
เหตุการณ์ที่จังหวัดชลบุรี กรณีวิศวกรยิงเด็กนักเรียน ม.4 เสียชีวิต ยังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์และสังคมต้องการคำตอบ เนื่องจากว่าคำให้การของทั้งสองฝ่ายนั้นขัดแย้งกันอย่างสิ้นเชิงชนิดที่ว่าอย่างกับหนังคนละม้วน โดยเฉพาะวินาทีที่เกิดเหตุ
เกี่ยวกับเรื่องนี้ (7 กุมภาพันธ์ 2560) รายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ทางช่อง 3 รายงานว่า ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สอบถามทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นทางตำรวจ ฝ่ายนายสุเทพ และฝ่ายของครอบครัวผู้เสียชีวิต...
โดยเริ่มจากจุดที่ให้การตรงกันคือ เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงค่ำของวันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2560 บริเวณ 2 จุด
จุดที่ 1. สะพานปลาอ่างศิลา นายสุเทพ โภชนสมบูรณ์ ขับรถมาสด้า พร้อมด้วย ภรรยา มารดา หลานชาย ไปจอดแวะซื้ออาหารทะเลที่สะพานปลาอ่างศิลา ในเวลาต่อมารถตู้ของกลุ่มวัยรุ่น ก็มาจอดที่บริเวณเดียวกันแล้วไปขวางทางทำให้รถของนายสุเทพออกไม่ได้ ภรรยานายสุเทพ จึงลงมาจากรถแล้วไปเคลียร์แต่ไม่ลงตัวจนกระทั่งมีปากเสียงกัน ทั้งสองฝ่ายขับรถออกมาจากจุดแรกคือสะพานปลาอ่างศิลา มีการปาดหน้า เบียดกัน แซงกัน ท้าทายกัน จนกระทั่งมาถึงจุดเกิดเหตุที่ห่างจากสะพานปลาไปประมาณ 1 กิโลเมตร
จุดที่ 2. ถนนสายอ่างศิลา แยกครกใหญ่ ซึ่งจุดนี้ทั้งสองฝ่ายให้ข้อมูลที่ไม่ตรงกัน โดยทางฝั่งวิศวกรคือ นายสุเทพ บอกว่า ขับรถออกมาตามปกติ แต่รถตู้ของกลุ่มวัยรุ่นขับตามหลังมาด้วยความเร็วและบีบแตรไล่ ตนเหลือบเห็นป้อมตำรวจและกู้ภัยด้านขวามือ จึงขับรถไปจอด แต่ถูกรถตู้ของกลุ่มวัยรุ่นขับปาดหน้าขวางไว้ โดยมีรถของกลุ่มวัยรุ่นขับมาปิดท้ายรถของตนอีกคัน ภรรยาของตนจึงเปิดประตูจะลงไปถามว่ามีอะไร โดยตอนนั้นภรรยา มารดา และหลาน อยู่นอกรถถูกกลุ่มวัยรุ่นล้อมไว้ เมื่อเห็นว่ากำลังตกอยู่ในอันตราย จึงหยิบปืนออกจากกระเป๋าโน้ตบุ๊ก แต่นาทีนั้น มีวัยรุ่นอีก 1 คนเข้ามาที่รถชกต่อยตน ตนจึงยิงสวนไป 1 นัด

ด้านกลุ่มวัยรุ่น บอกว่า หลังจากขับรถตู้ออกมาแล้ว นายสุเทพขับรถตามหลังแล้วแซงขวา ปาดหน้ารถตู้จากนั้นขับไปเรื่อย ๆ ก็เบรกอีก เพื่อให้รถตู้ชนท้าย เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุตามคลิป รถของนายสุเทพขับปาดหน้ารถอีกคันของกลุ่มตนก่อน รถตู้ของกลุ่มตนเลยขับมาจอดที่หน้ารถของนายสุเทพทีหลัง จากนั้นก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งลงมาจากรถนายสุเทพ กลุ่มตนจึงพากันลงไป จะไปถามว่ามีอะไร ยอมรับว่าโมโห เพราะมีการขับรถปาดหน้า แต่ยืนยันว่ายังไม่ได้ทำร้ายใด ๆ บาดแผลที่เห็นบนใบหน้านายสุเทพ มาจากกลุ่มตนจริง แต่เกิดหลังจากที่นายสุเทพได้ยิงปืนแล้ว และรู้ว่าน้องปอนด์ถูกยิงเสียชีวิต และตำรวจในที่เกิดเหตุได้ปืนในมือนายสุเทพไปแล้ว ตอนนั้นจึงมีการทำร้ายนายสุเทพ
อย่างไรก็ดี ข้อมูลที่ทั้งสองฝ่ายได้เล่ามานั้นมีความขัดแย้งกันตรงที่ ฝ่ายวิศวกรเผยว่ายิงเพราะถูกวัยรุ่นต่อยเข้าที่ใบหน้า แต่กลุ่มวัยรุ่นบอกว่ายังไม่ทันได้ต่อยกลับโดนยิงสวนมาแล้ว พอถูกยิงจึงเข้าไปต่อย

แต่ปรากฏว่า ในรถตู้มีกลุ่มวัยรุ่นหลายคนลงมามีปากเสียงกันเพราะกลุ่มวัยรุ่นก็ลงไปซื้ออาหารทะเลยังไม่เสร็จ นายสุเทพจึงลงจากรถไปเจรจา กลับมีปากเสียงกันอีก แต่สุดท้ายกลุ่มวัยรุ่นก็ยอมเปิดทางให้รถนายสุเทพขับออกไป อย่างไรก็ตาม ขณะที่นายสุเทพขับรถไปตามถนนอ่างศิลาได้ประมาณ 1 กิโลเมตร ก็เห็นรถตู้ขับตามมาอย่างกระชั้นชิด เมื่อเห็นท่าไม่ดีจึงจอดริมถนนสามแยกครกใหญ่ เพราะเห็นหน่วยกู้ภัยจำนวนมาก หวังว่าจะให้การช่วยเหลือหากมีเรื่อง จากนั้นรถตู้ก็ตามมาจอดขวางด้านหน้า และมีรถเก๋งอีกคันของกลุ่มเดียวกันจอดปิดท้าย แล้วกลุ่มวัยรุ่นก็กรูกันลงมา กระชากประตูรถ รุมทำร้ายนายสุเทพ ทำให้นายสุเทพตัดสินใจคว้าปืนพกขนาด .38 ออกมายิงขู่ 1 นัด กระสุนพลาดไปถูกนายนวพลที่ใต้ราวนมซ้าย และเสียชีวิตในเวลาต่อมา



อย่างไรก็ดี ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ต่อไปที่วัดน้อยนพคุณ เขตดุสิต เพื่อไปพบกับคุณแม่ของน้องปอนด์ โดยคุณแม่บอกว่าในโซเลียลตัดสินไปแล้วว่ากลุ่มวัยรุ่นเป็นคนผิด มีการวิพากษ์วิจารณ์ ด่าทออย่างรุนแรง จึงอยากให้ฟังข้อมูลทั้ง 2 ฝ่าย อยากให้มารู้จักกับน้องปอนด์ และที่สำคัญ อยากให้หน่วยงานในจังหวัดชลบุรี นำภาพจากกล้องวงจรปิดตัวอื่น ๆ ในจังหวัดมาเปิดเผย รวมทั้งให้ตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์ออกมาพูดบ้าง จะได้รู้ว่าความจริงคืออะไร







