
องค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ ออกโรงแบนการจำหน่ายสบู่ที่มีสารต้านแบคทีเรีย หลังพบถูกใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์มากเกินจำเป็น ชี้ให้โทษมากกว่าประโยชน์ และไม่ได้มีประสิทธิภาพมากกว่าสบู่ทั่วไป
เว็บไซต์นิวยอร์กไทมส์ เผยรายงานว่า เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2559 องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) ได้ออกมาประกาศคำสั่งห้ามขายผลิตภัณฑ์สบู่ที่มีสารต้านแบคทีเรียเป็นส่วนประกอบ โดยเผยว่าไม่มีผลการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ยืนยันได้แน่ชัดว่า สารเคมีเหล่านั้นจะปลอดภัยในระยะยาว และจะสะอาดกว่าการใช้สบู่ธรรมดา
ทั้งนี้ มีการวิจัยในสัตว์พบว่า สารเคมีต้องห้ามทั้ง 2 ชนิดนี้ดังกล่าว มีส่วนไปขัดขวางการเจริญเติบโตตามธรรมชาติของระบบสืบพันธุ์และกระบวนการเมตาบอลิซึม ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพบางท่านชี้ว่า อันตรายดังกล่าวนี้จะส่งผลในมนุษย์ด้วยเช่นกัน โดยสารเคมีดังกล่าวนี้เริ่มมีการใช้ครั้งแรกในแวดวงศัลยแพทย์ ที่ต้องใช้ล้างมือก่อนเข้าห้องผ่าตัด แต่ทุกวันนี้ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายมากเกินความจำเป็น อันรวมถึงผลิตภัณฑ์ชำระล้างช่องปาก ผลิตภัณฑ์ซักผ้าและน้ำยาปรับผ้านุ่ม รวมทั้งจุกนมปลอมสำหรับเด็ก ซึ่งจากรายงานของ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคเผยว่า พบสารเคมีเหล่านี้ตกค้างในปัสสาวะของพลเมืองชาวอเมริกันมากกว่า 1 ใน 3 โดยเฉพาะ สารไตรโคลคาร์บาน ต้องใช้เวลานานกว่าจะสลายหายไป
นอกจากนี้ทาง FDA ยังให้เวลาผู้ผลิตสบู่พิสูจน์สารเคมีอีก 3 ตัว ว่าปลอดภัยและมีประโยชน์จริง นั่นก็คือ เบนซีโทเนียม คลอไรด์ (Benzethonium chloride), เบนซาลโคเนียมคลอไรด์ (Benzalkonium chloride) และ คลอโรไซลีนอล (chloroxylenol) โดยผลิตภัณฑ์ที่มีสารดังกล่าว (แต่ต้องไม่มีสารต้องห้าม 19 ชนิด) ยังคงวางขายในตลาดต่อไปได้จนกว่าจะมีผลพิสูจน์ออกมา
ด้านทางผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข ก็ได้ออกมาแสดงความเห็นชอบกับคำสั่งห้ามดังกล่าว โดยระบุว่า ในระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมานี้ มีผลิตภัณฑ์ในชีวิตประจำวันจำนวนมากที่มีส่วนประกอบของสารต้านแบคทีเรีย ซึ่งสารเหล่านี้ให้โทษมากกว่าประโยชน์
อย่างไรก็ดี คำสั่งห้ามดังกล่าวมีผลใช้แค่กับสบู่และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดมือสำหรับครัวเรือนเท่านั้น ไม่รวมถึงผลิตภัณฑ์อื่น ๆ
ในทางกลับกัน ด้านสถาบันชำระล้างอเมริกัน (American Cleaning Institute : ACI) ตัวแทนกลุ่มผู้ค้า ได้ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยกับทาง FDA พร้อมทั้งมีข้อมูลแสดงประโยชน์ของการใช้สบู่ที่มีสารต้านแบคทีเรียชำระล้าง ว่าปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังมีความพยายามที่จะเดินหน้าทำการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์เพื่อมาพิสูจน์ให้กับทาง FDA ให้ได้
โดยในขณะนี้มีอุตสาหกรรมผลิตสบู่รายใหญ่บางราย เริ่มมีการถอนสารเคมีต้องห้ามดังกล่าวออกจากกระบวนการผลิตแล้ว