ดีแลนน์ รูฟ มือปืนผู้ก่อเหตุสุดสะเทือนขวัญ เข้ากราดยิงในโบสถ์ของชาวผิวสี จนมีผู้เสียชีวิต 9 ราย ถูกศาลตัดสินประหารชีวิตแล้ว เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2560
เว็บไซต์เมโทร รายงานว่า ศาลสหรัฐอเมริกา พิพากษาลงโทษประหารชีวิต นายดีแลนน์ รูฟ วัย 22 ปี ในข้อหากราดยิงในโบสถ์ของผิวสีที่ตั้งอยู่ในรัฐเซาท์แคโรไลนา จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 9 ราย
เหตุกราดยิงสุดสะเทือนขวัญนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2558
ในวันนั้นนายรูฟเดินทางมายังโบสถ์เอ็มมานูเอล แอฟริกัน เมธอดิสต์
อีฟิสโคปัล (Emanuel African Methodist Episcopal Church)
ซึ่งเป็นโบสถ์ของคริสศาสนิกชนชาวผิวสีที่ตั้งอยู่ในเมืองชาร์ลสตัน
รัฐเซาท์แคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกา
นายรูฟเข้าไปนั่งปะปนกับสมาชิกโบสถ์ที่กำลังศึกษาคัมภีร์ไบเบิล
เขานั่งอยู่แบบนั้นอยู่ช่วงระยะเวลาหนึ่งก่อนจะชักปืนออกมาแล้วกราดยิงใส่สมาชิกโบสถ์
ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 9 ราย หนึ่งในนั้นเป็นชายชราวัย 87 ปี
นายรูฟให้การสารภาพหลังก่อเหตุว่า
เขารู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่เขาจำเป็นต้องทำ คณะลูกขุนต้องใช้เวลาถึง 3
ชั่วโมงในการตัดสินใจว่าจะลงโทษเขาในสถานใด จำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิต
ซึ่งหลังจากพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว
คณะลูกขุนก็ได้ตัดสินให้ลงโทษประหารชีวิตเขา
ก่อนหน้านี้นายรูฟได้ถูกนำตัวขึ้นพิจารณาคดีในชั้นศาลมาแล้ว
เขาถูกตัดสินว่ามีความในข้อหาทางอาญาตามกฎหมายรัฐบาลกลางของสหรัฐฯ 33
ข้อหาด้วยกัน
ซึ่งรวมถึงอาชญากรรมจากความเกลียดชังอันนำไปสู่การทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
นายรูฟกล่าวต่อหน้าคณะลูกขุนว่าเขาไม่ได้มีปัญหาทางจิตและไม่ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อคำตัดสินประหารชีวิต
ยอมรับคำตัดสินแต่โดยดี
จากกาตัดสินของศาลในครั้งนี้ทำให้นายรูฟเป็นชาวอเมริกันคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ถูกพิพากษาประหารชีวิตจากอาชญากรรมที่มาจากความเกลียดชัง
ภาพจาก Charleston County Sheriff's Office