ตำรวจรวบแก๊งหมูบิน ตระเวนยกเค้าบ้านคนรวย ได้ทรัพย์สินแต่ละครั้งเป็นล้านบาทขึ้น ก่อนเอาเงินไปเล่นการพนันใช้ชีวิตอู้ฟู่ พอเงินหมดก็มาขโมยใหม่ มีประวัติขึ้นบ้าน พล.อ. ประวิตร รองนายกฯ
วันที่ 2 เมษายน 2560 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ได้แถลงข่าวจับกุมตัว นายณัฐ ชาหอม หรือโต้ง อายุ 39 ปี หัวหน้าแก๊งหมูบิน และนายกีรติ กุมพล หรือแจ็ค อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดนนทบุรี ฐานร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถาน ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวได้ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งใน จ.ฉะเชิงเทรา ขณะมาเช่าหลบซ่อนตัว โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 คน พร้อมด้วยลูกน้องอีก 2 คนที่ถูกจับไปก่อนหน้านั้นได้ตระเวนลักทรัพย์นับครั้งไม่ถ้วน ในเขตภาค 1, ภาค 2 และภาค 7 รวมทั้งในเขตกรุงเทพมหานคร และยังลักทรัพย์ที่บ้านของ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และบ้านของพิธีกรชื่อดัง นายณวัฒน์ อิสรไกรศีล โดยได้ทรัพย์สินไปกว่า 10 ล้านบาท ก่อนหลบหนีไป
โดยนายณวัฒน์ อิสรไกรศีล ผู้อำนวยกองประกวดมิสแกรนด์ ไทยแลนด์และพิธีกรชื่อดัง พร้อมผู้เสียหายอีกหลายสิบคนได้เดินทางมาที่ สภ.ปากเกร็ด พร้อมตรวจดูของกลางนับร้อยรายการในตู้โชว์ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตามกลับคืนมาได้ ซึ่ง นายณวัฒน์ ระบุว่า เท่าที่มาตรวจสอบนั้นไม่พบทรัพย์สินของตนเองเลย จึงสอบถามผู้ต้องหาว่าเอาทรัพย์สินตนไปขายที่ไหน ก็ได้รับคำตอบว่า หลังจากที่ลักทรัพย์แล้ว วันรุ่งขึ้นก็กลายเป็นข่าวดัง จึงหลบหนีไปอยู่ฝั่งอรัญประเทศ โดยเช่าโรงแรมหรู ด้านล่างเป็นบ่อนขนาดใหญ่ ก็ได้เอาทรัพย์สินของนายณวัฒน์ไปขายที่นั่น ได้เงินมาราว 2 ล้านบาท และนำไปใช้กิน เที่ยวเตร่ เล่นการพนันจนหมด เมื่อเรื่องเงียบลงจึงกลับมาตระเวนลักทรัพย์ตามหมู่บ้านหรูอีกครั้ง เมื่อได้เงินก็แบ่งกับลูกน้อง พอเงินหมดก็ทำอีก
ด้าน พล.ต.ต. ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1 เปิดเผยว่า ผู้ต้องหากลุ่มนี้ชื่อแก๊งหมูบิน ก่อเหตุในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ส่วนใหญ่ก่อเหตุในเวลากลางวัน เลือกบ้านที่ไม่มีคนอยู่และมีรถยนต์ราคาแพงจอดไว้ โดยขับตระเวนดูหลาย ๆ รอบ รวมทั้งหมู่บ้านที่ไม่มี รปภ. หรือมี รปภ. แต่ไม่เข้มงวด จะสังเกตบ้านที่ดูมีฐานะ แล้วลงมือใช้อุปกรณ์ที่เตรียมมางัดแงะด้วยความชำนาญ ส่วนรถยนต์ก็จะเปลี่ยนป้ายทะเบียนไปเรื่อย ๆ โดยใช้ป้ายทะเบียนรถที่ขโมยมา สำหรับทรัพย์สินที่ลักมาได้จะนำออกไปจำหน่ายที่ประเทศเพื่อนบ้าน ตามบ่อนการพนัน สำหรับพื้นที่ที่เคยก่อเหตุ มี จ.นนทบุรี 2 ครั้ง, จ.สมุทรปราการ 7 ครั้ง, จ.ปทุมธานี 1 ครั้ง, จ.ฉะเชิงเทรา 2 ครั้ง, จ.ชลบุรี 3 ครั้ง, จ.นครราชสีมา 3 ครั้ง และพื้นที่ กทม. จำนวน 6 ครั้ง

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คนไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่หมู่บ้านสายลม ถนนแจ้งวัฒนะ และหมู่บ้านเมืองทองธานี ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด เพื่อส่งดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป ส่วนของกลางทั้งหมดที่ได้มาจากการจับกุม ผู้เสียหายสามารถติดต่อขอตรวจสอบได้ที่ สภ.ปากเกร็ด ตามวันและเวลาราชการ










