เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2560 เว็บไซต์เดลี่เมล เปิดเผยรายงานอ้างอิงจากสำนักข่าวพีเพิลเดลี่ของจีน ระบุว่า นายหวัง อันหลิน ชาวไร่วัย 60 ปี จากหมู่บ้านในเขตชนบทของเมืองฉีฉีฮาร์ มณฑลเฮย์หลงเจียง ประเทศจีน ที่จบเพียงชั้นป.3 ได้รับพิจารณาให้ชนะคดีในศาลชั้นต้น จากการยื่นฟ้องร้องกับทางบริษัท ฉีฮวา กรุ๊ป ซึ่งอยู่ในความครอบครองของรัฐ และมีมูลค่าสินทรัพย์มากกว่า 2 พันล้านหยวน หรือราว 1 หมื่นล้านบาท
ตั้งแต่ปีนั้นเรื่อยมาถึงปี 2559 ทางบริษัท ฉีฮวา กรุ๊ปก็ยังคงปล่อยสารเคมีของเสียเข้ามาในหมู่บ้านอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากรายงานระบุว่า ทางบริษัทดังกล่าวผลิตโพลิไวนิลคลอไรด์ ที่ใช้ในอุตสาหกรรม และมีการปล่อยของเสียที่เป็นสารเคมีออกมามากถึงปีละ 15,000-20,000 ตันด้วยกัน
นายหวังยังเผยว่า เมื่อปี 2544 ที่เริ่มเกิดเรื่องนั้น ตนได้เขียนจดหมายไปยังกรมที่ดินเพื่อรายงานถึงปัญหาดังกล่าว แต่ทางเจ้าหน้าที่กลับถามหาหลักฐานที่มาใช้พิสูจน์คำกล่าวอ้างของเขา ซึ่งตอนนั้นตนไม่รู้หนังสือ แม้แต่คำว่าหลักฐานยังไม่รู้ จากนั้นจึงตัดสินใจไปศึกษาเรื่องกฎหมายด้วยตัวเอง ทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็จบแค่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยได้เริ่มจากการอ่านหนังสือจำนวนมาก และใช้พจนานุกรมช่วย ตอนนั้นตนก็ไม่มีเงินซื้อหนังสือ ก็ต้องอาศัยไปอ่านตามร้านหนังสือท้องถิ่น โดยนำข้าวโพดจากสวนไปแลก
หลังจากรวมระยะเวลาที่นายหวังต่อสู้และรวบรวมหลักฐานมาทั้งหมด 16 ปี ในที่สุด เมื่อไม่นานมานี้ ทางศาลได้พิจารณาคดีตัดสินให้ทางนายหวังและชาวบ้านชนะคดี โดยให้ทางบริษัทคู่กรณีจ่ายเงินชดเชยเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 820,000 หยวน (ราว 4.2 ล้านบาท) อย่างไรก็ดีทางบริษัทคู่กรณีได้ขอยื่นอุทธรณ์ ขณะที่ด้านนายหวังก็พร้อมที่จะสู้ต่อไปเช่นกัน
ภาพจาก rfa.org, society.qq.com