JUNG YEON-JE / POOL / AFP
สิ้นสุดความวุ่นวายทางการเมืองที่ยืดเยื้อมานานเสียที ภายหลังจากที่เกาหลีใต้ได้ผู้นำคนใหม่อย่างเป็นทางการแล้ว จากการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2560 ซึ่ง มุน แจ อิน (Moon Jae-in) วัย 64 ปี จากฝ่ายเสรีนิยม คือผู้ที่ได้รับคะแนนเสียงส่วนใหญ่ให้ขึ้นเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของประเทศ โดยได้เข้าพิธีสาบานตนเป็นประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ที่อาคารรัฐสภา ในกรุงโซล เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2560 พร้อมสานต่อภารกิจในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ รวมทั้งดำเนินการเรื่องความสัมพันธ์กับประเทศต่าง ๆ อย่างสหรัฐฯ จีน และเกาหลีเหนือ ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดของคาบสมุทรเกาหลีที่เพิ่มขึ้นทุกขณะ
Ed JONES / AFP
จากลูกผู้ลี้ภัย สู่ตำแหน่งประธานาธิบดี
มุน แจ อิน เกิดเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2496 ที่เกาะคอเจ เกาะเล็ก ๆ ทางตอนใต้ของประเทศเกาหลีใต้ ก่อนจะย้ายมาอาศัยในเมืองปูซาน พ่อแม่ของเขาเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ลี้ภัยชาวเกาหลีเหนือที่เดินทางมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ยังเกาหลีใต้ ในช่วงสงครามเกาหลีเหนือ ชีวิตในวัยเด็กของ มุน แจ อิน เป็นไปด้วยความยากลำบาก พ่อเป็นแรงงานในค่ายกักเชลยศึก ส่วนแม่เป็นแม่ค้าขายไข่ที่ต้องนำลูกชายวัยแบเบาะกระเตงไปทำงานด้วย แต่แม้จะมีฐานะยากจน มุน แจ อิน ก็ยังใฝ่เรียนจนสามารถเข้าศึกษาต่อด้านนิติศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยในกรุงโซลได้จนสำเร็จ เมื่อปี 2515
อย่างไรก็ตามหลังจากเข้าเรียนได้ไม่นานนัก มุน แจ อิน ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำนักศึกษาเข้าร่วมประท้วงการปกครองอย่างเผด็จการของรัฐบาล ปาร์ค จอง ฮี (Park Chung-Hee) ก็ได้ถูกจับกุมและต้องใช้ชีวิตในคุกอยู่ช่วงหนึ่ง ก่อนที่จะได้รับการปล่อยตัวและกลับมาศึกษาด้านนิติศาสตร์จนจบ แต่เนื่องจากประวัติเคยต้องโทษจากการต่อต้านรัฐบาล ทำให้เขาหมดโอกาสที่จะทำงานในศาล
ต่อมา มุน แจ อิน ตัดสินใจกลับมาทำงานเป็นทนายในเมืองปูซาน และได้ร่วมกับสหายอย่าง โน มู ฮยอน (Roh Moo-hyun) ก่อตั้งบริษัททนายความขึ้น มุ่งทำงานเพื่อช่วยเหลือด้านสิทธิมนุษยชนแก่ชาวบ้านและชนชั้นแรงงาน ทั้งยังเคยร่วมกับ โน มู ฮยอน ออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยในเกาหลีใต้ จนนำพาให้ประเทศเกิดการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยได้สำเร็จในปี 2530
ชีวิตครอบครัว
มุน แจ อิน ได้สมรสกับภรรยาคือ คิม จอง ซก (Kim Jung-sook) และมีลูกด้วยกัน 2 คน คือลูกสาว 1 คน และลูกชาย 1 คน
ชีวิตในเส้นทางการเมือง
จากทนายความในปูซาน มุน แจ อิน ได้มีโอกาสสัมผัสชีวิตในด้านการเมืองครั้งแรกภายหลังจากที่ โน มู ฮยอน สหายของเขา เลือกที่จะมุ่งหน้าเข้าเล่นการเมือง และได้รับเลือกตั้งให้เป็นประธานาธิบดีเกาหลีใต้ เมื่อปี 2546 โดย มุน แจ อิน ได้ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาคนสำคัญของประธานาธิบดีด้วยตำแหน่งเลขาธิการประธานาธิบดีฝ่ายกิจการพลเรือน
อย่างไรก็ตามระหว่างนั้น มุน แจ อิน ได้ถูกนักการเมืองบางคนวิจารณ์ว่าเป็นนักการเมืองขี้อาย ที่ดูแล้วไม่เหมาะสมต่อการทำงาน ซึ่งต่อมา มุน แจ อิน ก็ได้ยอมรับว่าเขารู้สึกอึดอัด คิดว่างานที่ทำอยู่นั้นไม่เหมาะกับตัวเขา และเปรียบว่าเหมือนคนที่ใส่เสื้อผ้าไม่พอดีกับตัวเอง มันทำให้เขาคิดว่าตัวเองควรกลับไปทำงานเป็นทนายเหมือนเดิม
ในช่วงเวลานั้น มุน แจ อิน ได้ทำงานเคียงข้างสหายเพื่อรับมือกับปัญหาต่าง ๆ รวมทั้งรับผิดชอบงานด้านกวาดล้างการทุจริตในรัฐบาลด้วย จนกระทั่งในที่สุดหน้าที่ในรัฐบาลของเขาก็จบลง เมื่อประธานาธิบดี โน มู ฮยอน ตัดสินใจจบชีวิตของตัวเองในปี 2552 ภายหลังมีเรื่องอื้อฉาวและถูกสอบสวนเรื่องการรับสินบน
HO / DEMOCRATIC PARTY OF KOREA / AFP
ภายหลังการเสียชีวิตของสหายเก่า มุน แจ อิน ก็ได้กลายมาเป็นความหวังใหม่ของพรรค อย่างไรก็ตามเขาเพิ่งจะตัดสินใจเดินหน้าด้านการเมืองอย่างจริงจัง และเข้ารับสมัครเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีเกาหลีใต้เมื่อปี 2555 แต่ก็พ่ายแพ้ให้กับ ปาร์ค กึน เฮ (Park Geun-hye) ซึ่งเป็นทายาทของ ปาร์ค จอง ฮี อย่างไรก็ตามภายหลังจากที่ ปาร์ค กึน เฮ มีอันต้องพ้นตำแหน่งประธานาธิบดีเนื่องจากเหตุอื้อฉาวอย่างหนัก ในที่สุด มุน แจ อิน ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ทำให้ประเทศก้าวเข้าสู่ความเป็นประชาธิปไตย ก็ได้กลายมาเป็นผู้นำของประเทศอย่างเต็มภาคภูมิ
ทิศทางบริหารประเทศหลังเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีเกาหลีใต้
มุน แจ อิน ได้ให้คำสัญญาจะจัดการกับปัญหาเร่งด่วน เรื่องความทะเยอทะยานด้านการใช้อาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ และหวังจะช่วยผ่อนคลายความกังวลต่าง ๆ ให้กับจีนและสหรัฐฯ โดยหลังจากได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังได้โทรศัพท์มาแสดงความยินดีกับชัยชนะในการเลือกตั้งของ มุน แจ อิน และเห็นด้วยที่จะร่วมมือกันแก้ไขปัญหาเกาหลีเหนือ รวมทั้งทรัมป์ยังได้เชิญเขาให้เข้าเยี่ยมทำเนียบขาวด้วยเช่นกัน นับเป็นจุดเริ่มต้นอันดี ของการทำหน้าที่ผู้นำประเทศในสภาวะกดดันอย่างถึงขีดสุด
ทั้งนี้ มุน แจ อิน ยังประกาศจุดยืนชัดเจนถึงการบริหารประเทศอย่างโปร่งใส ชี้ว่าเมื่อเขาเข้ามารับตำแหน่งมือเปล่า ก็จะขอกลับออกไปมือเปล่าเช่นกัน
ข้อมูลจาก aljazeera.com, globalsecurity.org, reuters.com