TOSHIFUMI KITAMURA / AFP
เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2560 สำนักข่าวนิวยอร์กไทมส์ รายงานว่า คาลิด อาบู บาการ์ ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาเลเซีย กล่าวในงานแถลงข่าวความคืบหน้าคดีลอบสังหารนายคิมจองนัม ระบุว่า ผลการชันสูตรศพของเขาชี้ให้เห็นชัดว่า สารพิษที่ใช้ในการลอบสังหารคือ สารวีเอ็กซ์ (Venomous Agent X) ซึ่งเป็นหนึ่งในสารเคมีที่ร้ายแรงที่สุดในโลก และถูกจัดว่าเป็นอาวุธสงครามที่อันตรายร้ายแรงตั้งแต่ปี 2540
สำหรับสารวีเอ็กซ์ถูกคิดค้นขึ้นเมื่อหลายทศวรรษก่อน มันเป็นสารเคมีอันตรายที่ไร้กลิ่น ไร้สี ไร้รสชาติ มันสามารถดูดซึมได้จากการสัมผัสโดยตรงทางผิวหนังและทำงานได้อย่างรวดเร็ว โดยจากข้อมูลของสมาคมนักวิทยาศาสตร์อเมริกันระบุว่า เมื่อสารวีเอ็กซ์เข้าสู่ร่างกายแล้วนั้น มันจะออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทโดยตรง ยับยั้งการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ทำกล้ามเนื้อกลายเป็นอัมพาต หายใจไม่ออก และเสียชีวิตในที่สุด
ในอดีตที่ผ่านมา ทั้งสหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียต 2 ประเทศมหาอำนาจของโลกต่างก็มีเคยสารวีเอ็กซ์ไว้ในครอบครอง แต่เมื่อปี 2540 มีการจัดตั้งอนุสัญญาห้ามอาวุธเคมี ซึ่งเป็นความตกลงการควบคุมอาวุธที่ห้ามการผลิต การสะสม และการใช้อาวุธเคมีทุกประเภท สหรัฐฯ จึงทำลายสารวีเอ็กซ์ทิ้งทั้งหมด และสำเร็จลุล่วงในปี 2556
เกาหลีเหนือเป็นประเทศที่ไม่ได้เข้าร่วมอนุสัญญาห้ามอาวุธเคมี และเป็นหนึ่งในประเทศที่ครอบครองอาวุธเคมีมากที่สุดในโลก โดยมีมากถึง 2,500-5,000 ตัน นอกจากนี้ยังมีการครอบครองอาวุธชีวภาพเป็นจำนวนมากอีกด้วย
ก่อนหน้านี้เกาหลีใต้ได้ออกมาประกาศว่าเกาหลีเหนือเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการสังหารนายคิมจองนัม แต่ทางเกาหลีเหนือก็ได้ออกมาปฏิเสธเรื่องนี้ และได้กล่าวว่านายคิมจองนัมเสียชีวิตที่ประเทศมาเลเซีย ผู้ที่มีส่วนรู้เห็นเรื่องนี้มากที่สุดก็ต้องเป็นรัฐบาลมาเลเซียเท่านั้น ซึ่งทั้งหมดส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของเกาหลีเหนือและมาเลเซียอย่างร้ายแรง
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการรายงานว่าเกาหลีเหนือมีท่าทีอย่างไรต่อการประกาศผลชันสูตรนายคิมจองนัมครั้งนี้