วันที่ 1 ธันวาคม 2559 สำนักข่าวบีบีซี เผยรายงานว่า นายสตีเฟน โอไบรอัน นักการทูตระดับสูงของสหประชาชาติ (UN) ได้ออกมาเตือนว่าเมืองอเลปโปกำลังเสี่ยงจะกลายเป็นสุสานขนาดใหญ่ หลังจากกองกำลังและทัพทหารของรัฐบาลซีเรียรุกคืบบุกยึดคืนพื้นที่จากกองกำลังฝ่ายกบฏ
ภาพจาก GEORGE OURFALIAN/AFP
โดยนายสตีเฟน ได้ยื่นข้อเสนอในการประชุมวาระพิเศษเพื่อถกถึงประเด็นถึงสถานการณ์วิกฤตที่กำลังเกิดขึ้นในเมืองอเลโป โดยได้เรียกร้องให้ทางคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ใช้อำนาจที่มีปกป้องพลเมืองในพื้นที่เพื่อเห็นแก่มนุษยธรรม และช่วยให้สามารถเข้าถึงพื้นที่ปิดล้อมทางตะวันออกของเมืองได้ ก่อนที่มันจะกลายเป็นสุสานขนาดใหญ่
โดยขณะนี้มีประชากรกว่า 25,000 ราย ไร้ที่อยู่อาศัย ส่วนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ควบคุมของฝ่ายกบฏก็กำลังตกอยู่ในสภาวะอดอยากและขาดแคลนอาหาร
ภาพจาก GEORGE OURFALIAN/AFP
ทั้งนี้จากรายงานของกลุ่มสังเกตการณ์เพื่อสิทธิมนุษยชนในซีเรีย ระบุว่า เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (30 พฤศจิกายน) ฝ่ายกองทัพรัฐบาลยิงขีปนาวุธใส่ฝ่ายกบฏที่ยึดครองพื้นที่ Jubb al-Qubbeh ซึ่งเป็นฐานทัพกลุ่มตรวจสอบดูแลของสหรัชอาณาจักร มีประชาชนอย่างน้อย 26 รายเสียชีวิต ขณะที่ทางอาสาสมัครกลุ่มไวท์เฮลเมทส์ หรือหน่วยกู้ภัยซีเรีย เผยว่ามีผู้เสียชีวิตถึง 45 ราย ส่วนสื่อหลักของซีเรียเผยว่า มีผู้เสียชีวิตเพียง 8 คนเท่านั้น
ภาพจาก GEORGE OURFALIAN/AFP
สำหรับเมืองอเลปโป เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของซีเรีย อีกทั้งยังเคยเป็นศูนย์กลางการค้าและอุตสาหกรรม จนกระทั่งเกิดการลุกฮือต่อต้านประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นมา พื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศถูกแบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย คือฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายกบฏ
โดยขณะนี้ทางซีเรียและหน่วยงานช่วยเหลือสากลกำลังดำเนินการระดมทรัพยากรเพื่อช่วยพลเมืองที่หนีจากพื้นที่สู้รบเพื่อความปลอดภัย ขณะที่ทางกองกำลังรัสเซีย เผยว่า พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือคุ้มกันภัยประชาชนในพื้นที่ที่ถูกยึดครองทางตะวันออก ซึ่งคาดว่ามีประชากรอาศัยอยู่ไม่ต่ำกว่า 90,000 ชีวิต แต่ทาง UN ยังคงไม่ระบุว่าเต็มใจที่จะยอมรับข้อเสนอดังกล่าว
เกาะติดข่าว ซีเรีย ทั้งหมด คลิก
ภาพจาก UNICEF/Delil Soulaiman, ทวิตเตอร์ @unreliefchief