ในโลกยุคปัจจุบัน เทคโนโลยีคือสิ่งสำคัญที่ช่วยทำให้ชีวิตประจำวันของมนุษย์ง่ายขึ้น โดยเฉพาะเทคโนโลยีเกี่ยวกับการสื่อสาร คอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน และอินเทอร์เน็ต คือสิ่งที่หลายล้านคนทั่วโลกใช้งาน เราสามารถรับรู้ข้อมูลข่าวสารที่อยู่ซีกโลกได้เพียงแค่คลิกเดียว แต่ยังมีประเทศหนึ่งที่ปิดกั้นตัวเองออกจากโลกภายนอก พวกเขามีเทคโนโลยีเป็นของตัวเองที่แตกต่างไปจากที่อื่น ประเทศนั้นก็คือ เกาหลีเหนือ
เมื่อเอ่ยถึงคำว่า เกาหลีเหนือ ในตอนนี้ ทุกคนคงจะคิดถึงภาพ คิมจองอึน ผู้นำสูงสุดที่ฮึ่มฮั่มว่าจะก่อสงครามอยู่ทุกขณะ เกาหลีเหนือดูเป็นประเทศที่ห่างไกล ลึกลับ แต่พวกเขาก็มีการพัฒนาเทคโนโลยีเป็นของตัวเอง ซึ่งแน่นอนว่าเป็นแบบฉบับของตัวเองแท้ ๆ ไม่เหมือนใคร เรามาทำความรู้จักกับ 7 เรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีของเกาหลีเหนือกัน
1. อินเทอร์เน็ต
หลายคนอาจจะไม่คาดว่าประเทศคอมมิวนิสต์ที่ปิดกั้นตัวเองแบบนี้จะมีอินเทอร์เน็ตกับเขาเหมือนกัน โดยอินเทอร์เน็ตในประเทศเกาหลีเหนือมีชื่อเรียกว่า กวางมยอง (Kwangmyong) แปลตรงตัวได้ว่า ดวงดาวอันเจิดจ้า กวางมยองถูกควบคุมโดยรัฐบาลพรรคคอมมิวนิสต์และเป็นระบบที่ตัดขาดจากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง แม้จะเปิดให้สาธารณชนเข้าถึงได้แต่ก็มีผู้ที่ใช้งานเพียงไม่กี่พันคน 3 ภาพจาก KNS / KCNA / AFP
ส่วนอินเทอร์เน็ตที่สามารถเข้าถึงข้อมูลเว็บไซต์ต่างชาติ จะสงวนไว้ให้กับคนบางกลุ่มเท่านั้น เช่น ข้าราชการระดับสูง บุคคลสำคัญต่าง ๆ และชาวต่างชาติ ส่วนประชาชนธรรมดาไม่มีสิทธิ์ได้ใช้งาน
ข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตภายในประเทศของเกาหลีเหนือแทบทั้งหมด จะเป็นข้อมูลของหน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐ แต่ก็มีการใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อการค้าขายเช่นกัน ถึงแม้ว่าจะฟังดูเหลือเชื่อ แต่ตอนนี้เกาหลีเหนือมีเว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์อย่างเป็นทางการแล้ว โดยมีชื่อว่า โอครยู (Okryu) เปิดตัวในปี 2558 ลักษณะเบื้องต้นก็เหมือนเว็บไซต์ขายสินค้าทั่วไป คือขายเสื้อผ้าผู้หญิง รองเท้า กระเป๋า เครื่องสำอาง ไปจนถึงอาหาร ทุกอย่างผลิตจากโรงงานในเกาหลีเหนือ รันบนระบบที่คิดค้นโดยเกาหลีเหนือ และชำระเงินผ่านระบบเดบิตการ์ด
2. เฟซบุ๊ก
แน่นอนว่าอินเทอร์เน็ตของเกาหลีเหนือนั้นไม่สามารถเชื่อมต่อออกสู่โลกภายนอกได้ เว็บไซต์สื่อสังคมออนไลน์อย่างเฟซบุ๊กก็ถูกแบนด้วยเช่นกัน แต่เกาหลีเหนือก็ผลิตเฟซบุ๊กเวอร์ชั่นโคลนนิ่งขึ้นมาใช้งาน ผู้ใช้สามารถล็อกอินเข้าสู่ระบบโดยใช้อีเมล สามารถโพสต์ข้อความลงบนหน้าไทม์ไลน์ของเพื่อน ๆ ได้ แต่เฟซบุ๊กเวอร์ชั่นโสมแดงนี้ไม่ได้เป็นเรื่องลับ ๆ อีกต่อไปแล้ว เนื่องจากดั๊ก มาโดรี นักวิจัยจาก Dyn Networks ไปค้นพบมันเข้าในปี 2559 และมันก็ถูกแฮกข้อมูลไปเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ไม่ปรากฏแน่ชัดว่าหลังจากถูกแฮกไปครั้งนั้น จะยังมีชาวเกาหลีเหนือเข้าใช้งานอยู่อีกหรือไม่
3. คอมพิวเตอร์
ภาพจาก PEDRO UGARTE / AFP
ผู้ที่สามารถครอบครองอุปกรณ์ล้ำค่าอย่างคอมพิวเตอร์ได้คือกลุ่มชนชั้นนำที่มีความสำคัญเท่านั้น แต่นักเรียน นักศึกษาก็มีสิทธิ์เข้าถึงได้ด้วยเช่นกัน โดยคอมพิวเตอร์สาธารณะเหล่านี้จะติดตั้งอยู่ที่มหาวิทยาลับเปียงยาง โรงเรียนต่าง ๆ ร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ก็มีเหมือนกัน และแน่นอนว่าทุกการใช้งานจะไม่เป็นส่วนตัว จะต้องถูกสอดส่องอยู่ตลอด
ระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ของเกาหลีเหนือก็เป็นของที่เกาหลีเหนือคิดค้นขึ้นมาเอง มีชื่อว่า เรดสตาร์ หรือดาวแดง (Red Star) โปรแกรมที่ติดตั้งอยู่ภายในเครื่องประกอบไปด้วยโปรแกรมที่ใช้พิมพ์งาน ปฏิทิน และโปรแกรมฟังเพลง ยูเอสบีแฟลชไดรฟ์ทั้งหมดเป็นของนำเข้ามาจากประเทศจีน แม้บางครั้งจะมีบ้างที่ส่งต่อไฟล์ภาพยนตร์ รูปภาพ หรือข่าวต่าง ๆ ที่ผิดกฎหมาย แต่เนื่องจากคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องมีระบบติดตามอยู่ ไฟล์อะไรก็ตามที่ถูกสร้างขึ้นจะมีลายน้ำกำกับ ถ้าถูกทำสำเนาหรือเคลื่อนย้าย จะสามารถตรวจสอบได้
ด้วยความที่คอมพิวเตอร์เป็นของหายาก ยากที่จะเข้าถึง การจะมีครอบครองสักเครื่องต้องขออนุญาตจากรัฐบาลและลงทะเบียนไว้ แฟลชไดรฟ์จึงเป็นของโก้เก๋ที่เท่อย่างมากในหมู่หนุ่มสาว ชนิดที่ว่าเอามาใส่คล้องคอกันเป็นแฟชั่นเลยทีเดียว
4. โทรทัศน์
โทรทัศน์เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีกันอยู่ทุกบ้าน มันเป็นสิ่งสำคัญที่จำเป็นต้องมี เนื่องจากเป็นช่องทางสำคัญที่รัฐบาลพรรคคอมมิวนิสต์ใช้ในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร ซึ่งส่วนใหญ่คือโฆษณาชวนเชื่อ ช่องที่สามารถดูได้ก็คือช่องสำนักข่าวแห่งชาติ โดยจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเคาะประตูบ้านเพื่อตรวจสอบอยู่เสมอ ๆ ว่าแต่ละบ้านได้เปลี่ยนแปลงการตั้งค่าของโทรทัศน์หรือไม่
5. สมาร์ทโฟน
ภาพจาก ED JONES / AFP
เหมือนกับประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก เกาหลีเหนือก็มีสมาร์ทโฟนใช้เช่นกัน โดย 1 ใน 10 ของประชาชนจะมีสมาร์ทโฟนเป็นของตัวเอง สมาร์ทโฟนเหล่านี้ผลิตโดย โครยอลิงก์ (Koryolink) ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ของประเทศ สามารถใช้งานติดต่อสื่อสารได้เฉพาะในประเทศเท่านั้น ไม่สามารถโทร. ออกนอกประเทศได้ แต่ทั้งนี้ก็มีบางส่วนที่กล้าเสี่ยง โดยชาวเกาหลีเหนือที่อาศัยอยู่ใกล้กับชายแดนประเทศจีน จะแอบนำเข้าซิมการ์ดจากประเทศจีนเข้ามา เพื่อใช้ติดต่อกับญาติพี่น้องที่อยู่นอกประเทศ แต่แน่นอนว่ามันเป็นการกระทำที่มีความเสี่ยงสูงมาก ถ้าเจ้าหน้าที่ทางการตรวจพบ จะถูกจับกุมโดยทันที
6. แท็บเล็ต
ถึงแม้ว่าจะเป็นแท็บเล็ตก๊องแก๊งราคาถูกจากประเทศจีน แต่ราคาที่วางขายในเกาหลีเหนือนั้นเรียกได้ว่าแพงระยับ โดยแต่ละอันจะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 250 ยูโร หรือราว 9,300 บาท มันจึงเป็นสินค้าชาวเกาหลีเหนือส่วนใหญ่ไม่สามารถเอื้อมถึงได้
7. เครือข่ายโทรศัพท์
ในอนาคตข้างหน้าบยอลอาจจะเข้าร่วมเป็นบริษัทเดียวกันกับโครยอลิงก์ ส่วนอนาคตของโอราสคอมนั้นถือว่าริบหรี่ และคาดว่าจะต้องยกกิจการให้ตกอยู่ในความควบคุมของรัฐบาลในอนาคต
ข้อมูลจาก Tech Insider, businessinsider.