เปิดคดีสุดช็อก สาวพนักงานโรงแรมถูกชายจรจัดใต้สะพานทางด่วน ฉุดไปข่มขืนอย่างรุนแรง ขณะกำลังเดินไปทำงาน ก่อนถูกนำศพไปอำพราง
เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2560 เว็บไซต์มิเรอร์ เปิดเผยรายงานชวนช็อก ชายจรจัดก่อเหตุสะเทือนขวัญ ฉุดหญิงสาวพนักงานโรงแรมที่กำลังจะเดินไปทำงานมาข่มขืนอย่างรุนแรงจนเสียชีวิตในที่สุด โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นที่บริเวณใต้สะพานทางด่วนในเขตฮาเยส ทางตะวันตกของกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร เมื่อเดือนตุลาคมของปีที่ผ่านมา แต่เมื่อไม่นานมานี้ คนร้ายเพิ่งจะถูกตัดสินความผิดฐานฆาตกรรมและได้รับโทษให้เข้าไปใช้ชีวิตในคุก
ศพของเหยื่อสาวถูกพบในสภาพที่เลวร้ายและเริ่มย่อยสลาย หลังจากเกิดเหตุผ่านไปเกือบสัปดาห์ โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนชาวนอร์เวย์ที่บังเอิญไปพบเห็นเท้าของศพโผล่ยื่นออกมา โดยจากรายงานระบุว่า บริเวณที่ศพถูกนำไปซ่อนนั้น เป็นพื้นที่ขรุขระและเป็นจุดบอด มักถูกใช้เป็นที่หลับนอนของพวกไร้บ้าน และเป็นที่ซ่องสุมของพวกคนเมาและเสพยา
สำหรับ ปาร์ดีพ กอร์ เหยื่อสาว เป็นชาวอินเดีย เข้ามาอาศัยอยู่ที่กรุงลอนดอนตั้งแต่ปี 2554 กับนายราชปาล สิงห์ สามี โดยทั้งคู่ต่างตั้งหน้าตั้งตาทำงานสัปดาห์ละ 6 วันเพื่อเก็บเงินส่งไปให้ลูกสาวอายุ 5 ขวบที่ให้พ่อและแม่เลี้ยงอยู่ที่ประเทศบ้านเกิด โดยภายหลังจากที่เธอหายตัวไป ในตอนแรกตำรวจได้ตั้งข้อสงสัยไปที่สามีของเธอ เนื่องจากเขาโกหกว่าเมื่อเช้าวันนั้นเขาเห็นภรรยา ทั้ง ๆ ที่เขายังไม่กลับมาจากที่ทำงานในกะกลางคืน แต่ภายหลังเขาได้รับสารภาพว่าโกหก เนื่องจากกลัวว่าจะมีความผิดถูกจับได้ว่าแอบทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต ทางเจ้าหน้าที่จึงดำเนินการสืบหาข้อเท็จจริงต่อไป
จนกระทั่งเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 17 ตุลาคม 2559 เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากบ้านหลังหนึ่งว่ามีคนร้ายพยายายามจะเปิดประตูบ้านของเขา จึงไปตรวจสอบจนพบ นายวาดิมส์ เดินเท้าเปล่า แก้มด้านซ้ายและลำคอมีรอยถูกข่วนหลังถูกจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เห็นสายตาของเขาที่จ้องมองมาอย่างเยือกเย็น และสังเกตว่าหลังของเขามีลักษณะคุดคู้เช่นเดียวกับชายคนร้ายที่ปรากฏในคลิปจากกล้องวงจรปิด จึงได้ดำเนินการควบคุมไปในฐานะผู้ต้องสงสัยในคดีดังกล่าวด้วย
ภายหลังถูกจับกุมเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการนำดีเอ็นเอของผู้ต้องสงสัยไปเปรียบเทียบกับดีเอ็นเอของคนร้ายที่ได้จากศพของเหยื่อสาว ซึ่งผลออกมาว่าตรงกัน เจ้าหน้าที่คาดการณ์ว่าขณะเกิดเหตุ คนร้ายน่าจะกำลังนอนหลับอยู่กับผู้เป็นแม่ที่บริเวณใกล้กับใต้สะพานทางด่วนที่เกิดเหตุ ก่อนจะตื่นขึ้นมาเห็นเหยื่อสาวซึ่งกำลังเดินออกไปทำงาน จึงกระโจนเข้าวิ่งไล่ก่อนจะฉุดไปก่อเหตุดังกล่าว
ขณะที่ด้านจำเลยปฏิเสธข้อกล่าวหาฆาตกรรม และปฏิเสธการให้การใด ๆ กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมทั้งยังปฏิเสธที่จะเสนอหลักฐานพิสูจน์ใด ๆ ในชั้นศาลอีกด้วย อย่างไรก็ดี ทางศาลไม่มีข้อมูลชัดเจนว่าเขาเข้ามาอาศัยที่สหราชอาณาจักรตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่พบว่าเคยแต่งงานอาศัยกับหญิงคนหนึ่งในเขตเฟลต์แฮม ในระยะเวลาเพียงสั้น ๆ ก่อนจะย้ายไปอยู่หลายที่ ทั้งนี้พบว่าก่อนหน้านี้เคยมีคดีติดตัวฐานลักทรพย์และความผิดทางอาญารวม 4 คดี
รายงานยังระบุว่า อัยการชี้ว่าโทษของเขาอาจจะเป็นการจำคุกไม่ต่ำกว่า 30 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรูปคดี ส่วนจำเลยไม่มีท่าทีใด ๆ ภายหลังจากรับฟังข้อมูลต่าง ๆ ในชั้นศาล
ภาพจาก Metropolitan Police






