แม่ร้องเรียน ลูกสาวพิการทางสมองวัย 19 ปี ถูกเฒ่าวัย 77 ปี ฉุดเข้าไปในห้องข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ หลังดูภาพโป๊แล้วเกิดอารมณ์ทางเพศ แถมขู่ใครเป็นพยานในคดีจะดักฟันปากให้ตาย
เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2560 มีรายงานว่า แม่ของ น.ส.นุช (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี เป็นผู้พิการทางสมอง ได้เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับสมาคมสื่อมวลชน จ.นครศรีธรรมราช เกี่ยวกับกรณีที่ลูกสาวถูกเฒ่าวัย 77 ปี ฉุดเข้าไปในห้องและข่มขืน จนสำเร็จความใคร่ ที่บ้านยายใน อ.ลานสกา เมื่อวันที่ 24 เมษายน ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ในระหว่างที่ตนถูกข่มขืนอยู่นั้น หลานสาวอายุ 9 ขวบ ได้เดินมาเรียกที่หน้าบ้าน จังหวะนั้นตนจึงส่งเสียงร้องและดิ้นหนี หลานสาวได้ยินจึงได้วิ่งไปตามน้าสาวของตนที่บ้านอยู่ไม่ห่างมากนักมาช่วย โดยพังประตูห้องเข้าไปและเห็นภาพพ่อเฒ่ากำลังข่มขืนตนพอดี จากนั้นทางพ่อเฒ่าเมื่อเห็นน้าสาวก็รีบลุกขึ้นนุ่งกางเกงแล้วเดินออกจากห้องไป ก่อนจะปั่นรถจักรยานกลับบ้านตัวเองเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ด้านแม่ น.ส.นุช กล่าวว่า ลูกสาวได้ขึ้นทะเบียนเป็นผู้พิการทางสมอง แต่ยังสามารถสื่อสารเข้าใจและสามารถช่วยเหลือตัวเองได้เป็นอย่างดี ตนจึงได้ส่งไปเรียนในโรงเรียนศึกษาพิเศษแห่งหนึ่งใน จ.ภูเก็ต จนจบ ม.6 ซึ่งตัวลูกสาวมีความสามารถทางด้านการคิดเลขเร็วและด้านคอมพิวเตอร์อีกด้วย ตนจึงให้มาอาศัยอยู่กับยาย ที่ อ.ลานสกา ส่วนตนไป ๆ มา ๆ ระหว่าง จ.นครศรีธรรมราช กับ จ.ภูเก็ต
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น หลังทราบข่าวตนได้พาลูกสาวไปตรวจที่โรงพยาบาล ก่อนจะเดินทางไปที่บ้านพ่อเฒ่าคนก่อเหตุ แต่กลับถูกพ่อเฒ่าและลูก ๆ ของเขา ปฏิเสธไม่รับผิดชอบใด ๆ และยังท้าทายให้ไปแจ้งความ อีกทั้งยังพูดข่มขู่ว่าใครไปเป็นพยานในคดีนี้จะดักฟันปากให้ตาย ต่อมาตนได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลานสกา และทางเจ้าหนาที่ได้ควบคุมตัวพ่อเฒ่าคนนี้มาสอบสวน และตนได้ยื่นขอคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากพ่อเฒ่าคนนี้มีพฤติกรรมคุกคาม ข่มขู่พยานที่เห็นเหตุการณ์อีกด้วย ซึ่งล่าสุดทางลูกของผู้ต้องหาได้นำหลักทรัพย์มายื่นขอประกันตัว และทางเจ้าหน้าที่ก็อนุญาตให้ประกันตัวได้ โดยอ้างว่าการประกันตัวเป็นสิทธิของผู้ต้องหา และคดีนี้ผู้ต้องหาเข้ามอบตัวเองยังไม่ได้มีการออกหมายจับจึงอนุญาตให้ประกันตัว
ด้วยเหตุนี้ ตนจึงตัดสินใจเดินทางเข้าร้องเรียนกับสื่อมวลชนดังกล่าว และจะเดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.นครศรีธรรมราช เพื่อให้ช่วยดูแลสภาพจิตใจของลูกสาว และหากยังเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมก็จะร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมต่อไป หรือหากคดีไม่คืบหน้าอีกก็จะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อร้องเรียนมูลนิธิปวีณาฯ รวมทั้งนายกรัฐมนตรี ซึ่งตนจะเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้ลูกสาวจนถึงที่สุด
ภาพและข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้, เฟซบุ๊ก Top News Th
