ย้อนคดีน้องสโนว์ เด็กสาว ม.6 ถูกผู้ใหญ่บ้านทำร้ายและข่มขืน จนเสียชีวิต สุดท้ายเจอหลักฐานและคำให้การผู้ตายมัดตัว ก่อนถูกศาลชั้นต้นสั่งประหาร
หากพูดถึงคดีที่สร้างความสะเทือนใจในช่วงปีที่ผ่านมา หนึ่งในนั้นหนีไม่พ้นเหตุข่มขืนและทำร้าย น้องสโนว์ เด็กสาวชั้น ม.6 วัย 18 ปี ที่ จ.กาฬสินธุ์ ก่อนที่เธอจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา จนกลายเป็นกระแสสังคมที่กดดันให้หาตัวคนผิดมาลงโทษให้ได้ ก่อนจะนำมาซึ่งการจับกุม นายกฤติเดช ระเวงวรรณ ผู้ใหญ่บ้านสีถาน ซึ่งล่าสุด (30 มีนาคม 2560) เจ้าตัวถูกศาลชั้นต้นลงโทษสถานหนักด้วยการพิพากษาประหารชีวิต
แต่กว่าจะมาซึ่งการตัดสินดังกล่าว สาเหตุหนึ่งที่คดีของน้องสโนว์ เป็นที่สนใจของสังคม เป็นเพราะพฤติกรรมที่โหดเหี้ยมของคนร้าย บวกกับการที่เจ้าตัวเป็นผู้ใหญ่บ้านนั้น ปฏิเสธไม่ได้ว่าย่อมมีอิทธิพล ทำให้คดีนั้นต้องใช้เวลานานกว่าจะเจอหลักฐาน แต่สุดท้ายก็หนีสิ่งที่ตนเองกระทำไว้ไม่พ้น
เหตุการณ์นี้ต้องย้อนไปเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2558 ขณะที่น้องสโนว์ได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปเรียนหนังสือตามปกติ แต่ระหว่างทางกลับถูกคนร้ายที่สะกดรอยตาม เร่งความเร็วมาประกบใช้ขาถีบรถจนล้มลง พร้อมกับลงไปฉุดกระชากต่อยท้องหลายครั้งและพยายามข่มขืน แต่น้องพยายามต่อสู้คนร้ายที่ใช้มือปิดปาก น้องสโนว์ก็ใช้ปากกัดและบีบลูกอัณฑะ จนสามารถหลบหนีออกมาได้ ก่อนจะรีบโทรศัพท์หาพ่อเพื่อขอความช่วยเหลือ
หลังคดีน้องสโนว์กลายเป็นกระแสในสังคม ทางตำรวจก็ยิ่งต้องเจอกับงานยากมากขึ้น เนื่องจากชาวบ้านไม่กล้าออกมาให้การเป็นพยานเนื่องจากเกรงกลัวอิทธิพลบางอย่าง ซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควร ก่อนจะนำมาซึ่งการบุกจับกุมตัว นายกฤติเดช ระเวงวรรณ ผู้ใหญ่บ้านสีถาน หมู่ที่ 15 ต.ดงลิง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2559
โดยพยานหลักฐานต่าง ๆ บ่งชี้ว่า นายกฤติเดช เป็นผู้ต้องสัยสัยที่ก่อเหตุ มีทั้งรอยกัดที่นิ้วหัวแม่มือขวา รอยข่วนบริเวณนิ้วชี้ขวา-แก้มซ้าย-เอวด้านซ้าย และบริเวณหลัง เศษดินและหญ้าแห้งที่พบในเสื้อผ้าของผู้ต้องหา ร่องรอยการบีบลูกอัณฑะ และคำให้การของผู้ตาย ระบุว่า ถูกคนร้ายใช้นิ้วสอดใส่เข้าไปในอวัยวะเพศ รวมถึงรถจักรยานยนต์ของผู้ต้องหาที่มีร่องรอยการเฉี่ยวชนกับรถของน้องสโนว์ แต่เจ้าตัวยังปฏิเสธ อ้างว่า รอยกัดที่มีเป็นรอยกัดของหนูนา ส่วนรอยข่วนก็อ้างว่าโดนหญ้าคาบาด ทำให้สร้างความงุนงงว่า ตกลงผู้ใหญ่บ้านรายนี้คือคนร้ายตัวจริงหรือไม่
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อคำอ้างของ นายกฤติเดช และมั่นใจในหลักฐาน จึงได้แจ้งข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยผู้อื่นอยู่ในภาวะไม่สามารถขัดขืนได้ เป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย พร้อมสั่งให้คนร้ายพ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ผู้ใหญ่บ้าน จนกว่าดำเนินสอบสวนจนคดีถึงที่สุด
แม้วันเวลาจะล่วงเลยไปจนครบรอบกว่า 1 ปี นับตั้งแต่น้องสโนว์เสียชีวิต แต่พ่อ-แม่ ของน้องยังคงเศร้าเสียใจ โดย แม่น้องสโนว์ เผยว่า รู้สึกว่าลูกสาวยังอยู่กับครอบครัวไม่จากไปไหน ซึ่งตอนนี้ยังฝันถึงลูกสาวทุกคืน เชื่อว่าดวงวิญญาณลูกยังไม่สงบ หากคนทำผิดยังไม่ได้รับการชดใช้กรรมตามกระบวนการยุติธรรม
ขณะที่ พ่อน้องสโนว์ ยอมรับเช่นกันว่า ตนยังไม่สามารถทำใจได้แม้เวลาจะผ่านมา 1 ปี ทุกวันนี้ยังนั่งมองภาพถ่ายและคิดถึงลูกสาวอยู่ตลอดเวลา แต่ก็มีเรื่องอัศจรรย์กับครอบครัวเล็กน้อย เพราะหลานสาววัย 2 เดือน มีรอยปานจุดเดียวกันกับแผลที่เกิดขึ้นตอนน้องสโนว์เสียชีวิต 2 จุด โดยที่บริเวณข้อเท้าด้านซ้ายเป็นรอยปานดำ ขณะที่บริเวณสันจมูกมีลักษณะคล้ายรอยแผลเป็น และหากเป็นลูกสาวกลับมาเกิดใหม่จริงตนก็คงสุขใจ
สุดท้าย คดีของน้องสโนว์ จะเข้าข่ายได้รับความเป็นธรรมที่แท้จริงหรือไม่นั้น ยังคงต้องเป็นที่ติดตามกันต่อไป เพราะคำพิพากษาประหารชีวิตดังกล่าวเป็นของของศาลชั้นต้น โดยหลังจากนี้ต้องรอคำตัดสินจากศาลอุทธรณ์ และฎีกา ที่จะเป็นตัวชี้วัดว่าผู้ที่ก่อเหตุอย่างโหดเหี้ยมกับน้องสโนว์ สมควรจะได้รับการชดใช้กรรมหรือไม่ และด้วยการลงโทษแบบไหน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
