สงครามมีแต่ความสูญเสีย ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินหรือเลือดเนื้อ ยิ่งยืดเยื้อนานวันความสูญเสียก็ยิ่งเพิ่มทวีคูณมากขึ้นหลายเท่า ดังที่ เมืองอเลปโป ที่ทั่วโลกทราบกันดีว่าที่เป็นสนามสงครามกลางเมือง ในซีเรีย ระหว่างรัฐบาลและฝ่ายกบฏที่มีต่อเนื่องมาอย่างยาวนานนับตั้งแต่ปี 2554 และยังคงไม่สิ้นสุดลงนั้น ทุกวันนี้เปรียบเสมือนกับสุสานกลางเมืองขนาดใหญ่ที่มีแต่การนองเลือดและความตาย เมืองทั้งเมืองที่เคยเป็นเมืองเก่าแก่ องค์การยูเนสโกขึ้นทะเบียนให้เป็นเมืองมรดกโลก พังพินาศย่อยยับไม่หลงเหลือร่องรอยอารยธรรม มีแต่เพียงซากหินซากปูนอยู่ทั่วพื้นที่
ช่างภาพโจเซฟ เผยในรายงานระบุว่า เขาอยากจะติดตามคุณลุงอนิสกลับไปที่บ้าน เพราะต้องการทราบว่าคุณลุงจะทำอะไรบ้าง หลังจากต้องอพยพหลบหนีออกมาหลายเดือนด้วยกัน ซึ่งภาพที่ถ่ายออกมาได้นั้นทำเอาหลาย ๆ คนต่างพากันรู้สึกเศร้าและสะเทือนใจอย่างที่สุด และภายหลังจากภาพชุดดังกล่าวถูกนำมาเผยแพร่ ก็เกิดเป็นกระแสที่พูดถึงและถูกนำไปแชร์ต่อกันเป็นอย่างมากในโลกออนไลน์
คุณลุงอนิส กลับมาพบกับสภาพบ้านที่ชวนให้น่าตกใจอย่างมาก ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องนอนที่อดีตเคยเป็นห้องนอนที่สวยงาม แต่ตอนนี้เต็มไปด้วยซากปรักหักพัง ก่อนจะนั่งลงบนเตียงนอน ในมือถือไปป์สูบ พร้อมกับหยิบแผ่นเสียงมาเปิดในเครื่องที่ไม่น่าเชื่อว่ายังสามารถใช้งานได้อยู่ นับเป็นภาพที่ทรงพลังภายใต้เบื้องหลังสงครามที่แสนเจ็บปวด
คุณลุงชื่นชอบรถคลาสสิกรุ่นเก่า ๆ มาก ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นมรดกที่ตกทอดมาจากรุ่นคุณพ่อของคุณลุง ซึ่งอดีตเคยเป็นนักธุรกิจเกี่ยวกับสิ่งทอที่มีฐานะ โดยคุณลุงมีรถคลาสสิกสะสมไว้มากทั้งหมดถึง 30 คันด้วยกัน แต่หลังจากสงคราม เกือบทั้งหมดถูกทำลายและถูกปล้นขโมยไป จนแทบไม่เหลือเค้าของความสวยงามอยู่เลย รถทั้งหมดล้วนมีแต่ร่องรอยบาดแผล
"เมื่อก่อนผมเคยมีความสุขมาก ๆ แต่ตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมดแล้ว อย่างไรก็ดี ถึงแม้ว่าชีวิตตอนนี้มันจะยาก แต่เราต้องไม่สูญสิ้นความหวัง" คุณลุงอนิส กล่าว
ภาพจาก JOSEPH EID / AFP
ข้อมูลจาก
buzzfeed.com