทางหนีไฟ เป็นห้องน้ำจำนวน 5 ห้อง
- ชั้น 2 และ ชั้น 3 นั้น มีการกั้นเป็นห้อง ๆ
- มีการดัดแปลงชั้นลอย
และจากการค้นประวัติทะเบียน พบว่า มีการเปลี่ยนเจ้าของอาคารดังกล่าวครั้งล่าสุด ประมาณปี 2555 ปรากฏชื่อผู้เป็นเจ้าของอาคารในปัจจุบันคือ น.ส.นิภาภรณ์ จินังกุล โดยระบุที่อยู่ปัจจุบันอยู่ในกรุงเทพฯ จึงได้ทำหนังสือแจ้งไปยังที่อยู่ที่ปรากฏตามขั้นตอน หลังจากที่มีการนำประกาศไปติดที่ตัวอาคาร โดยสั่งห้ามใช้อาคารและคำสั่งให้แก้ไขโดยรื้อถอนในส่วนที่ผิดกฎหมายภายใน เวลา 30 วัน ทั้งนี้ คำสั่งของเจ้าหน้าที่มีผลทันทีตามกฎหมายที่มีการนำประกาศไปติดไว้
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าของอาคารหากมีข้อสงสัยก็สามารถสอบถามมาที่เขตฯ ได้ ในส่วนของการแจ้งความดำเนินคดีนั้น ขอเวลารวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้องให้แน่ชัดก่อน เมื่อครบถ้วนแล้วจะมอบให้เจ้าหน้าที่เข้าแจ้งความที่ สน.บางนา ต่อไป
ภาพจาก คุณ ศรัณย์ ชมนาค สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม, ช่อง 8, ทวิตเตอร์ @joey_kanis
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
, คุณ ศรัณย์ ชมนาค สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม ,ช่อง 8






