นักวิทย์ฯ บราซิลประสบความสำเร็จ ใช้แมลงสาบแทนแป้ง อบขนมปังกินได้




             นักวิทยาศาสตร์อาหารบราซิลประสบความสำเร็จ เปลี่ยนแมลงสาบให้กลายเป็นแป้งใช้อบขนมปัง ชี้ให้โปรตีนมากกว่าแป้งจากข้าวสาลีถึง 40 เปอร์เซ็นต์ แถมรสชาติไม่ต่างจากขนมปังปกติ

             เนื่องจากปัญหาการขาดแคลนอาหาร กำลังจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ในอีก 10 ปีข้างหน้า ด้านนักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญหลายคน จึงมีความเชื่อว่า แมลงจะกลายเป็นแหล่งสารอาหารขนาดใหญ่สำหรับมนุษย์ในอนาคต ซึ่งตอนนี้เรามีเมนูที่ทำจากแมลงหลายชนิด และตามร้านอาหารก็เริ่มนำเมนูเหล่านี้ไปใส่ไว้ในรายการอาหารให้ลูกค้าสั่งทานแล้ว แต่อย่างไรก็ดี ก็ยังต้องการวิธีที่จะใช้แมลงเหล่านี้ทดแทนอาหารหลักในปัจจุบันอย่างเช่น ข้าวสาลี ให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นทีมนักวิทยาศาสตร์ด้านอาหารชาวบราซิลจึงคิดค้นวิธีการดังกล่าวขึ้นมาจนประสบความสำเร็จ ด้วยการเปลี่ยนแมลงสาบให้กลายเป็นแป้งและนำไปใช้อบเป็นขนมปัง !

             จากรายงานที่เว็บไซต์อ็อดดิตี้เซ็นทรัล นำมาเสนอเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2560 เผยว่า แอนเดรสซา ลูกัส และ ลอเรน เมเนกอน นักศึกษาวิศวกรรมอาหาร 2 ราย จากมหาวิทยาลัยสหพันธรัฐรีโอแกรนด์ ในประเทศบราซิล ได้พัฒนาสูตรการทำแป้งจากแมลงสาบ ที่มีส่วนประกอบเป็นโปรตีนมากกว่าแป้งจากข้าวสาลีปกติถึง 40 เปอร์เซ็นต์ และสามารถนำไปใช้ในการอบขนมปังหรืออาหารได้ทุกชนิด นอกจากนี้แมลงสาบยังอุดมไปด้วยกรดอะมิโนที่จำเป็นหลายชนิด

             แต่ก่อนที่หลาย ๆ คนจะรู้สึกรังเกียจ ขนลุก หรือคลื่นไส้ชวนอาเจียนไปมากกว่านี้ ทางทีมวิจัยได้เปิดเผยว่า แมลงสาบชนิดที่นำมาทำเป็นแป้งอบขนมปังนี้ ไม่ใช่ชนิดที่เราเห็นไต่กันตามในครัวบ้านเรือน แต่เป็นชนิดที่มีชื่อเรียกว่า Nauphoeta cinerea ซึ่งมีแหล่งกำเนิดมาจากการเพาะพันธุ์พิเศษ ที่มีการควบคุมสุขอนามัยในการผลิตตามมาตรฐานของสำนักงานเฝ้าระวังด้านอนามัยแห่งชาติบราซิล (ANVISA) เลี้ยงดูโดยให้อาหารเป็นผักและผลไม้เท่านั้น


             ทีมวิจัยระบุว่า สาเหตุที่ต้องเลือกแมลงสาบก็เป็นเพราะว่า มันมีโปรตีนสูงมากเกือบถึง 70 เปอร์เซ็นต์ อีกทั้งยังมีกรดอะมิโนที่จำเป็นมากถึง 8 ใน 9 ชนิด รวมไปถึงกรดไขมันคุณภาพสูง อาทิ โอเมก้า-3 และโอเมก้า-9 ซึ่งเราสามารถนำตัวมาใช้ได้ทั้งหมดเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ มีเศษที่เหลืออยู่น้อยมาก ด้วยแหล่งโปรตีนที่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์เช่นนี้ จะช่วยเพิ่มพูนสารอาหารให้กับมนุษย์ โดยเฉพาะคนที่เป็นโรคขาดสารอาหาร นอกจากนี้การบริโภคแมลงสาบจะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในเชิงลบจากการทำปศุสัตว์ เนื่องจากการเพาะพันธุ์แมลงสาบนั้นใช้พื้นที่น้อย และสร้างมลพิษในปริมาณที่น้อยมาก ซึ่งสิ่งเหล่านี้เพียงพอให้เป็นปัจจัยในการคิดค้นการวิจัยดังกล่าวขึ้นมา

             อย่างไรก็ดี จากรายงานไม่ได้เปิดเผยถึงกระบวนการแน่ชัด ว่าทีมนักวิจัยเปลี่ยนแมลงสาบให้กลายเป็นแป้งได้อย่างไร ทั้งนี้คาดว่าน่าจะใช้วิธีการทำให้แมลงเหล่านี้แห้งแล้วนำไปบดละเอียดจนเหมือนแป้ง ก่อนจะนำไปผสมกับส่วมผสมอื่นเพื่อสามารถอบออกมาเป็นขนมปังได้ โดยจากผลการทดลองพบว่า ขนมปังที่อบออกมาหนึ่งชิ้นซึ่งมีแป้งจากแมลงสาบเพียงแค่ 10 เปอร์เซ็นต์ สามารถเพิ่มโปรตีนได้มากกว่าขนมปังที่อบจากแป้งจากข้าวสาลีมากถึง 49.16 เปอร์เซ็นต์

             สิ่งที่น่าสนใจคือ ทุกคนที่ได้ลิ้มลองรสชาติของขนมปังจากแป้งแมลงสาบนั้น ล้วนรู้สึกเช่นเดียวกับกินขนมปังปกติ เนื่องจากใช้ส่วนผสมแป้งจากแมลงสาบเพียงนิดเดียว ประกอบกับมีส่วนผสมอื่น ๆ อาทิ ซีเรียลอบแท่ง หรือเค้ก ซึ่งทำให้ยากที่จะแยกรสชาติได้


             แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทีมนักวิจัยต่างก็ทราบดีว่า ผู้คนจะรู้สึกคลื่นไส้ไม่น้อย เมื่อกล่าวถึงแนวคิดการนำแมลงมาทำเป็นอาหารเช่นนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นแมลงสาบ เมื่อครั้งที่ทำการทดลองนำตัวอย่างขนมปังไปให้คนลองชิม ทุกคนก็จะปฏิเสธเมื่อทราบว่าใช้แป้งจากแมลงสาบ แต่ก็หวังว่าเมื่อเวลาผ่านไปผู้คนจะเริ่มเปลี่ยนความคิด ทั้งนี้นอกจากแมลงสาบแล้ว ทางทีมยังได้มีการวิจัยกับแมลงชนิดอื่นด้วย เช่น จิ้งหรีดและแมลงปีกแข็ง ซึ่งคาดว่าผู้คนน่าจะรู้สึกรังเกียจน้อยกว่าแมลงสาบ 

             ทั้งนี้จากการคาดการณ์ของยูเอ็น ระบุว่า ในปี 2050 (พ.ศ. 2593) จะไม่มีพื้นที่ในการผลิตอาหารเพียงพอต่อประชากรโลก ในกรณีการเพาะพันธุ์แมลงเป็นอาหารนี้จะช่วยเรื่องพื้นที่ที่จำกัด อีกทั้งยังไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากใช้ปริมาณน้ำน้อย และปล่อยปริมาณแก๊สเสียที่ก่อให้เกิดปัญหาโลกร้อนน้อยกว่าการทำปศุสัตว์มาก นอกจากนี้ แมลงยังสามารถใช้ประโยชน์ได้ทั้งตัว ต่างจากสัตว์ใหญ่ที่มนุษย์ไม่สามารถนำมาใช้บริโภคได้ทุกส่วน "แม้ว่าในวันนี้จะยังใช้ไม่ได้จริง แต่ในอนาคตเชื่อว่าแนวคิดนี้จะต้องถูกนำไปใช้อย่างแน่นอน" ทีมวิจัย กล่าว


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
นักวิทย์ฯ บราซิลประสบความสำเร็จ ใช้แมลงสาบแทนแป้ง อบขนมปังกินได้ อัปเดตล่าสุด 25 มิถุนายน 2563 เวลา 16:52:17 313,608 อ่าน
TOP
x close