เปิดใจ ลูกศิษย์ หลวงพ่อเปิ่น เกจิอาจารย์จอมขมังเวทย์วัดบางพระ จ.นครปฐม ยัน ศิษย์นับหมื่นมีอาการของขึ้นกว่าร้อยคนขณะทำพิธีไหว้ครู เป็นเรื่องจริง ไม่ใช่อุปาทานหมู่
เป็นปรากฏการณ์ความเชื่อส่วนบุคคลที่บรรดาลูกศิษย์ของหลาวงพ่อเปิ่น เกจิอาจารย์จอมขมังเวทย์ชื่อดัง เจ้าของตำนานสักเสือเผ่น จำนวนกว่า 2 หมื่นคนต่างเดินทางไปร่วมพิธีไหว้ครูหลวงพ่อเปิ่น ประจำปี 2560 เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2560 ที่วัดบางพระ จ.นครปฐม ซึ่งพบว่า มีลูกศิษย์นับร้อยคนที่โดนน้ำมนต์แล้วมีท่าทางชูมือขึ้นคล้ายเสือ กระโดดโลดเต้นคล้ายลิง หรือที่เรียกกันว่า ของขึ้น ซึ่งลักษณะจะแตกต่างกันไปตามรอยสัก ทำให้หลายคนตั้งข้อสงสัยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นของจริง หรือเป็นเพียงอุปาทานหมู่เท่านั้น

ด้านนายอภิชาต โสวิรัชน์ ลูกศิษย์ที่มาสักยันต์ที่วัด กล่าวว่า ตนเริ่มสักมาประมาณ 5 ปีแล้ว ส่วนสาเหตุที่มาสักกับทางวัดเพราะความศรัทธา เช่นเดียวกับ นายปรีดา ไข่ม่วง ที่บอกว่า สาเหตุที่มาสักเพราะเห็นเพื่อนมาสักก่อนแล้วพูดกันปากต่อปากว่าดี แคล้วคลาดปลอดภัย จึงตัดสินใจมาสักบ้าง ประกอบกับความศรัทธาในตัวของหลวงพ่อเปิ่น และลายสักที่แสดงถึงความเป็นหลวงพ่อเปิ่นก็คือ เสือตีนโต ซึ่งได้มายากมาก เนื่องจากต้องเป็นคนที่เข้าวัดมานานเท่านั้นจึงจะได้
"มีอยู่ครั้งหนึ่ง เคยขี่มอเตอร์ไซค์ไปเกิดอุบัติเหตุ ตัวรถพังแหลก ส่วนตัวเราไม่เป็นอะไร แขนขาไม่หัก ยังลุกขึ้นมาเดินเข็นรถได้ตามปกติ คิดว่าเป็นเพราะพุทธคุณของรอยสัก และก็เคยเกิดลักษณะนี้หลายครั้ง" นายปรีดา กล่าว
หากถามว่าเหตุใดจึงต้องจัดพิธีไหว้ครูหลวงพ่อเปิ่นทุกปี นายปทุม กล่าวว่า สาเหตุที่จัดเพราะต้องการแสดงความกตัญญูต่อครู เมื่อเราเป็นลูกศิษย์และได้ของดีมาแล้ว เมื่อถึงเวลาก็ต้องมากราบไหว้ท่าน ส่วนพิธีที่เพิ่งผ่านมามีลูกศิษย์มาเช่าพานกว่า 2 หมื่นบาท โดยจะนำเงินที่ได้มาเข้าเป็นเงินของวัด
"เป็นอาการของขึ้น เหมือนกับว่าเรามีอาการขนหัวลุก พอของขึ้นแล้วคนที่เป็นจะไม่รู้สึกตัวแล้ว คนที่สักสิ่งไหนสิ่งนั้นก็จะมา เช่น คนที่กระโดดจะเป็นหนุมาน เป็นลิง เขาจะไม่รู้ตัวและจะเป็นแบบนี้ไปจนถึงหน้าพิธี ส่วนตัวมีแค่อาการขนลุกขนพอง แต่มีคนมาบอกว่า บางครั้งผมก็เป็นเสือ เป็นหนุมาน สลับกันไป และคนที่สักแล้วจะต้องรักษาศีล ส่วนตัวไม่ดื่มเหล้าแล้ว เรื่องโกหกก็ห้ามทำ คืออะไรที่พูดไม่ได้ก็ใช้วิธีไม่พูด
นายปทุม กล่าวต่อว่า เหตุการณ์คนของขึ้นมีทุกปี ส่วนตัวเชื่อว่าเป็นเรื่องจริงไม่ใช่อุปาทาน เพราะคนที่จะของขึ้นต้องมีศรัทธา อย่างคนที่สักหนุมานจิตก็จะยึดมั่นที่หนุมานและเป็นลิงขึ้นมา
"จริง ๆ แล้วคำที่บอกว่า สักแล้วคงกระพัน คือความดีของเราที่คงกระพัน คนเราต้องมีตายอยู่แล้ว ส่วนที่เราไปสักก็เพราะต้องการหนังเหนียวจริง ๆ แต่เวลาไปสักกับครูแล้ว เขาก็จะสอนเรา พอสักเยอะขึ้นความคิดเราก็จะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ คนเรากว่าจะสักได้แต่ละรูป มันเจ็บนะ แต่ละเข็มที่แทงลงไปเรายังนั่งนิ่งทนได้ หากมีเรื่องอะไรเข้ามาเราก็ต้องอดทน

ส่วนคนที่มองว่าเราสักแล้วน่ากลัว มองเราไม่ดี ผมก็ยิ้มอย่างเดียว ไม่ได้ว่าอะไร วันเวลาจะทำให้รู้เองว่าเราเป็นคนยังไง และขอยืนยันว่าที่คนของขึ้นเป็นพุทธคุณของหลวงพ่อเปิ่นจริง ๆ" นายปรีดา กล่าวปิดท้าย
ภาพและข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก ช่อง8






