สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวตามทะเลหรือชายฝั่งต่าง ๆ ก็ย่อมที่จะทราบดีอยู่แล้วว่าพฤติกรรมใด ๆ ก็ตามที่จะเป็นการรบกวนสัตว์ หรือแทรกแซงระบบนิเวศของมัน เช่น การให้อาหารปลา หรือแม้กระทั่งจับสัตว์น้ำขึ้นมาถ่ายรูป ล้วนเป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำเป็นอย่างยิ่ง จนแม้แต่บางพื้นที่ได้ออกเป็นกฎชัดเจน
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าจะยังมีนักท่องเที่ยวไม่ใช่น้อยที่เมินเฉยต่อกฎดังกล่าว ขอแค่ตัวเองได้หยิบจับสัตว์น้ำขึ้นมาถ่ายรูปสักแชะก็พอใจ ดังเช่นสิ่งที่นักท่องเที่ยวหญิงวัย 35 ปี จากประเทศบราซิล ได้ทำลงไปในคลิปที่เว็บไซต์เดอะโดโด้ นำมาเปิดเผยเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2560
โดยเราจะเห็นได้ว่าในขณะที่เธอคนนี้กำลังเดินเล่นอยู่ที่ริมหาดของหมู่เกาะเฟร์นันดูจีนอโรนยา นอกชายฝั่งของบราซิล เธอก็สังเกตเห็นลูกปลาฉลามเลมอน ตัวเล็ก ๆ ที่ว่ายน้ำเข้ามาใกล้ชายฝั่ง จึงได้รีบวิ่งเข้าไปดึงตัวลูกฉลามขึ้นมาจากน้ำ พยายามบังคับจับมันมาถ่ายรูป โดยไม่สนใจว่ามันจะดิ้นรนขัดขืนอย่างไร
ราวกับเคราะห์กรรมจะตามทัน เพราะในช่วงเวลานั้นเองที่ลูกฉลามไปหันมากัดเข้าที่นิ้วมือของเธอ จนเธอต้องง้างปากของมันออก ก่อนที่จะให้สามีช่วยถ่ายภาพให้ และปิดท้ายด้วยการจับฉลามโยนลงสู่ทะเลตามเดิม
ทั้งนี้รายงานเผยว่า ตัวนักท่องเที่ยวหญิงรายนี้ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย แค่ต้องเย็บแผล 4 เข็มเท่านั้น แต่แน่นอนว่าหลังจากที่คลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ไปในโลกออนไลน์ ก็ได้มีคนจำนวนมากเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์ถึงพฤติกรรมดังกล่าวว่าไม่เหมาะสม
ในขณะที่เมื่อเจ้าหน้าที่ทราบเรื่องดังกล่าว ทั้งตัวนักท่องเที่ยวหญิงและสามีก็ต้องเจอข้อหาทารุณกรรมสัตว์ ต้องเสียค่าปรับเป็นเงินคนละ 1,600 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 56,000 บาท) แต่เนื่องจากฉลามเลมอนเป็นสัตว์คุ้มครอง อีกทั้งพื้นที่เกิดเหตุยังอยู่ในเขตอนุรักษ์ของอุทยานแห่งชาติ ทำให้ค่าปรับดังกล่าวถูกเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว เป็นคนละ 3,200 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 110,000 บาท)
ก็เรียกว่านอกจากเจ็บตัวแล้วยังถูกปรับจนอ่วม เจอแบบนี้คงเข็ดไปอีกนาน และคงเป็นบทเรียนที่นักท่องเที่ยวควรดูไว้
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Fernando de Noronha
